ถ้าใครติดตามข้อมูลผมมาโดยตลอด ทั้งจากการเขียน การบรรยาย การพูดคุย จะทราบว่า คณะสาขาวิชาและอาชีพหนึ่งเดียวที่ผมไม่อยากให้ลูกเป็นก็คือ แพทยศาสตร์ หรือที่เราเรียกอาชีพสั้นๆว่า “หมอ” ด้วยเหตุผลอะไรอย่างไรก็แล้วแต่ แต่นั่นเป็นความคิดของพวกเรามานานละ ตั้งแต่ลูกอยู่ประถมยันมัธยมต้นจนมาปัจจุบันมัธยมปลาย
ทำไมไม่อยากให้ลูกเป็นหมอ ?!
คือหัวข้อนี้ ผมก็ไม่แน่ใจว่าควรจะต้องปิดท้ายด้วยเครื่องหมายคำถาม ปรัศนี (?) หรือ เครื่องหมายตกใจ อัศเจรีย์ (!) ก็เลยใส่มันทั้งสองเครื่องหมายเลยละกัน กลายเป็น ปรัศเจรีย์ (?!)
ถ้าเห็นรูปนี้ ไอ้เจ้าอุนจิหรืออิโมจิหรืออะไรก็ไม่รู้ พอจะสื่อสารบ่งบอกอารมณ์ได้นะครับว่า เหมือนจะไม่แฮปปี้ 5 5 5
ความรู้สึกนี้เป็นมาตั้งแต่ต้นละ จนกระทั่งมาหาคำจำกัดความได้ในภายหลัง เหตุที่ไม่อยากให้ลูกเรียนทางด้านแพทย์ในตอนนั้นก็คือ เรามีลูกคนเดียว ก็อยากจะอยู่กับลูกเยอะๆ นานๆ 5 5 5 จะเรียกว่าติดลูกก็ว่าได้ แฮะๆ เพราะเป็นที่รู้กันว่า ถ้าลูกเรียนแพทย์และลูกเป็นหมอแล้ว โอกาสที่เราจะได้ใช้ชีวิตอยู่ใกล้ชิดลูก คงยากแล้วหละ (เห็นแก่ตัว สุดๆ แฮะ แฮะ) และหรือกลัวลูกจะเรียนหนักเกิน เตรียมตัวสอบเข้ายิ่งหนักกว่า ทั้งอ่านทั้งเรียนพิเศษกันหัวโตยิ่งกว่าแตงโม . . . หรือว่าสุดแต่จะพรรณาหาเหตุผลมาอ้าง(เข้าข้างตัวเอง)
จนกระทั่งมาในภายหลัง ได้นั่งฟังอาจารย์แพทย์ที่ศิริราชพูดถึงเรื่องนี้ในงานค่ายเส้นทางสู่หมอศิริราช(ตอนนั้นได้มีเป้าใหม่เป็นแพทย์แล้ว)ว่า “ถ้าผู้ปกครองตัดสินใจให้ลูกเลือกเส้นทางแพทย์แล้ว ก็เท่ากับว่าท่านได้อุทิศลูกของท่านให้กับการสาธารณสุขวงการแพทย์ ท่านจะมีเวลาอยู่กับลูกน้อยลงหรือแทบไม่มีเลย” นั่นคือความจริง ที่เราต้องรับรู้และปรับตัวเองให้เข้ากับสถานการณ์ให้ได้ถ้าลูกอยากเรียนแพทย์ !!!
เมื่อเป็นความประสงค์ของลูก …
จริงๆก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีที่เราได้ยินคำพูดความต้องการนี้จากปากลูกเอง โดยเขาพินิจวิเคราะห์แล้วว่า ด้วยอุปนิสัยใจคอของเขา เขาคิดว่าเขาน่าจะเหมาะกับอาชีพแพทย์ ก็เลยคิดว่าอยากจะลองยื่น portfolio คณะแพทยศาสตร์ ใน TCAS รอบ 1 (โห… ไม่พูดถึงรอบ 3 admission เลย) และอีกอย่างนึงที่ลูกเคยบอกเราตั้งแต่ตอนคุยครั้งแรกจบ ม.3 ขึ้น ม.4 ก็คือ ไม่ชอบทำงานสไตล์ออฟฟิต
ซึ่ง…เราก็รับฟัง และถามกลับถึงความมั่นใจ ซึ่งดูจากคำพูดและแววตาแล้ว …. เขาเอาแน่ !!! … ก็เลยไม่มีประโยชน์อะไรที่จะไปพูดขัดแย้งหรือไปแสดงความเห็นที่ไม่เห็นด้วย ในเมื่อเป็นความประสงค์ของลูก จะมีใครเข้าใจชีวิตเขาได้ดีเท่าเขาเอง เราในฐานะที่เป็นพ่อแม่ ก็ต้องทำหน้าที่พี่เลี้ยง คอยสนับสนุนเขา แต่ตอนนี้…ต้องคิดต่อไปเท่านั้นแหละว่า …. แล้วจะต้องทำยังไง? มันต้องมีอะไรบ้าง? มีที่ไหนรับบ้าง? etc.
อีกหนึ่งเรื่องที่ผมมารู้ตอนหลังว่าอะไรคือแรงบันดาลใจให้ลูกสนใจในอาชีพนี้ อันนี้คือคำถามตอนสอบสัมภาษณ์ ซึ่งคำตอบที่ลูกตอบก็คือ
Good Doctor – ซีรี่ย์เกาหลี !!!
5 5 5 ซีรี่ย์เกาหลีที่เกี่ยวกับเรื่องทางการแพทย์มีหลายเรื่องมาก … เขาทำได้ดีจริงๆ
ซึ่งจากการที่ผมดูซีรี่ย์เกาหลีเรื่องนี้ มันสร้างแรงบันดาลใจ สร้างแรงจูงใจ ต่างๆนานา ทั้งในด้าน จริยธรรม อาชีพ การทำงาน สิ่งหนึ่งที่ผมคิดว่าซีรี่ย์เกาหลีทำได้ดี น่าสนใจก็คือเรื่องการถ่ายทำ การจัดจาก ทั้งในเรื่องของการผ่าตัด การรักษาคนไข้ ยิ่งดูยิ่งชอบ ยิ่งดูยิ่งสนใจ . . .
(แต่ไม่รู้ว่าตอนลูกตอบกรรมการสอบสัมภาษณ์ เล่าอะไรไปบ้าง ไม่ได้ถามเยอะ วัยรุ่นไม่ชอบ แฮะ แฮๆ)
ปรับเป้าหมายใหม่ !!!
ในเมื่อมีเป้าหมายเพิ่ม และเป็นเรื่องที่เป็นความต้องการอย่างแท้จริงของลูกเอง ก็เลยคุยกันว่า ถ้าอย่างนั้น เราก็จะวางเป้าหมายกันใหม่ โดยจะยก แพทย์รอบพอร์ตขึ้นมาเป็นเป้าหมายหลัก และให้ Computer Engineering MUIC เป็นเป้าหมายสำรอง(ตอนนั้นยังไม่ได้ระบุว่า จะวางเป้าไว้ที่มหาวิทยาลัยไหน เพราะยังไม่ได้หาข้อมูลกัน) แต่ทั้งนี้และทั้งนั้น ยังเดินตามแผนการเดิมที่วางไว้ก็คือ สอบ IELTS และสอบ SAT เพื่อให้ได้คะแนนสำหรับ Computer Engineering MUIC ให้ได้ก่อน เพราะการเตรียมตัวเรื่อง portfolio น่าจะเป็นเรื่องยาว . . .
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นประมาณช่วง ม.4 เทอม 1 ปลายๆ หรือเทอม 2 ก็จำไม่ได้ละ แต่ประมาณช่วงนั้นแหละ ซึ่งตอนนั้นยังไม่ได้สอบอะไรเลยทั้ง IELTS และ SAT
ก็ไม่ได้ปรับเปลี่ยนแผนอะไร วางเป้าสูงสุดของ IELTS ไว้ที่ Overall 6.5 และ SAT MATH 700 คงเป็นเพราะว่า ชิลเกิ้นนนนนนน ยังไม่ได้มุ่งมั่นอะไรมาก เพราะมันยังไม่ใกล้เวลามั้ง
แต่สิ่งที่จะต้องทำในลำดับถัดไปนั่นก็คือ ช่วยกันหาข้อมูล !!!
ตอนต่อไป …
อาจจะเป็นตอนที่ยาวหน่อย เพราะว่าจะขุดลึกแล้วหละว่า มีแพทย์ที่ไหนรับรอบ portfolio บ้าง และแต่ละที่มี Requirement อะไรบ้าง มีอะไรที่เหมือนกัน อะไรที่ไม่เหมือนกัน มีมหาวิทยาลัยไหนอยู่ในข่ายที่เราพอจะก้าวเดินไปได้ และมีมหาวิทยาลัยไหนที่คิดว่าเกินเอื้อม เกินความสามารถ เกินงบประมาณ ฯลฯ (เป็นข้อมูลช่วงปี 2562 นะครับ ปัจจุบันอาจจะมีเปลี่ยนแปลงไปบ้างแล้ว ส่วนที่เปลี่ยนแปลงจะนำไปกล่าวถึงช่วงที่ลงสนามจริง จะยื่นแพทย์รอบ portfolio นะครับ)
แล้วท้ายสุด เราวางเป้าหมายไว้ที่ไหน?
ซีรี่ย์ – Samsen2U
เรื่องอื่นๆ
ทันตแพทย์รอบ Portfolio ถึงจะมีน้อย แต่ก็มี
