Legoland นี้อยู่ในโครงการรวบรวมบันทึกการเดินทางจากแหล่งต่างๆมาที่นี่ … บันทึกเป็นไดอารี่ท่องเที่ยวของครอบครัว …. Legoland Malaysia ในส่วนของสวนน้ำ Water Park ที่ดูแปลกตาจากสวนน้ำที่อื่นๆแน่นอน …
LEGOLAND
เรามาเริ่มกันตั้งแต่ประตูทางเข้าจากทางฝั่ง Legoland Theme Park กันเลยครับ เราสามารถเข้าออกระหว่าง Water Park กับ Theme Park ได้ตลอดถ้าเราซื้อตั๋วสำหรับทั้งสองสวนนะครับ
มาถึง ก็รีบแจ้น วิ่งไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนเลย
ห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าก็ยังดูสะอาดสะอ้าน
เสร็จแล้ว ก็ลงมาเล่นกันได้เลย
สวนน้ำที่นี่เทียบกับ Santorini Water Fantasy แถวชะอำบ้านเราไม่ได้เลย ของบ้านเรามันส์กว่า สนุกกว่าเยอะ แต่ที่นี่ที่ดีกว่าก็คือการตกแต่งส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องของ Lego ล้วนๆ
นี่ไงที่ บอลล์ บอลล์ อยากเล่น ว่าแล้วก็ลงน้ำไปสะสมตัวเลโก้กันเลย
ไม่ยอมไปเล่นอย่างอื่นเลย
พักเบรก กินผลไม้ก่อน
เดินเล่นรอบๆมั่ง
พอฝนจะมา ก็จะมีเจ้าหน้าที่เป่านกหวีด พร้อมให้ทุกคนขึ้นจากสระ … หยุดเล่นชั่วคราว …
ชมกันต่อ…ใกล้อวสานแล้ว
หนีมาเล่นตรงนี้บ้าง
ใครจะเดินออกไปเลยผ่านทางหน้าโรงแรมเลยก็ได้
แต่เรายังพอมีเวลา ก็เลยเดินกลับเข้าไปที่สวนแห้ง เล่น โน่น นี่ นั่น อีกหน่อย
พนักงานที่นี่อัธยาศัยดีเยี่ยมทุกคน
ว่าแล้วก็จัดเลย
เล่นพอหนำใจ แล้วก็เดินมารับของที่ฝากไว้ ตรง mini market ที่ติดกับ Store ที่เราซื้อของนั่นแหละ (น้องฝนเริ่มลงมาแล้ว)
หรือใครจะเดินไปลุย Shop อื่นๆอีกก็ได้
บอลล์ มาที่ The Brick Shop มีแบบนี้ด้วย ให้ประกอบเป็นตัว 1 ตัวมี 5 ชิ้น
ใครอยากจะประกอบอย่างไร ยัง ไง ก็ได้ ได้แล้วไปจ่ายเงินในราคา 3 ตัว 25 RM
ก็เลยจัดซ๊ะ
นั่งแต่ง นั่งต่อ แบบโน้นแบบนี้
หรือใครอยากซื้อแบบชั่งกิโลขาย ก็เข้ามาตักได้เลย
พวงกุญแจ ก็มาอีกล๊ะ ….
อันนี้ … จัดให้
เดินไป เดินมา ทำไมมันหลายกล่องจัง แล้วไอที่ฝากเอาไว้อีกหละ
ระหว่างรอ ก็มานั่งทานกาแฟที่ The Cafe มีเพลงไทยด้วยแฮ๊ะ
ฝนเทลงมาพอดี เราก็เลยค่อยๆเดินเลาะไปตามทางเดิน ไปถึงที่นัดหมายเพื่อขึ้นรถ
คราวนี้ เขาจะเรียกชื่อขึ้นรถทีละกลุ่ม ก็ทยอยขึ้นไปหาที่นั่งกัน
วันนี้ได้เจอตรรกะการหาที่นั่งของคนสิงค์โปร(ที่รู้เพราะตอน immigration ที่สิงค์โปรเขาเดินช่องของเขา)
กล่าวคือ เราไปกัน 3 คน เก้าอี้เป็นแบบคู่ ข้างละ 2 ที่นั่ง ก็เลยให้แม่ลูกนั่งคู่กันสองคน เราก็นั่งข้างหลังคนเดียว
เหลือที่นั่งหลังเราอีก 2 ที่ พ่อลูกสิงค์โปร ขึ้นมา แทนที่เขาจะไปนั่งสองที่ด้วยกัน พ่อมานั่งข้างๆเรา แล้วให้ลูกนั่งด้านหลัง
ลูกถามว่าทำไมไม่มานั่งด้วยกัน พ่อก็บอกว่า ลูกจะได้นั่งสบายๆ
…. โอววววว แม่เจ้า ทั้งตัวพ่อ และ ตัวเรา ตัวใหญ่เกินเก้าอี้ทั้งคู่ ต้องมานั่งเบียดเหงื่อกันเนี๊ยะ น๊ะ …..
Immigration ขาออกที่ มาเลเซีย ก็ง่ายๆ คิวเยอะ แต่มา immigration ที่สิงค์โปรนี่สิ คิวเยอะแต่กวดขันพอดู คิวก่อนหน้าและหลังเราเป็นครอบครัวชาวอินโดนีเซีย(มารู้ทีหลังว่ามาด้วยกัน แต่ตอนวิ่งเข้าแถวโน้นแถวนี้ ไปมาไม่พร้อมกัน เขาเลยแยกกัน)
ซึ่งจริงๆแล้ว ก็มารถคันเดียวกันกับเราด้วยแหละ ลูกสาวอยู่ด้านหน้าเรา ส่วนพ่ออยู่หลังเราไปอีก คิว สองคิว ลูกสาวพูดอังกฤษไม่ค่อยได้ ยึกยักกับ ตม. อยู่พอสมควร พ่อก็มาช่วยตอบคำถาม (ตม.เป็นหญิงเชื้อสายอินเดีย) พอลูกสาวผ่านไป เราก็เลยบอกให้พ่อเขาต่อเลย (ความจริงต้องเป็นคิวของครอบครัวเรา) ปรากฏว่า คราวนี้ เรื่องยาว ตม. ซักโน่น ซักนี่ ทำงานอะไร บราๆๆ แล้วบอกให้พ่ออินโดเดินตามมา …..ไปห้องเย็น มีเรียกหัวหน้าหรือทีมงานตามไปด้วย หายไปนาน กว่าจะกลับมานั่ง ต๊อกๆ ต่อ ส่วนพ่ออินโดก็ยังคงอยู่ในห้องเย็น
เป็นคิวของเรา นะสิ ก็เลยเดินเข้าไปทั้งครอบครัวสามคนพ่อแม่ลูก เราก็แกล้งเริ่มชวนคุยนิดหน่อยว่า ชื่อคุณเหมือนคนไทยเลย กฤษณา อะไรทำนองนี้ …. คราวนี้ เรื่องยาวเลย เขาก็คุยแบบว่า ใช่น๊ะ ฉันเห็นคนไทยชื่อคล้ายๆคนอินเดียเยอะ คงมาจากรากศัพท์เดียวกัน นี่อย่างแฟนคุณ ก็น่าจะมาจากรากศัพท์ทางโน้นเช่นกัน ….. พระเจ้า … ลดความตึงเครียดไปหมดเลย คราวนี้คุยกันสนุกยิ้มแย้มแจ่มใส ผ่านฉลุย
เราขึ้นมานั่งรอบนรถ นานพอควรกว่า ครอบครัวอินโดจะมาขึ้นรถได้
และเราก็กลับมาถึง Singapore อย่างสบายๆ มื้อเย็นวันนั้นก็เลยจัดที่ Food Court ใต้ Singapore flyer นั่นแหละ