ถือว่าเป็นปีแรกที่คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เปิดอย่างเป็นทางการเพื่อรับนิสิตแพทย์รุ่นที่ 1 และก็ถือว่าเป็นไปตาม Trend เลยที่เปิดรับในรอบ Portfolio ด้วย
ปฏิทินการคัดเลือก
+ รับสมัคร : 1 พฤศจิกายน 2566 – 4 มกราคม 2567
+ ประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิ์สอบสัมภาษณ์ : 22 มกราคม 2567
+ สอบสัมภาษณ์ : 23-27 มกราคม 2567 (รอฟังประกาศอีกครั้ง)
+ ประกาศผล : 30 มกราคม 2567
จาก Timeline ของมหาวิทยาลัยต่างๆ จะเห็นได้ว่า วันที่เกษตรสอบสัมภาษณ์นั้น (23-27/01/67 ยังไม่รู้ว่าวันไหน) มีมหาวิทยาลัยต่างๆ ที่รู้ผลการคัดเลือกแล้ว เช่น
+ แพทย์รามา ประกาศผลวันที่ 19/01/67
+ แพทย์ศิริราช ประกาศผล 25/01/67 (ก็ต้องดูว่าแพทย์เกษตรจะสอบสัมภาษณ์วันที่เท่าไหร่)
+ แพทย์เชียงใหม่ ประกาศผลรอบ 1.1 วันที่ 19/12/66 และ 1.2 วันที่ 16/01/67
+ แพทย์ขอนแก่น ประกาศผลวันที่ 18/01/67 และเรียกสำรอง 24/01/67
+ แพทย์สงขลา ประกาศผล 27/12/66
ซึ่งก็เท่ากับว่า ผู้ที่ได้รับการคัดเลือกจากคณะแพทย์มหาวิทยาลัยอื่นเรียบร้อยแล้วและพอใจกับมหาวิทยาลัยนั้น ถ้ามีชื่อเข้าสัมภาษณ์ที่แพทย์เกษตรก็น่าจะไม่มาเข้าสอบสัมภาษณ์เป็นส่วนใหญ่ (คหสต. บวก ขอร้อง) เพราะจะช่วยให้เพื่อนๆที่ยังไม่ได้ที่เรียนได้มีโอกาสมากขึ้น เท่าที่เห็นที่มหาวิทยาลัยเกษตร ก็ไม่เห็นมีขั้นตอนการเรียกสำรองด้วย
ก่อนอื่นเรามาดูคร่าวๆของข่าวที่ออกมาก่อนหน้านี้ว่าจะรอบรอบไหนอย่างไรกี่คน
รอบ TCAS-1 PORTFOLIO
ซึ่งก็เป็นไปตามที่เคยประกาศไว้ล่วงหน้าว่าในรอบ Portfolio นั้น จะแบ่งรับออกเป็น 2 โครงการคือ
+ โครงการช้างเผือก รับ 12 คน (ตอนแรกเขียนเป็นเชือกไปละ แฮะๆ)
+ โครงการเรียนล่วงหน้า รับอีก 3 คน
ซึ่งใน Post นี้เราจะมาอ่านละเอียดกันเฉพาะในเรื่องของโครงการช้างเผือกนะครับ จริงๆก็มีสั้นๆ 2 หน้า แต่เนื้อหาเน้นๆ
คุณสมบัติเฉพาะ
+ GPAX 5 เทอม ≥ 3.50
+ GPA (เอาเป็นว่า 5 เทอม) วิชา วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ ≥ 3.50
+ GPA วิชา ภาษาไทย สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ≥ 3.00
PORTFOLIO
น้ำหนักของ Portfolio โดยรวมนั้น คิดเป็น 25% ของทั้งหมด ส่วนในตัว Portfolio xประกอบไปด้วยอะไรบ้าง และ แต่ละส่วนมีสัดส่วนคะแนนเท่าไหร่ ก็มาดูกัน (คะแนนที่ปรากฏคือคะแนนเฉพาะในส่วนของ Portfolio)
+ ผลงานด้านต่างๆที่คิดว่าสำคัญที่สุด 3 ผลงาน ไม่เกิน 4 หน้า A4 (30 คะแนน)
+ ผลงานหรือกิจกรรมอื่นๆ ไม่เกิน 10 ผลงาน ไม่เกิน 2 หน้า A4 (20 คะแนน)
+ ความสามารถโดดเด่นด้านต่างๆ (20 คะแนน) (ตรงนี้เกือบจะเหมือนของ ศรร. เมื่อปีที่แล้วในโครงการผู้มีความสามารถพิเศษเลย)
+ ภาษาต่างประเทศ
+ ธุรกิจการเงิน
+ วิจัยและนวัตกรรม
+ คอมพิวเตอร์และเทคโนโลยี
+ โอลิมปิกวิชาการ
+ ความเป็นผู้นำชุมชน สังคม
+ ศิลปวัฒนธรรม
+ Artificial Intelligence / Robot
+ อื่นๆ
+ รางวัลที่ได้รับ
+ ระดับชาติ (20 คะแนน)
+ ระดับนานาชาติ (25 คะแนน)
ได้คะแนนรวมเท่าไหร่ มาลดทอนเหลือ 25%
ข้อกำหนดของ PORTFOLIO ก็คือ ความยาวรวมไม่เกิน 10 หน้ากระดาษ A4 ไม่รวมปก คำนำและสารบัญ โดยใช้ font TH Sarabun PSK ขนาด 16
ส่วนตัวมองว่า Portfolio ดูไม่ธรรมดาเลย เหมือนรวมของหลายๆที่หลายๆอย่างมาเป็นชิ้นเดียว แต่ค่าน้ำหนัก 25% ก็ดูว่างานหนักมากแต่น้ำหนักคะแนนน้อยไปหน่อย (ความเห็นส่วนตัวนะครับ) เพราะน้ำหนักไปตกที่ BMAT ตั้ง 70%
STATEMENT OF PURPOSE(SOP) / PERSONAL STATEMENT
น้ำหนักคะแนนของส่วนนี้ คิดเป็น 5% ของน้ำหนักทั้งหมด โดยมีภาพรวมของตัว SOP ประมาณนี้
+ อธิบาย แนะนำตัวเอง เป้าหมายในชีวิต (30 คะแนน)
+ เหตุผลที่อยากเรียนแพทย์ (30 คะแนน)
+ แรงจูงใจที่อยากมาเรียนคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ (30 คะแนน)
+ ภาพรวมในการเขียน (10 คะแนน)
รวมทั้งหมดเป็น 100 คะแนน แล้วมาลดทอนเหลือ 5%
ผลคะแนนมาตรฐานภาษาอังกฤษ
ส่วนนี้ไม่เห็นกำหนดน้ำหนักคะแนน จึงอาจจะเข้าใจได้ว่าเป็นเกณฑ์ขั้นต่ำ ซึ่งถ้าย้อนไปดูประกาศที่ออกมาช่วงแรก จะให้ผลเป็น S/U Satisfied/Unsatisfied นั่นก็คือ ผ่าน หรือ ไม่ผ่าน สรุป เป็นเกณฑ์ขั้นต่ำ
+ IELTS ≥ 6.5
+ TOEFL PBT ≥ 550 CBT ≥ 213 iBT ≥ 79
+ CU-TEP ≥ 75
+ KU-EPT ≥ 65
+ TOEIC ≥ 700
ผลสอบ BMAT – BIOMEDICAL ADMISSION TEST
น้ำหนักคะแนนของ BMAT คิดเป็น 70% ซึ่งก็คือทุกสิ่งทุกอย่างแล้ว ใคร BMAT แรงๆมาเลย
ตอนที่ออกข่าวครั้งแรกบอกว่า 3 section รวมกัน ≥ 12 แต่วันนี้พอประกาศออกมา หายไป 1 เหลือแค่ รวมกัน ≥ 11
สรุปการพิจารณาการคัดเลือก
BMAT 70%
PORTFOLIO 25%
STATEMENT OF PURPOSE 5%