วันก่อนนั่งฟังผู้จัดสอบรายหนึ่งบรรยายเกี่ยวกับการสอบ BMAT ในปี 2022 ว่าจะมีวิธีการสมัครสอบอย่างไร สนามสอบที่ไหนบ้าง ส่งคะแนนสู่มหาวิทยาลัยอย่างไร . . . บลาๆๆๆๆ ก็เลยลองเอามาเล่าสู่กันฟัง เผื่อว่าอีกสองสามวันที่จะต้องเริ่มสมัครกัน จะได้ไม่ติดขัด แล้วเดี๋ยวมาสรุปให้ฟังนะครับเท่าที่จับใจความมาได้ ส่วนภาพที่ capture มา ถ้ามีอันไหนต้องเสริมก็จะเขียนอธิบายนะครับ
สำหรับผู้จัดสอบรายอื่นๆ เข้าใจว่า น่าจะเหมือนๆกันหรือใกล้เคียงกัน
คลิ๊กตรง Registeration
ใส่รายละเอียดส่วนตัว Line ID ใช้สำหรับส่งข่าวสารตรงให้ผู้เข้าสอบ เพราะหลายคนไม่ได้อ่าน eMail
จากนั้น ก็จะเป็นการเลือกมหาวิทยาลัย ให้เราเลือก “Thai Universities/Other universities…”
ส่วนอันนี้สำหรับผู้ต้องการความช่วยเหลือเป็นกรณีพิเศษ ซึ่งปกติพวกเราไม่มีอะไรก็ข้ามไป
ลำดับต่อไปก็เป็นการเลือกสนามสอบ ซึ่งตรงนี้ ผู้จัดสอบแนะนำว่า ค่อยๆ ใจเย็นๆ เพราะถ้าเลือกผิด ชำระเงินแล้ว ชีวิตเปลี่ยนแน่ เพราะนั่นหมายถึงการต้องไปจังหวัดไหนก็ไม่รู้ …. ถามว่าแล้วจะสามารถแก้ไขได้ไหม คำตอบคือได้ แต่ไม่ง่ายไม่ธรรมดา ดูเป็น case by case เพราะบางทีถ้าเปลี่ยนไม่ได้ จะสมัครใหม่ก็ไม่ได้แล้ว เนื่องจาก เลข ID Card จะซ้ำกัน ก็ต้องไปสอบตามที่เลือก
แต่ละสนามมีที่นั่งจำกัด ถ้าเต็มก็ต้องไปสนามอื่นๆที่ใกล้เคียง ถ้าเข้ามาแล้วเจอสนามไหนที่ยังขึ้น status ว่า Seat Available ก็แสดงว่า ยังว่างอยู่
- กรุงเทพมหานคร สอบที่เดิม JJ Mall – 800 คน
- เชียงใหม่ สอบที่เดิม Uniserve – 150 คน
- ขอนแก่น สอบที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล – 500 คน (เต็มเร็ว)
- อุบลราชธานี – 300 คน
- นครราชสีมา – 300 คน
- สงขลา – 75 คน
- ชลบุรี สอบที่โรงแรมรัตนชล
เมื่อหมดขั้นตอนนี้แล้วก็เป็นเรื่องของการชำระเงิน ซึ่งสามารถชำระผ่านแอพธนาคาร scan หรือจ่ายที่ธนาคาร แว่วๆว่าบัตรเครดิตด้วยค่าสมัครสำหรับปีนี้ 8800 บาท แต่อาจมีการเปลี่ยนแปลงตามอัตราแลกเปลี่ยน ใกล้ๆวันสมัครน่าจะทราบชัดเจนอีกครั้งหนึ่ง
เป็นอันจบการจอง หลังจากนั้นก็รอเรื่องเลขที่นั่งสอบ และเตรียมตัวสอบ ทางผู้จัดสอบก็จะส่ง Confirmation of Your BMAT Booking มาให้
เราก็คอยติดตามข่าวสารจาก Line ของผู้จัดรับรองไม่ตกข่าวแน่
วันสอบเอาอะไรเข้าห้องสอบได้บ้าง
ปีนี้ก็ยังคงหลักการเหมือนปีที่แล้วคือ ถือว่าอยู่ในช่วงโควิด ดังนั้น ทางผู้จัดจะไม่ได้เตรียมอุปกรณ์เครื่องเขียนไว้ให้เราเหมือนหลายปีก่อนโน้น
สิ่งที่เราสามารถนำเข้าห้องสอบได้ / ไม่ได้
- ดินสอ HB / 2B (HB ก็พอ) กี่ด้ามก็ได้ ห้ามนำกบเหลาดินสอเข้า
- ยางลบดินสอ
- ปากกาลูกลื่นสีดำ ใช้สำหรับเขียน Essay ไม่ควร(ห้าม)ใช้ปากกาเจล หรือ ปากกาหมึกซึม
- ห้ามนำ น้ำยาลบคำผิด(Liquid) เข้าห้องสอบ
- ห้ามผูกนาฬิกาทุกชนิด ที่สนามสอบมีนาฬิกาประจำห้องสอบให้อยู่แล้ว
- ห้าม/หลีกเลี่ยงใส่ตุ้มหูที่เป็นพวงเป็นตุ้งติ้ง เพราะยิ่งมีสิ่งของพวกนี้เยอะก็จะต้องตรวจละเอียดมากขึ้นเพื่อป้องกันการทุจริต
- แหวนโลหะ พระเครื่อง สิ่งที่ให้กำลังใจสายมูที่เป็นโลหะ เลี่ยงได้เลี่ยง อย่านำไปเลยก็ดี
- เสื้อหนาวนำเข้าได้ แต่ห้ามสวม Hood ขณะอยู่ในห้องสอบ (เสื้อหนาวอาจจะมี Hood แต่ห้ามดึงขึ้นมาคลุมศรีษะ)
- น้ำดื่มนำเข้าได้แต่ลอกฉลากยี่ห้อหรือสิ่งที่มีข้อความออกให้หมด
- ทิชชู่ ยาส่วนตัวที่ใช้ประจำได้
- นักเรียนจะสามารถไปห้องน้ำได้เฉพาะในเวลาที่กำลังสอบเท่านั้น(ไม่มีชดเชยเวลาให้)
ซึ่งเราควรไปถึงสนามสอบ และ รายงานตัวก่อน เวลาที่สอบจริงประมาณ 1500 น. ซึ่งตรงกับที่ประเทศอังกฤษ 0900 น. แต่เราควรไปถึงและรายงานตัวได้ตั้งแต่ 1230 น. แล้วถึงเวลาค่อยมาเข้าแถวเข้าห้องสอบ (ยังจำบรรยากาศที่ JJ Mall ได้ดีเลย)
สอบเสร็จแล้ว ยังไงต่อ
เมื่อทำข้อสอบเร็จ ก็จะประมาณ 1730-1800 น. ยังไม่ลุกจากที่นั่งสอบนะครับ สำคัญมาก เพราะเจ้าหน้าที่จะแจก CRI(Confidential: Results Information) ให้กับทุกคน เป็นเอกสารเฉพาะบุคคล เพราะในนั้นจะมีชื่อ นามสกุล เราพร้อมทั้ง username/password เพื่อใช้เข้าไปดูผลคะแนนในวันที่ 25 พฤศจิกายน 2565 เวลา 1500 น. เป็นต้นไป (กด refresh กันระบม) เพราะฉนั้น อย่าทำหาย ออกมาได้รับโทรศัพท์มือถือคืนก็ถ่ายรูปทันที บางคนไม่ให้พ่อแม่ถ่าย เพราะอยากลุ้นเอง(จะบอกคะแนนหรือไม่บอกอีกเรื่องนึง)
ยังจำได้แม่น วันที่ผลออก ลูกกำลังเรียน รด.อยู่ที่ศูนย์ฝึกดินแดง เราก็เข้าไปดูก่อนละ พอไปรับลูกขึ้นรถมา ก็แย้มๆบอกเขาว่า ผล BMAT ออกแล้วนะ เขาหน้าตื่นเต้นผสมซีดทันที เลยให้เข้าไปดูเอง…. น้ำตาซึม… แทบจะร้องไห้
ผลที่แจ้งออกมาหน้าตาจะเป็นประมาณนี้ ซึ่งก็จะบอกคะแนนทั้ง 3 sections และบอกด้วยว่า เราเลือก Essay ข้อไหน
ตรงช่องหลังสุดที่เขียนข้อความว่า Access your Statement of Results here นั้น ก็คือให้เราเข้าไป doenload ฉบับที่เป็น PDF เอามาเก็บไว้
การแชร์ผลไปยังมหาวิทยาลัย
หลังจากทราบผลแล้ว ก็ถึงเวลาที่เราจะต้องแชร์ผลคะแนนเราไปยังมหาวิทยาลัยต่างๆ ได้ทั้งในประเทศและนอกประเทศ และไม่เกิน 10 มหาวิทยาลัย แต่ใน portfolio ของเราก็พิมพ์และแนบฉบับ pdf ไปด้วย
กรณีเรามีผลสอบ 2 ปี ปกติมหาวิทยาลัยน่าจะใช้ผลคะแนนที่ดีที่สุด และใน portfolio ที่เรายื่น เราก็แนบผลเฉพาะปีที่เราต้องการใช้
เราเข้าไปกดตรง Results Shared With แล้วเราก็เลือกมหาวิทยาลัยที่ต้องการแชร์ ซึ่งเราจะสามารถแชร์ผลสอบนี้ได้จนถึงวันที่ 31 กรกฏาคม 2566