ความคืบหน้ากรณีรอบ 1.1 และ 1.2 ของแพทย์เชียงใหม่รอบ Portfolio

เมื่อวานลงข้อมูลตามที่ได้เห็นจากภาพถ่ายของ ผปค. โดยถ่ายจาก projector ในงานแนะแนว ก็เอามาเขียนเป็นเรื่องเป็นราว ซึ่งก็มีส่วนใหญ่ที่ถูกต้อง แต่ก็มีบางส่วนที่อาจจะทำให้เข้าใจผิด

จากเมื่อวาน

https://wp.me/p5DNAK-5yZ

เพื่อความชัดเจนมากยิ่งขึ้นจึงโทรไปปรึกษากับทางมหาวิทยาลัย เพื่อขอแนวทาง เพราะว่าลูกๆหลานๆจะได้เตรียมตัวทัน สำหรับ TCAS DEK66 ที่กำลังจะมาถึง

สำหรับแนวคิดเรื่องรอบ 1.1 และรอบ 1.2 เข้าใจว่าเป็นแนวคิดของทาง ทปอ. ที่ออกมา และ มหาวิทยาลัยต่างๆสามารถเลือกที่จะใช้หรือไม่ก็ได้

ทั้งหมดนี้เป็นเพียงแค่แนวคิดนะครับ
รอประกาศอย่างเป็นทางการ …
แต่อยากให้ระวังไว้ จะได้เตรียมตัวทัน…


รอบ 1.1 รอบ 1.2 ยื่นยังไง

ว่ากันง่ายๆก็คือ ยื่น Portfolio ตามปกติเหมือนเดิมทุกประการ เหมือนทุกๆปีที่ผ่านมา การยื่นเข้ามาก็ถือว่าเป็นรอบ 1.1 ละ หลังจากนั้นทางคณะฯก็จะประมวลผลตามหลักการให้คะแนนแต่ละส่วนแต่ละโครงการของคณะฯ(โครงสร้างคะแนนอาจมีเปลี่ยนแปลง รอประกาศทางการ) หลังจากนั้นก็จะเรียกผู้ที่ผ่านเกณฑ์มาสัมภาษณ์ อาจจะผู้ที่ผ่านเกณฑ์ทั้งหมด หรือ จำนวน 2 หรือ 3 เท่า ของจำนวนที่รับ แล้วแต่ดุลพินิจ

ผู้ที่ได้รับคัดเลือกจากรอบสอบสัมภาษณ์ ก็จะต้องยืนยันสิทธิ์กับทางระบบ(เข้าใจว่าเป็นระบบเพิ่มเติมของ ทปอ. ต้องรอดูอีกครั้งหนึ่ง ไม่รู้เข้าใจถูกไหม) (และถ้าเป็นระบบของทาง ทปอ.จริง เท่ากับ Lock เลยหรือปล่าวว่า เด็กจะไปคณะแพทย์รอบ 3 ของมหาวิทยาลัยอื่นไม่ได้แล้ว? อันนี้ทางเจ้าหน้าที่ยังไม่ทราบเหมือนกันว่าจะเป็นอย่างไร เพราะจะต้องมีการประชุมกับทาง ทปอ. อีกครั้ง)

สำหรับผู้ที่ไม่ยืนยันสิทธิ์(อาจจะเนื่องจากได้สิทธิ์ของมหาวิทยาลัยที่ต้องการแล้วเหมือนกันในรอบ 1.1 หรือ อาจจะต้องการไปรอบ TCAS3-Admission หรือ รอบ กสพท.) ก็จะรวบรวมจำนวนที่นั่งนี้ ไปรวมกับรอบ 1.2 เลย

รอบ 1.2 เด็กๆก็ไม่ต้องทำอะไรเลย นอกจากจะต้องสมัครและสอบ TGAT / TPAT-1 ให้เรียบร้อย ซึ่งถึงเวลาทางคณะฯก็จะดึงคะแนนมาจาก ทปอ. เอง เพื่อมาประมวลผลในรอบ 1.2 โดยหลักการคิดคะแนนตามที่กล่าวคือ

  • คะแนนจาก Portfolio ที่เคยยื่นมาในรอบ 1.1 นั้น จะคิดเป็น 75%
  • คะแนนจากการสอบ TGAT/TPAT-1 จะคิดเป็น 25%
    • TGAT = 10% (ทราบผลคะแนนวันที่ 6 มกราคม 2566)
    • TPAT-1 = 15% (ทราบผลคะแนนวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2566)

(สำหรับคนที่ไม่ได้สอบ TGAT/TPAT-1 ก็จะได้รับการประมวลผลในรอบ 1.2 เช่นเดียวกัน แต่คะแนนในส่วน TGAT/TPAT-1 ก็จะเป็น 0)

เมื่อประมวลผลตามคะแนนรวมชุดใหม่นี้แล้ว ก็จะเรียกรับนักเรียนที่ได้รับคะแนนตามลำดับสูงสุดลงไปตามจำนวนที่รับในรอบ 1.2 + จำนวนที่ว่างที่เหลือจากรอบ 1.1

ซึ่งรอบนี้ไม่จำเป็นต้องสัมภาษณ์แล้ว เพราะเด็กที่ผ่านมารอบ 1.2 คือคนที่ผ่านเกณฑ์ขั้นต้น และ ได้ทำการสัมภาษณ์ไปในรอบ 1.1 แล้ว

ยกตัวอย่าง เรียนดีภาษาอังกฤษ

ขอยกตัวอย่างกระบวนการของโครงการเรียนดีภาษาอังกฤษ นะครับ ที่เคยประกาศว่า จะรับรอบ 1.1 จำนวน 25 คน และรับรอบ 1.2 จำนวน 5 คน