แผนสามปีกับบันไดสามขั้น ขั้นที่สาม !!!

ผ่านมาแล้ว 8 ตอน ตอนนี้เป็นตอนที่ 9 และเป็นตอนที่ชื่อว่า แผนสามปีกับบันไดสามขั้น ขั้นที่สาม ซึ่งเป็นขั้นสุดท้ายของการเตรียมตัวยื่น Portfolio เพื่อเข้าคณะแพทยศาสตร์ที่เปิดรับ จากบันไดสองขั้นแรกที่เราพูดถึงไปแล้วคือ

  • English Proficiency – IELTS
  • Academic Achievements – BMAT

ขั้นที่ 3 ก็เป็นเรื่องที่เดาได้หายากไม่ แม้นว่าจะมิได้กล่าวนำจำนรรจา แต่ก็คิดว่าทุกท่านคงจะคาดเดาได้ไม่ยากนักนั่นก็คือ PORTFOLIO การสรรหาผลงานและกิจกรรมเพื่อนำมาประกอบใน Portfolio ให้ตรงตามความต้องการของมหาวิทยาลัยที่เป็นเป้าหมาย ก็ไม่ได้เป็นเรื่องง่ายเช่นกัน และ เป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลาในการเก็บ ไม่สามารถมาเร่งทำในรอบ 3 เดือน 6 เดือน หรือ 1 ปีได้ มันต้องมีของมาบ้างในช่วง ม.4 – ม.5


กิจกรรมเพื่อ Portfolio

บางทีบางครั้งนึกไม่ออกว่ามันคืออะไร? อะไรใช่อะไรไม่ใช่? ก็ลองไปนั่งอ่านประกาศรับสมัครของมหาวิทยาลัยต่างๆ บางทีอ่านแล้วก็ยังไม่รู้อีก ก็ต้องลองไปหาจาก Internet มาดูกันบ้างว่ารุ่นก่อนๆเขาทำกันอย่างไร

ตรงนี้ก็สำคัญ ผลงาน/กิจกรรม อาจจะไม่สามารถใช้ได้หมดกับทุกคณะ/ภาควิชา และ มหาวิทยาลัย ดังนั้น เราจะต้องเลือกให้เหมาะสมกับ คณะ/สาขา วิชานั้นๆด้วย

ตอนแรกก็เก็บรายละเอียด Requirement ของมหาวิทยาลัยเป้าหมายนั่นก็คือมหาวิทยาลัยขอนแก่น

ตัวอย่างการเก็บ Requirement ของคณะแพทย์ศาสตร์มหาวิทยาลัยขอนแก่นก็ตาม Link นี้เลยครับ

https://wp.me/p5DNAK-4SW

แล้วลองรวบรวมของมหาวิทยาลัยอื่นๆด้วย ซึ่งรวมๆแล้วก็จะมี Requirement ประมาณนี้

ซึ่งในการทำ Portfolio ของแต่ละมหาวิทยาลัย ก็อาจจะมีข้อจำกัดที่แตกต่างกันไป บางมหาวิทยาลัยก็ไม่ได้กำหนดไม่ได้ระบุอะไรมากมาย บางมหาวิทยาลัยก็มีข้อกำหนดยิบย่อย ดังนั้น ต้องอ่านรายละเอียดในประกาศให้ดีดี

มหาวิทยาลัยขอนแก่น

…..การได้รับรางวัลหรือการเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆในระดับมัธยมศึกษาที่แสดงถึงทักษะพิเศษทางด้านวิชาการ ด้านสังคม ด้านความคิดสร้างสรรค์ ด้านความสามารถพิเศษ ด้านจิตสาธารณะ และด้านความเป็นผู้นำ…..

ซึ่งในประกาศ ไม่ได้ระบุเลยว่า portfolio จะมีข้อกำหนดอะไรบ้าง กำหนดไม่เกิดกี่หน้า อะไรประมาณนี้… ไม่มี ก็เลยโทรไปถาม ปรากฏว่าเจ้าหน้าที่บอกว่า ไม่เกิน 10 หน้ากระดาษ A4 โดยไม่รวมหน้าปกและสารบัญ

มหาวิทยาลัยมหิดล แพทย์รามา

….Portfolio เป็นส่วนที่ใช้ในการพิจารณาเรียกผู้สมัครมาสัมภาษณ์….

ของรามาจะแตกต่างจากที่อื่นตรงที่ ต้องกรอก Portfolio ลงในระบบของเขา โดยจะพิมพ์เป็นภาษาไทยหรือภาษาอังกฤษ ก็ได้ โดยมีข้อมูลที่จะต้องพิมพ์ประมาณนี้

  • Personal Statement โดยกำหนดให้เขียนใน 3 หัวข้อคือ (ความยาวไม่เกิน 5300 ตัวอักษา รวมช่องว่าง)
    • เหตุผลที่สมัครเรียนแพทย์ ในแต่ละโครงการ
    • แรงจูงใจในการอยากเรียนแพทย์
    • จุดมุ่งหมายในชีวิต
  • กิจกรรม/ผลงาน 15 กิจกรรม (เขียนอธิบายแต่ละกิจกรรมโดยสังเขป ไม่เกิน 700 ตัวอักษร รวมช่องว่าง)
  • เลือก 3 ใน 15 กิจกรรมที่คิดว่ามีคุณค่า หรือมีความหมายมากที่สุอ พร้อมอธิบายรายละเอียดและเหตุผลที่เลือก (เขียนอธิบายแต่ละกิจกรรม ไม่เกิน 1325 ตัวอักษร รวมช่องว่าง)
  • หลักฐานของกิจกรรม ส่งเป็น jpg pdf หรือ Link youtube ในกรณีที่เป็นวิดิทัศน์

จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

  • แฟ้มสะสมผลงานที่แสดงตัวตน ความรู้ ความสามารถ ทักษะ การเข้าร่วมกิจกรรม หรือ รางวัลที่ได้รับ ในช่วง 4 ปีที่ผ่านมาในด้าน จิตสาธารณะ การวิจัย หรือ กิจกรรมวิชาการอื่นๆ
  • ไม่เกิน 10 หน้ากระดาษ A4 ไม่รวมปกและสารบัญ
  • ไม่ต้องแนบรูปถ่ายที่แสดงการทำกิจกรรม หรือ รูปถ่ายการรับรางวัลใดๆ

มหาวิทยาลัยนวมิทราธิราช แพทย์วชิระ

ไม่ได้กำหนดรายละเอียดอะไรเลย ให้ส่ง Portfolio เพื่อการพิจารณา โดยจัดทำไม่เกิน 15 หน้ากระดาษ A4 และขนาดไฟล์ PDF ไม่เกิน 5 MB โดยมีรายละเอียดดังนี้

  • ทัศนคติต่อหลักสูตร/สาขาวิชาที่สมัคร และเหตุผลที่จะบอกว่าทำไมผู้สมัครควรได้รับการคัดเลือก กิจกรรมหรือประสบการณ์ที่เกี่ยวข้องกับหลักสูตร/สาขาวิชานั้น
  • เกียรติบัตร ประกาศนียบัตร หรือหลักฐานอื่น ที่เกี่ยวข้องกับการเข้าร่วมกิจกรรมที่สำคัญกับหลักสูตร
  • เอกสารรับรอง หรือหลักฐานอื่น ที่แสดงถึงการเข้าร่วมกิจกรรมส่งเสริมจิตสาธารณะ
  • เอกสารรับรอง หรือหลักฐานอื่น ที่แสดงว่าเป็นผู้มีความรู้ความสามารถ หรือทักษะโดดเด่นทางด้านคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ภาษาต่างประเทศ ศิลปะการแสดง หรือ เทคโนโลยีสารสนเทศ ซึ่งเป็นกิจกรรมในระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย

มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

  • ผลงานที่แสดงถึงประสบการณ์ที่เกี่ยวข้องกับวิชาชีพแพทย์ 1 ผลงาน
  • ผลงานด้านอื่นๆ 3 ผลงาน โดยไม่ซ้ำด้าน
    • ด้านนวัตกรรม/วิจัย/ความคิดสร้างสรรค์
    • ด้านคุณธรรม/จริยธรรม
    • ด้านการทำงานเป็นทีม
    • ด้านจิคอาสา/บำเพ็ญประโยชน์
    • ด้านกีฬา
    • ด้านศิลปะ/ดนตรี
    • การแข่งขันวิชาการ (วิทยาศาสตร์ หรือ คณิตศาสตร์)

วิทยาลัยวิทยาศาสตร์การแพทย์ เจ้าฟ้าจุฬาภรณ์ PCCMS

Portfolio จำนวน 10-20 หน้า รวมปก ประกอบด้วย

  • ประวัติส่วนตัว
  • ผลงานวิจัยและวิชาการรวมทั้งรางวัลหรือทุนที่ได้รับ
  • กิจกรรมบำเพ็ญประโยชน์ต่อสังคม จิตอาสา หรืออื่นๆ
  • Essay 800-1000 คำ หัวข้อใดหัวข้อหนึ่งดังนี้
    • ความล้มเหลวหรือความผิดพลาดในอดีต และสิ่งที่ได้เรียนรู้
    • ความสำเร็จหรือประสบการณ์ที่ดีในอดีตที่มีผลต่อชีวิตในปัจจุบัน

มหาวิทยาลัยศรีนคริทนทรวิโรฒ – Nottingham

เกียรติบัตร หรือ ประกาศเกียรติคุณ ด้านการเรียน และด้านอื่นๆ

มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ – CICM

  • Personal Profile, Academic Education Results and Academic Activities
  • Talent Vocation and Research Skill
  • Moral and Ethics Activities

สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้า เจ้าคุณทหารลาดกระบัง

Personal Statement describes the motivation for studying medicine and their expectation for the academic career. The length should not exceed 1000 words.


รวมๆแล้วมีกิจกรรมอะไรบ้าง?

ซึ่งจากที่เราไล่อ่านมาทั้งหมด จะเห็นว่ามีหลายกิจกรรมที่ใช้เหมือนๆกันในหลายๆมหาวิทยาลัย และ แต่ละมหาวิทยาลัย ไม่ได้ต้องการเด็กที่มีผลงานหรือกิจกรรมทางด้านหนึ่งด้านใด แต่อยากจะได้เด็กที่มีผลงานและกิจกรรมจากหลายๆด้าน แต่อาจจะมีคิดไว้ในใจแล้วว่า ด้านไหนสำคัญสุด อะไรประมาณนั้น (แบบว่าคิดไปเอง)

วางแผนกันเลย

ก็ในเมื่อเรามีเป้าหมายแล้วว่า อยากจะยื่นพอร์ตแพทย์ และได้ข้อสรุปแล้วว่าวางเป้าหมายหลักมี่ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ก็คิดการใหญ่ วางแผนได้เลย

อันดับแรก ก็เก็บข้อมูลที่ทำมาตลอด(โดยไม่ได้ต้ังใจว่าจะเอามาใช้ในการนี้ แต่ทำเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว) ทั้งจิตอาสา ทั้งการช่วยงานโรงเรียน ทั้งงานกิจกรรมต่างๆ เท่าที่มี เก็บมาก่อน แล้วค่อยมาดู มาหาทำเพิ่มเติม สำหรับกิจกรรมผลงานด้านอื่นๆที่ยังขาดหายไป

เราอาจจะไม่สามารถทำได้ทั้งหมดตามที่เขาต้องการ
เราอาจจะทำได้ในสิ่งที่ไม่ตรงตามความต้องการเขา

ก็ไม่เป็นไร มีโอกาศ มีจังหวะก็ทำ

บางกิจกรรมจนวันนี้ ก็ยังหาไม่ได้เลยก็มี และเป็นเรื่องที่สำคัญพิควร นั่นคือ ผลงานหรือกิจกรรมทางด้านวิชาการ / โตนงงาน / การวิจัย “ไม่มีเลย”


หาทำที่ไหน?

ไม่ใช่ อย่าหาทำ แต่กลายเป็นว่า หาทำที่ไหน? !!! ซึ่งอย่างที่บอก บางครั้งนึกไม่ออกจริงๆ ที่คิดออกแบบคร่าวๆที่เคยผ่านๆตานะครับของสายคุณภาพชีวิตหรือสายแพทย์

วิชาการ / โครงงาน / วิจัย
ของยากเลยครับ เพราะลูกไม่ได้ทำเลย เลยไม่รู้จะแนะนำยังไง แต่ถ้าเขามีสอบแข่งขัน มีประกวด มีอะไร ก็เข้าร่วมกับเขาเก็บๆมาสะสมเอาไว้ครับ ส่วนโครงงาน/วิจัย บางแผนการเรียนก็มีให้ทำอยู่แล้ว จริงๆก็สามารถนำมาใช้ประกอบได้เลย แต่บางแผนการเรียนไม่มี ก็อาจจะต้องขวนขวายด้วยตนเอง อาจจะหาครูที่ปรึกษาในการทำก็ได้ครับ

จิตอาสา
อันนี้หาทำได้เยอะสุด เพราะมีมากมายเยอะจนคิดไม่ออก มากจนคิดไม่ถึง ตามโรงพยาบาล ตามสถาบันอะไรต่างๆมีหลากหลาย บางที่ก็มี Certificate ให้ หลายที่ก็ไม่มี ยกตัวอย่างเช่น

จิตอาสารามา เป็นงานจิตอาสานะครับเช่น วัดส่วนสูง ชั่งน้ำหนัก ช่วยลงทะเบียน งานไปรษณีย์ งานอื่นๆอีกเยอะแยะมากมาย

จิตอาสาศิริราช จะมีงานจิตอาสาลหายรูปแบบ ต้องเฝ้าจับตาดูครับ

จิตอาสาโรงเรียนคนตาบอด หรือ มูลนิธิช่วยคนตาบอดแห่งประเทศไทยในพระบรมราชินูปถัมภ์

มูลนิธิบูรณะชนบทในพระบรมราชูปถัมภ์ ไปทำสมุดให้น้องๆ

สมาคมบ้านปันรัก มูลนิธิบ้านอารีย์ ใกล้สามเสนแค่นี้เอง เด็กๆเดินผ่านบ่อย ไปสอนผู้สูงอายุในการใช้งานเครื่องมือสื่อสารและเทคโนโลยีใหม่ๆ สอนคุณลุงใช้ Instagram สอนคุณป้าใช้ติ๊กตอก ใครจะไปรู้ว่า อีกหน่อยท่านอาจจะกลายมาเป็น Content Creator ก็เป็นได้

เพื่อนทอฝัน โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า เย็บเต้านมเทียม เพื่อผู้ป่วยมะเร็งเต้านม ฯลฯ

นอกจากนี้ก็ยังมีกลุ่มมีชมรมอีกมากมายที่ทำโดยมีค่าใช้จ่ายหรือไม่มีค่าใช้จ่ายก็ตาม ลองค้นหาดูนะครับ

ประสบการณ์ด้านวิชาชีพแพทย์
ก็อาจจะเป็นกาเข้าค่าย พยายามเข้าค่ายที่เป็นทางการที่ นิสิต/นักศึกษา ร่วมจัดกับคณะแพทยศาสตร์ของมหาวิทยาลัยนั้นๆ น้ำหนักความน่าเชื่อถือก็มีมากขึ้นหน่อย
การไปฝึกงานตามโรงพยาบาลต่างๆ ซึ่งอาจจะยากตรงที่การติดต่อเพื่อขอฝึกงานนี่แหละครับ แต่ถ้าได้ก็เป็นการดีเพราะเราได้เรียนรู้การปฏิบัติงานจริงของวิชาชีพนี้

ความเป็นผู้นำ
บางคนอาจจะนึกไม่ออกว่าอะไรที่มันเข้าข่ายนี้บ้าง ขอยกตัวอย่างง่ายๆเลยนะครับเช่น การเป็นหัวหน้าห้อง การเป็นหัวหน้าชุมนุมหรือชมรมต่างๆในโรงเรียน การเป็นประธานสี ฯลฯ

การช่วยงานในโรงเรียนอย่างที่ลูกทำคือ ช่วยงานโสตทัศนศึกษา ก็สามารถนำมาใส่ไว้ใน portfolio ได้ เช่นเดียวกันกับลูกหลานท่าน ถ้าได้ทำกิจกรรมต่างๆกับโรงเรียนก็สามารถนำมาพิจารณาได้ตามความเหมาะสม

ประมาณนี้นะครับ ที่เหลือๆก็อาจจะตามหัวข้อเลย กีฬา ศิลปะการแสดง ดนตรี ฯลฯ

…แต่ทั้งหมดนี้ ในภาวะโควิด เด็กๆก็อาจจะมีความยากลำบากเพิ่มมากขึ้นที่จะทำหรือเก็บผลงาน ต้องวางแผนดีๆ…


บทสรุป

การเก็บผลงานและกิจกรรม เป็นบันไดขั้นที่สาม ที่จะบรรลุวัตถุประสงค์แล้ว แต่ทุกอย่างยังไม่ได้จบแค่นี้ การจัดทำ Portfolio ก็ยังเป็นศาสตร์และศิลป์ที่จะต้องคำนึงถึงกันเป็นอันดับต่อไป

บทความอื่นๆ

บทความที่ผ่านมา Series samsen2U
ตอนที่ 1 – เป้าหมาย

ตอนที่ 2 – ปักธงแรก…สำคัญมาก

ตอนที่ 3 ลูกสนใจแพทย์รอบ portfolio … เอาละสิ !!

ตอนที่ 4 หาข้อมูล…หมอรอบ portfolio

ตอนที่ 5 — ทำไมถึงต้องเป็นรอบ PORTFOLIO

ตอนที่ 6 – แผนสามปี กับบันไดสามขั้น : ขั้นที่ 1

IELTS

ตอนที่ 7 – แผนสามปีกับบันไดสามขั้น : ขั้นที่ 2 Academic Achievements

ตอนที่ 8 – เปิด Requirement คณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยขอนแก่น รอบแฟ้มสะสมผลงาน Portfolio