Office Syndrome …. อีกแล้ว

เมื่อช่วงเดือนตุลาคมปีที่แล้ว ตั้งหน้าตั้งตาเตรียมงานทำข้อมูล และ ประชาสัมพันธ์ Samsen Pre-test 2020 อย่างหนัก จนเกิดอาการปวดหลังตรงบริเวณสะบักอย่างมากอย่างต่อเนื่อง ตอนนั้นก็ไม่ได้คิดอะไร …. มันก็คือ ปวดหลัง !!! ลามไปถึงไหล่ และ คอ

ไม่ได้ไปนวดแผนไทยมานานกว่า 3-4 ปีละ ….ก็ต้องลอง

ลองร้านนี้หนักขึ้น ระบมขึ้น ก็ปรึกษาพูดคุยกับคนโน้นคนนี้ จนได้ข้อมูลมาว่าแถวโรงเรียนลูกมีสถาบันแพทย์แผนไทย ….. ก็ไปสิครับ …….. ไม่ดีขึ้นเลย


ปวดหนักสุด . . .

ถ้าใครเจอและจำได้ ช่วงวันสอบ Samsen Pre-Test สองวันนี้จะเป็นวันที่ทรมานที่สุด เพราะปวดแล้วยังฝืนสังขาร เดินไปเดินมาทั่วโรงเรียน อากาศหนาวด้วย ยิ่งหนาวยิ่งปวด ปวดจนดูไปก็เสียบุคลิกภาพหมด เดินไหล่เอียงตัวเอียง หน้าตาบิดเบี้ยว

ตอนขับรถยิ่งหนักใหญ่ ท่านั่งขับรถก็ยิ่งเป็นท่าที่ลงล๊อคของความเจ็บปวดเลยทีเดียว ทุกครั้งที่นั่งลงตรงเบาะขับรถ อาการปวดก็จะวิ่งจี๊ดดดดดด ทันที

หาหมอดีกว่า !!!

สุดท้ายทนไม่ไหว ไปหาหมอแผนปัจจุบัน ที่เก่าที่คุ้นเคย นนทเวช

พยาบาลตรงจุดคัดกรองดูแล้วก็น่าจะส่งแผนกศัลยกรรมกระดูกและข้อ แต่สอบถามเราว่า สนใจจะไปลองรักษาที่แผนกคลีนิคพืเศษอะไรสักกะอย่าง ตรงแผนกกายภาพบำบัด ซึ่งพยาบาลท่านนี้ก็ดูแลครอบครัวเรามาอย่างน้อย 17-18 ปีแล้วหละ ตั้งแต่ยังไม่มีลูก จนทุกวันนี้เป็นหนุ่มละ

ไม่มีอะไรจะเสีย …. ไปเลยสิครับ …. เจอหมอผู้หญิง(จำชื่อไม่ได้ละ) อายุประมาณ 30+ แกเห็นท่าทางเราเดิน เรานั่ง ท่านั่ง ท่านั่งแล้วยกแขนสองข้างมารองรับตรงท้ายทอย แกก็บอกเลยว่า ดูท่านั่งก็น่าจะปวดตรงสะบัก ……… จดแลคเชอร์ ยาวววว เลยครับ เปิด internet ให้ดูว่ามันน่าจะเป็นอย่างนี้ ๆ ๆ ๆ ๆ

ไอก้อนแดงๆเล็กๆที่เรียกว่า Trigger Point นั่นแหละคือสาเหตุแห่งอาการเจ็บปวด

Trigger Point

Trigger Point ก็คือบริเวณที่มีปมกล้ามเนื้อ (Muscle Knot) ที่เกิดขึ้นจากการหดตัวของกล้ามเนื้อมัดนั้น ๆ แต่ไม่ยอมคลายตัวออกเนื่องจากการขาดการยืดกล้ามเนื้อ (เนื่องจากอยู่ในท่าทางเดิมนานๆ และหรือ การออกกำลังกาย) และทำให้มันเกิดเป็นก้อนเล็กๆจุดแข็ง ซึ่งกดแล้วเจ็บ


ถูกหมดทุกอย่างเลยครับ !!!

หมอก็บอกว่าเป็นอาการ Office Syndrome และถามนะว่า มีทางเลือกให้หลายทาง ต้องค่อยๆเป็น ค่อยๆไป มีทั้งกายภาพ ดึงคอ ประคบร้อน ประคบเย็น รักษาด้วย ultra sound รักษาด้วยการกระตุ้นไฟฟ้า ก็ทำอยู่นาน หลายยก หลายวัน หลายครั้ง ไม่ได้ดีขึ้นเท่าไหร่

ช่วงนั้น ก็เข้าใกล้ปีใหม่ เลยบอกหมอว่า จะไปต่างจังหวดสัก 10 วัน หมอก็บอกว่า อย่าขับรถติดต่อกันเป็นเวลานานๆ เปลี่ยนอริยาบทบ่อยๆ บลา . . . . . มีให้ชื่อยาแก้ปวดหรือคลายปลายเส้นประสาท อะไรสักกะอย่างด้วย

หลังจากกลับมาจากพักผ่อนปีใหม่ (ปวดข้ามปี !!!) ก็กลับมาหาหมออีกครั้งช่วงกลางถึงปลายมกราคม หมอถามว่า เคยฝังเข็มไหม?

ขนหัวลุก สิครับ !!!

ก็บอกไปตามตรงเลยว่าไม่เคย พร้อมกริยาที่ดูออกเลยว่า กลัวแหงงๆ หมดคงนึกในใจแน่เลยว่า อีตานี่ “ตัวใหญ่ใจเสาะ”

แต่ก็ตอบไปว่า “ลองดูก็ได้ครับ”


ฝังเข็ม !!!

ในหัวนึกภาพเข็มปักๆกลางหลัง มีสายไฟระโยงระยาง ….. เป็นลมดีกว่า ……

เจ้าหน้าที่การแพทย์ มาช่วยเราเตรียมตัว(เตรียมใจมากกว่า) พอหมอมา หมอก็คลำหาจุดที่ปวดอีกครั้ง พร้อมบอกขั้นตอนอธิบาย

  • ทานข้าวมาแล้วยัง? (ให้ทานมาปกติ ตามเวลา แต่ควรทิ้งระยะห่าวสัก 2 ชม.ก่อนฝังเข็ม)
  • ทำตัวสบายๆ ผ่อนคลายอย่าเกร็ง
  • ถ้ารู้สึกหน้ามืด จะเป็นลมให้รีบบอกหมอ ….. อุยยยยยย

เข็มแรก คือจุดที่ปวดที่สุด จุดเริ่มต้นแห่งการปวด สะบักข้างซ้าย หมอก็จะใช้นิ้วจิ้มๆแล้วถามเราว่าใช่ตำแหน่งนี้มั๊ย เพราะว่าจุดที่กล้ามเนื้ออักเสบข้างในมันเล็กมาก(แต่ปวดมาก) มันจับตัวกันเป็นก้อนแดงๆ(Trigger Point)พอหมอเริ่มแทงเข้าไป เราก็ไม่รู้หรอกว่าลงไปลึกขนาดไหน แต่รู้ว่า ตื้อ หน้ามืด กัดฟันกรอดๆ แต่รู้สึกว่ามันใช่ตำแหน่งนั้นเลย คุณหมอก็หมุนๆเข็มแล้วค่อยๆดึงออก . . .

โอ…. เหมือนสวรรค์สั่งเลย มันหายในบันดลเลยครับ ถึงแม้จะไม่ทั้งหมด แต่มากกว่า 90%

เข็มต่อไปก็ที่ไหล่ ก็อีกเช่นกัน หลังจากถอนเข็มออก รู้สึกทันทีว่า ที่เคยปวดมา 3-4 เดือน มันหายแทบทั้งสิ้น อ้อ … ไม่ได้มีสายไฟระโยงระยางนะครับ ปักเข็มแล้วคลึงๆแล้วดึงออกเลย

ที่สำคัญ มันถูกมากด้วย !!! เข็มนึงประมาณ 200+/- หรือน้อยกว่า จำไม่ได้ละ

หลังจากฝังไปประมาณ 5-7 เข็ม ก็ไปนอนประคบเย็น น่าจะครึ่งชั่วโมง เป็นการพักผ่อนไปในตัวด้วย ขับรถกลับบ้านจะได้ไม่เป็นลม

กลับมาหาหมอตามนัดอีกครั้ง 1 สัปดาห์ถัดไป ก็ฝังไปอีก 4-5 เข็ม ก็ดีขึ้นจนแทบหาย รู้สึกมีบ้างเล็กน้อย หมอก็ให้ทานยาคลายปลายเส้นประสาทไป จนกระทั่งหายดี ไม่รู้สึกปวดอีกเลย !!!

จริงๆแล้ว มันยังมีอีกอาการที่เป็นควบคู่กัน นั่นก็คือ หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท ซึ่งตอนที่หมอวินิจฉัยตอนแรก ก็บอกว่าจากภาพถ่าย X-ray ก็มีความเป็นไปได้ด้วย . . . . เรื่องต่อไปทีึ่ต้องดูแล . . . .


นิสัยไม่เปลี่ยน

สิ่งที่หมอเน้นย้ำว่า ต่อแต่นี้ไป ถ้าไม่อยากปวดแบบนี้อีก ให้พยายามเปลี่ยนท่า เปลี่ยนอริยาบทบ่อยๆ อย่านั่งทำงานนาน อย่าขับรถไกล อย่าสะบัดคอ(อย่างที่ชอบทำประจำ). . . .

แต่แล้ว . . . ช่วงที่เด็กๆ ป.6 สอบเข้า ม.1 ทั้งรอบห้องเรียนพิเศษ เรื่อยมาจนรอบห้องเรียนปกติที่ยืดเยื้อเพราะโควิด พฤติกรรม นิสัยเดิม เริ่มกลับมา ….. นั่งคิด นั่งเขียน เป็นเวลานานติดต่อกันหลายๆๆๆ ชั่วโมง

มาวันนี้ . . . . . มักก็เริ่มกลับมาเยี่ยมเยียนอีกแล้ว . . . . เศร้าจัง


สรุป

เป็นบทความเดียวที่เขียนเกี่ยวกับสุขภาพตนเอง เพราะเคยเขียนแต่เรื่อง กิน เที่ยว เรียน แต่ไม่เป็นไรไหนๆเขียนมาถึงนี้แล้ว ก็โยงเข้าเรื่องหลักๆก็ได้ ใครมีอะไรก็สอบถามได้นะครับ

มีคำแนะนำอะไรอย่างไร พูดคุยกันได้ที่ facebook นี้นะครับ

myRemainingtime by 9choke.com


หรือจะสอบถามเกี่ยวกับเรื่อง “สอบเข้าสามเสน” อาจจะเข้าไปพูดคุยกันที่ Line Square ตามนี้เลยครับ เพื่อว่า ผู้ปกครองท่านอื่นๆที่มีประสบการณ์ตรง จะได้ช่วยตอบให้ด้วย

สอบเข้าสามเสน”.
https://line.me/ti/g2/VQATLPishSNyOytEaiz0Kw
รวบรวมเรื่องราว ข้อมูล ถามตอบ แลกเปลี่ยนความคิดเห็น สำหรับนักเรียนและผู้ปกครองที่ประสงค์จะเตรียมตัวและสอบเข้าโรงเรียนสามเสนวิทยาลัย ทั้งระดับชั้น ม.1 และ ม.4

ข้อสอบสามัญ 2563 (เด็กจำออกมา)

ข้อสอบสามัญ 2563 (เด็กจำออกมา)

17 ห้อง ม.ปลาย สามเสนวิทยาลัย


สนใจบทความเกี่ยวกับการเรียนการสอบเข้า EP สามเสน ตามไปที่ Link นี้ได้เลยครับ 

เรื่องเรียนของลูก :: รวบรวมบทความ “สอบเข้า EP สามเสน“

1160x500-เดือนแดงเดือด