หลายคนสงสัยมีอินบ๊อกมาถามว่าทำไมมาเปิดตอนนี้ ทำไมไม่เอาของ DEK65 มาเปิด ซึ่งง่ายๆเลยก็คือ ประกาศรับสมัคร หรือ Requirement ของ DEK65 ยังไม่ออกและน่าจะออกประมาณเดือนตุลาคมหรือพฤศจิกายนโน่น … ดังนั้น เพื่อการเตรียมตัวล่วงหน้าก็เลยเอาของ DEK64 มาเปิดให้ดูก่อน เผื่อว่าจะได้เตรียมตัวล่วงหน้า ไม่ฉุกละหุกในช่วงเวลานั้น. . .
เวลาก็จะงวดเข้ามาเรื่อยๆ อย่างไม่ทันตั้งตัว เชื่อว่า DEK65 หลายๆคนคงพร้อมในระดับหนึ่งแล้ว จากวันนี้ถึงวันที่จะต้องยื่นของรามาก็ยังมีเวลาอีกอย่างน้อยก็ 5 เดือน
ดังนั้น เวลานี้ก็เป็นช่วงเวลาแต่งตัวไปก่อนนะครับ ทำอะไรได้ทำ เก็บอะไรได้เก็บ อย่าลืมว่า ทุกๆคนอยู่ภายใต้วิกฤติเดียวกัน ผมก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าท่ามกลางสภาพแบบนี้ การออกเกณฑ์ในการพิจารณาของมหาวิทยาลัยต่างๆจะมีเปลี่ยนแปลงไปบ้างหรือไม่
พูดคุยแลกเปลี่ยนเรื่องเส้นทางเข้ามหาวิทยาลัยจากผู้ปกครองสู่ผู้ปกครอง จากผู้ปกครองสู่เด็กๆรุ่นต่อๆไป เชิญห้องไลน์นี้เลยครับ
https://line.me/ti/g2/c4TJsNjW_wbiB9CArQgZ2A?utm_source=invitation&utm_medium=link_copy&utm_campaign=default
ไปส่อง Requirement ของที่อื่นมาบ้างแล้วลองดูกัน
เปิด Requirement หมอรามา
เป็นมหาวิทยาลัยที่มีการเพิ่มหลักสูตรในการเรียนแพทย์ที่รับสมัครในรอบ Portfolio เพื่อเป็นทางเลือกให้กับเด็กๆมากขึ้นเช่น แพทย์วิดวะ แพทย์บริหาร ที่เรียน 7 ปี ซึ่งสองสามปีที่ผ่านมาเราก็เห็นความเปลี่ยนแปลงประมาณนี้
- ปี 2562 DEK62 รับแพทย์รามา 30 คน
- ปี 2563 DEK63 รับแพทย์รามา 30 คน + แพทย์รามาวิศวะ 20 คน
- ปี 2564 DEK64 รับแพทย์รามา 30 คน + แพทย์รามาวิศวะ 20 คน + แพทย์รามาบริหาร 20 คน
++ แพทย์รามาวิศวะ และ แพทย์รามาบริหาร เป็นหลักสูตร 7 ปี
ซึ่งก็มีหลายๆคนก็มีการวางแผนว่า จะยื่นหลักสูตรไหนดีที่คู่แข่งน้อยกว่า และมีโอกาศมากกว่า
สิ่งที่ยิ่งทำให้เกิดความน่าสนใจก็คือ เด็กๆจะสามารถเลือกยื่นได้โครงการใดโครงการหนึ่งเท่านั้น ก็เท่ากับจะทำให้แบ่งเด็กออกเป็น 3 กลุ่มเลย เพิ่มโอกาสมากขึ้น !!!
เรามาดูรายละเอียดกันดีกว่า
คุณสมบัติเบื้องต้นเลย ก็คือเกรดเฉลี่ยนะครับ มี 4 เทอมส่ง 4 เทอม มี 5 เทอมส่ง 5 เทอม ที่พูดแบบนี้เพราะว่าปีที่แล้วหลายโรงเรียนมีความขัดข้องเรื่องการสอบ ผลการสอบ ของเทอมที่ 5 (ม.6 เทอมต้น) อันเนื่องมาจาก COVID-19 ซึ่งโดยปกติในสภาวะธรรมดาแล้วถ้าการยื่นพอร์ตในเดือนธันวาคม เกรดเทอม 5 ก็น่าจะออกกันแล้ว
แต่สิ่งสำคัญสุดคือ
- เกรดเฉลี่ย GPAX จะต้องได้ 3.50 ขึ้นไป
- เกรดเฉลี่ยวิชาชีววิทยา จะต้องได้ 3.50 ขึ้นไป
- เกรดเฉลี่ยวิชาเคมี จะต้องได้ 3.50 ขึ้นไป
- เกรดเฉลี่ยวิชาคณิตศาสตร์ หรือ ฟิสิกส์ (อย่างน้อยวิชาใดวิชาหนึ่ง) จะต้องได้ 3.50 ขึ้นไป
ทั้งนี้จะเห็นได้ว่าเขามี Option ให้เลือก สำหรับบางคนที่เกรดเฉลี่ยที่กำหนดข้างต้นไม่ผ่านเกณฑ์ ก็ยังมีช่องทางการใช้คะแนนการสอบมาตรฐานอื่นๆ ได้ด้วยเช่น A level หรือ SAT II หรือ IB แต่จะเลือกใช้ชุดคะแนนไหนก็ต้องใช้ทั้งชุดจะนำมาผสมกันไม่ได้
ยกตัวอย่างเช่น สมมติว่าเกรดเฉลี่ยวิชาชีววิทยาเราได้ 3.25 ซึ่งไม่ถึง 3.50 แต่วิชาเคมีและคณิตศาสตร์เราได้ 4.00 เราจะไปเอาคะแนน SAT Subject Biology ซึ่งเราไปสอบมาและได้ 760 เอามาแทนชีววิทยาไม่ได้ เพราะถ้าจะไปใช้คะแนน SAT Subject II ก็ต้องใช้หมดเลยทั้ง Biology / Chemistry / Math หรือ Physics
ปล. SAT Subject Test ได้ยกเลิกการสอบไปแล้ว แต่บางคนยังมีคะแนนสอบที่เพิ่งสอบไป หรือ คะแนนสอบที่ยังไม่หมดอายุ ซึ่งคาดว่าปีนี้ก็น่าจะยังคงเป็น Option ให้อยู่
จำนวนรับ
อย่างที่บอก ปีนี้จำนวนที่รับเพิ่มมากขึ้น(เพิ่มแผนการเรียน) ก็เป็นการเพิ่มทางเลือกให้กับเด็กๆด้วย สามารถเลือกสมัครได้โครงการหนึ่งโครงการใดเท่านั้น
เอกสารการสมัคร
หลักๆก็คือตัว portfolio ซึ่งไม่ต้องทำเป็นรูปเล่ม แต่เราสามารถเตรียมเป็นเรื่องๆเอาไว้ก่อนได้ตาม Requirement Spec ของเขา เมื่อถึงเวลาสมัครจริงๆ เราก็จะต้องไปกรอกข้อมูลลงระบบรับสมัครของเขา ซึ่งตอนนั้นเราก็สามารถ Copy สิ่งที่เราได้เขียนเตรียมเอาไว้ก่อนแล้วไปวางในระบบรับสมัครของเขาได้เลย
มีอะไรที่จะต้องเขียนเตรียมไว้บ้าง (ทั้งหลายทั้งมวลจะพิมพ์เป็นภาษาไทยหรืออังกฤษก็ได้)
Personal Statement
ให้เขียนด้วยความยาวไม่เกิน 5300 ตัวอักษรรวมช่องว่างหรือ space ด้วย โดยมีใจความสำคัญอย่างน้อยประมาณนี้
- เหตุผลที่สมัครเรียนแพทย์ในโครงการนั้นๆ
- แรงจูงใจในการอยากเรียนแพทย์
- จุดมุ่งหมายในชีวิต
กิจกรรม/ผลงาน
จะต้องเตรียมกิจกรรม/ผลงาน ฉบับสรุปพร้อมรายละเอียดความยาวไม่เกิน 700 ตัวอักษรรวมช่องว่าง จำนวนทั้งสิ้นไม่เกิน 15 กิจกรรม/ผลงาน (สามารถแนบรูป JPG หรือไฟล์ PDF ได้กิจกรรมละ 1 ไฟล์)
เลือก 3 กิจกรรมเด่น
จากกิจกรรมที่ได้กรอกไปในหัวข้อที่แล้ว เลือกกิจกรรมที่คิดว่า “มีคุณค่า” หรือ “มีความหมาย” มากที่สุด พร้อมทั้งอธิบายรายละเอียด และ เหตุผลที่เลือกกิจกรรมนั้น จำนวน 3 กิจกรรม (ต้องเป็น 3 ใน 15 กิจกรรมที่กรอกไปในหัวข้อ กิจกรรม/ผลงาน) (สามารถแนบรูป JPG หรือไฟล์ PDF ได้กิจกรรมละ 1 ไฟล์)
Recommendation
ให้เราแจ้งชื่อ-นามสกุล และ email address ของอาจารย์ที่รู้จักตัวเด็กเป็นอย่างดี จำนวน 2 ท่าน แล้วทางคณะก็จะส่ง Recommendation Form ไปให้อาจารย์โดยตรง เมื่ออาจารย์กรอกเรียบร้อยแล้วก็ส่งกลับคืนให้กับคณะ
เราควรจะต้องคุยกับอาจารย์ก่อนนะครับว่าจะขอเชิญอาจารย์มาเป็นผู้เขียนคำแนะนำครับ อย่าให้อาจารย์ surprise เพราะเดี๋ยวเราจะ surprise ยิ่งกว่าอาจารย์เสียอีก !!!
อันนี้เอามาแปะให้ว่า ที่ทางคณะส่งไปให้อาจารย์รับรองนั้น หน้าตาเป็นอย่างไร
Academic Achievement
ส่วนนี้ก็เป็นเรื่องของผลคะแนนการสอบมาตรฐานต่างๆ
- English Proficiency : แล้วแต่ว่าใครถนัดสอบอะไรมานะครับ (ที่ยังมีอายุไม่เกิน 2 ปีนับถึงวัน)
- IELTS (Academic Modules) ≥ 6.5
- TOEFL (iBT) ≥ 80
- Academic Achievement : ก็คือผลคะแนนสอบ BMAT นั่นเองครับ ก็น่าจะเป็นคะแนนที่ยังมีอายุอยู่(ไม่เกิน 2 ปี) โดยจะต้องได้คะแนนไม่ต่ำกว่า 12 C (ตัวเลข Section 1+2+3 ได้ 12 คะแนนขึ้นไป และ ตัวอักษรได้ A B หรือ C)
เอกสารอื่นๆ
ในส่วนที่เหลือก็จะเป็นพวกเอกสารส่วนตัวอื่นๆ และพวกใบ ปพ.ต่างๆตามที่ต้องการ อ่านให้ละเอียดนะครับ
- สำเนาบัตรประชาชน (รับรองสำเนาด้วย)
- ปพ.7 ที่ระบุคะแนนเฉลี่ยสะสมตั้งแต่ระดับชั้น ม.4 จนถึงวันที่สมัคร
- ปพ.1 ใบระเบียนการศึกษา
ประกาศรับสมัครฉบับเต็ม
เผื่อท่านใดต้องการเอกสารฉบับเต็มไปนั่งพิจารณา เชิญเก็บได้เลยครับ
ระบบสมัครของรามา
มาดูเพื่อเป็นการเตรียมตัว เวลาสมัครจริงๆจะได้ไม่ลนตื่นเต้นตกหล่น ระบบที่นี่เป็นระบบที่ดีที่หลังจากสมัครไปแล้วก็สามารถ Tracking status ได้ในระดับหนึ่งว่าที่สมัครไปผ่านไปถึงขั้นตอนไหนแล้ว
ในการสมัครจะเลือกสมัครได้โครงการใดโครงการหนึ่งเท่านั้น
เมื่อเริ่มทำการสมัคร ก็กรอกข้อมูลส่วนตัว ชื่อ / ที่อยู่ / ประวัติการศึกษา / รายละเอียดอาจารย์ที่จะมา Recommend ให้เรา
เรื่องของผลการศึกษา และ คะแนนสอบมาตรฐานต่างๆ
Upload เอกสารหลักฐานต่างๆ
การบันทึก Personal Statement
ผลงาน / กิจกรรม ไม่เกิน 15 ผลงานกิจกรรม แต่ละผลงานความยาวไม่เกิน 700 ตัวอักษรรวมช่องว่าง และแนบไฟล์ได้ หรือ สามารถทำเป็น Link ไปยังผลงานได้เช่น youtube ฯลฯ
ผลงาน 3 เรื่องที่มีคุณค่ามากที่สุด
ประมาณนี้นะครับ เด็กๆจะได้เห็นภาพและเตรียมตัวเตรียมข้อมูลให้พร้อมสำหรับการยื่น Portfolio ที่นี่