ที่เขียนนี่ก็เพราะว่าได้นั่งคุยกับหลายๆท่าน ได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็น ได้สัมผัสมาจากประสบการณ์จริง และอื่นๆอีกมากมาย ก็เลยมองว่าลองสรุปออกมาเป็นรูปแบบต่างๆที่เคยเจอมา … ไม่มีถูก ไม่มีผิด นะครับ ทุกท่านสามารถเลือกที่จะเป็นแบบไหนก็ได้ ในช่วงเวลาไหนก้ได้
ส่วนตัวแล้วก็ไม่ได้เป็นผู้ปกครองที่ดีหรอกครับ ก็เหมือนๆกับผู้ปกครองทั่วๆไป ออกจะเจ้ากี้เจ้าการไปหน่อยเสียด้วยซ้ำ ด้วยความว่าถ้าไม่มีใครคิดจะทำ หรือเสนออะไร เราก็จะทำหรือเสนอ … ประมาณนั้น แล้วแต่ว่าในช่วงเวลาต่างๆ ใครมีบริบทแบบไหน
เท่าที่เขียนนี้จะรวมไปหมดทั้งในห้อง Line การร่วมกิจกรรมต่างๆ การกระทำ การมีส่วนร่วม และที่อ่าน ที่คนอื่นเล่าให้ฟัง
PARENT MODEL
คุณเป็นผู้ปกครองแบบไหน?
ผู้ปกครองแบบนี้ก็มีด้วยหรอ?
สังเกตุดูดีดีว่า เวลามีการนัดประชุมผู้ปกครองประจำเทอม ผู้ปกครองที่จะมาประชุมเยอะก็คือผู้ปกครอง ม.1 และ ม.4 เพราะว่าเพิ่งเข้ามาใหม่ ผู้ปกครองที่อยู่มาก่อนแล้วก็จะหายไปจากการประชุมผู้ปกครอง(แบบว่ามีประสบการณ์และรู้ว่าไปแล้วจะมีอะไรบ้าง)
- บ้างก็เกรงว่าจะโดนยัดเยียดตำแหน่งหน้าที่ในกรรมการเครือข่ายผู้ปกครอง
- บ้างก็สบายใจว่าไม่ต้องไปโดนกดดันการบริจาคโครงการต่างๆ กะว่าไปบริจาคทีหลังก็ได้ (จริงๆจะไม่บริจาค หรือ มีน้อยบริจาคน้อย มีมากบริจาคมาก เป็นสิทธิ์ของเรา)
- ฯลฯ
ผมอยู่สามเสนมา 6 ปี ขาดการประชุมประจำเทอมไป 1-2 ครั้งจำไม่ได้ละ
คราวนี้เรามาดูว่าผู้ปกครองที่เจอในทุกๆโรงเรียน ทุกๆระดับการศึกษา มีรูปแบบไหนบ้าง คุณอาจจะผสมผสานหลายรูปแบบแล้วแต่ความเหมาะสมก็เป็นได้
- เงียบสงบ : กลุ่มนี้ก็จะเป็นผู้ปกครองที่ไม่มีปากไม่มีเสียงอะไร ว่าไงว่ากัน ซึ่งถือได้ว่าเป็นส่วนเยอะเลยทีเดียว บางคนไม่พูดไม่เขียนเพราะไม่อยากเจอดราม่า ไม่อยากมีปากเสียง ถ้าพูดไปแล้วไม่เข้าหูใครบางคน แต่ถ้ามีอะไรให้ช่วย มีงานให้ทำ มีกิจกรรมให้ร่วม พวกเขาก็จะปรากฏกายออกมา
- แบ่งปัน : กลุ่มนี้ก็มีเยอะพอควร มีเรื่องอะไรที่มีประโยชน์สำหรับลูกๆก็จะมาแบ่งปัน มีติว มีเรียนพิเศษอะไรก็มาชวน มีสอบโน่น นี่ นั่น ก็มาบอก ฯลฯ
- เจ้ากี้เจ้าการ : คือจะคอยจัดการเรื่องโน่นนี่นั่น จนกระทั่งก้าวล่วงไปในหน้าที่ของผู้อื่น ซึ่งบางมุมก็ดี แต่บางมุมก็เกินเลยไปหน่อย แต่ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรใหญ่โต
- เห็นแก่ตัว : แบบว่าเก็บแต่ผลประโยชน์ส่วนตัว มีงาน มีกิจกรรมอะไรไม่เข้าร่วม แต่ถ้าเกี่ยวกับเรื่องเรียนของลูก ก็จะเข้ามา มีใครมาชวนเรียนพิเศษก็มา ตามงานการบ้านของลูกก็จะมา อย่างที่เคยเล่าว่า มีผู้ปกครองบางท่าน ตามงานการบ้านกลุ่มของลูกด้วยการไปจิก ไปต่อว่า เพื่อนของลูกโดยตรง ไม่ผ่านพ่อแม่เด็ก อันนี้ผมบอกว่าเป็นเรื่องน่าละอายเป็นอย่างยิ่ง และอีกประเภทคือเวลาจับกลุ่มเรียนพิเศษ จะพยายามไม่ให้คนอื่นรู้ จะอยู่ในกลุ่มเล็กๆของตัวเอง อันนี้ เจอมาด้วยตัวเองเลย เป็นผู้ปกครองที่เป็นผู้จัดหาครูมาสอน แต่คำพูดฟังแล้วอึ้ง(พอดีผมนั่งอยู่ด้านหลังเขา เขาไม่รู้ “เอาแค่นี้พอ ชวนมาเรียนเยอะก็จะมาเป็นคู่แข่งแย่งลูกเรา” ถ้าจำไม่ผิดเรียนวิชาเคมีหรืออะไรสักอย่างเพื่อสอบเข้าเตรียมฯ แต่ลูกผมยังไงก็ไม่เรียนอยู่แล้ว ไม่ใช่ทางเขา แต่รู้สึกอึ้งกับความคิด แต่ยังไงก็เป็นสิทธิ์ของเขาเพราะเขาเป็นคนจัด)
- เกินเลย : อีกรูปแบบหนึ่งก็คือ เข้าถึงตัวครูแทบจะทุกวัน ทักท้วงเรื่องโน่นนี่นั่นเพื่อลูกตัวเอง ไปฟ้องไปกล่าวโทษลูกคนอื่นจนเพื่อนๆแทบไม่อยากคบลูกตัวเองแล้ว ลูกได้คะแนนน้อยก็ไม่ได้ต้องเข้าไปหาครูประจำวิชา หรือ หัวหน้าโครงการเลยทีเดียว
- ชอบทำงาน : เวลามีงานกิจกรรมอะไรต่างๆ ก็จะชอบเสนอตัวมาทำ อันนี้ก็เป็นเรื่องดี และมีจำนวนอยู่ไม่น้อย งานเครือข่าย หรือ งานห้อง ก็จะลงไม้ลงมือกันเต็มที่ หรือบางทีก็นำเสนอกิจกรรมต่างๆที่ต้องทำร่วมกัน บางคนทำงานเครือข่าย ทำจนที่บ้านแทบจะไล่ออกจากบ้าน บางทีโดนตำหนิ โดนโน่นนี่นั่น แต่ก็ยังทำงานอยู่ . . . นับถือ
- มีอะไรแปลกๆ : กลุ่มนี้มีน้อย แต่ก็อยากจะพูดถีง เพราะก่อนหน้านี้ ไม่รู้เลยว่า แบบนี้ก็มีด้วยหรอ? คือการพยายามสวมสิทธิ์การเป็นผู้ปกครอง โดยไปขอเป็นผู้ปกครองเด็กที่ไม่ใช่ลูกหรือหลานตัวเอง (ความหมายของคำว่า “ผู้ปกครอง” คือ “ผู้ปกครอง” หมายความว่า บิดา มารดา หรือ บิดา หรือ มารดา ซึ่งเป็นผู้ใช้อา นาจปกครอง หรือ ผู้ปกครองตามกฎหมายแพ่งและพาณิชย์และหมายความรวมถึงบุคคลที่นักเรียนอยู่ด้วยเป็นประจา หรือนักเรียน อยู่รับใช้การงาน เพื่ออะไร? เพื่อที่จะได้รับสิทธิ์ในการเข้ามาเป็นกรรมการเครือข่าย หรือ กรรมการสมาคมอื่นๆที่ระบุว่าต้องเป็นผู้ปกครองปัจจุบัน ทั้งๆที่ลูกตัวเองจบออกไปละ ก็ลองคิดดูนะครับ ทำเพื่ออะไร? เข้ามาเป็นกรรมการเพื่ออะไร?
- ไม่สนใจอะไรเลย : อันนี้มีพอควร มีงานไม่ยุ่ง มีเรียกเก็บเงินไม่จ่าย นัดประชุมไม่มา ทักไม่ตอบ
- หวังผลตอบแทน : ไม่ใช่ไม่มี . . . แต่ผลตอบแทนนั้นในรูปแบบไหนเท่านั้นเอง
บทสรุป
จริงๆยังเขียนได้อีกเยอะ แต่ก็นึกไม่ออก ลืมไปบ้าง เอาเป็นว่า ตัวเราเองอาจจะอยู่ในหลายๆกลุ่มผู้ปกครองแล้วแต่บริบทนั้นๆ และอย่าลืมว่า การทะเลาะ การมีเรื่องดราม่า มีอยู่แทบทุกที่ มีทั้งแบบธรรมดาและแบบรุนแรง