สามเสน ม.3 ขึ้น ม.4
สามเสน ม.3 ขึ้น ม.4 ความจริงเรื่องนี้ได้เขียนไปครั้งหนึ่งแล้วเมื่อปีสองปีที่แล้ว แต่ตอนนั้นแบบว่าเขียนดดยที่ยังไม่ได้เจอะเจอด้วยตนเอง เขียนจากการอ่าน เขียนตามความเข้าใจ เขียนจากการเปรียบเทียบข้อมูล . . . แต่มาวันนี้ ช่วงเวลาตื่นเต้นได้ผ่านมาแล้ว พร้อมกับข้อมูลที่พยายามเก็บมา ซึ่งก็ค่อนข้างจะเห็นภาพที่ชัดเจนมากขึ้น ทั้งนี้การแชร์ข้อมูลตรงนี้จะอิงของเด็ก EP เป็นหลักแต่ก็ใช้ได้กับทั้งหมดในระดับ ม.3 ส่วนไหนที่ไม่ Cover ของนักเรียนทางฝั่งสามัญเดี๋ยวผมก็จะแจ้งไว้ให้นะครับ หลายคนก็ถามว่า สามเสน ม.3 ขึ้น ม.4 มันยากไหม? . . . เอาเข้าจริงๆ ตอนเป็น ผปค. ม.1 ม.2 รู้สึกชิลๆมาก แต่ในวันที่ขึ้นมาเป็น ผปค. ม.3 ความเสียวก็เริ่มมาเยือน . . . สำหรับใครหลายๆคนอาจจะไม่เสียว แต่สำหรับเด็กที่ผลการเรียนปานกลางลงมาก็จะเริ่มรู้สึก ซึ่งจะขอเล่าตาม timeline ที่ปรากฏมาในรอบปีการศึกษา 2560 (พฤษภาคม 2560 – เมษายน 2561)
ครั้งที่แล้วเขียนไว้ประมาณนี้ครับ
15 ห้องเรียน ม.4 สามเสนวิทยาลัย มีอะไรบ้าง
และถ้าจะมองหาเส้นทางว่า เด็กๆมีทางเลือกไปทางไหนได้บ้าง ตรงนี้ก็มีข้อมูลให้คร่าวๆนะครับ
เด็ก EP จบ ม.3 จะข้ามฝั่งไปเรียนทางห้องเรียนพิเศษของฝั่งสามัญได้หรือไม่?
คำถามที่พบบ่อย
ก่อนที่จะไปตาม timeline ลองมานึกคำถามที่เจอมาบ่อยๆ
- จะยื่นเลือกแผนการเรียนกันเมื่อไหร่?
- เกรดวิชา คณิตศาสตร์เพิ่มเติม ต้องเอามาคิดคำนวณรวมด้วยหรือไม่?
- แผนการเรียนต่างๆจะเอาวิชาอะไรมาคิดบ้าง?
- ตกลงใช้เกรด 5 เทอม หรือ 6 เทอม มาคิดกันแน่?
- แล้วจะรู้ผลการคัดเลือกตอนไหน? ก่อนหรือหลังการสอบคัดเลือกเข้า ม.4 ทั่วไป? ก่อนหรือหลังสอบเตรียม?
กลุ่มเด็กๆและทางเลือกต่างๆ
ใน Post นี้ จะบรรยายเหตุการณ์ต่างๆที่เกี่ยวข้องกับการก้าวข้ามจาก ม.3 ไป ม.4 ตามช่วงเวลาที่เกิดขึ้นจริง ส่วนวิธีการคิด วิธีการเลือกจะขอยกไปอีก Post เพราะเรื่องมันยาวทั้งสองเรื่อง ที่ต้องเอาเรื่อง timeline มาเล่ากันนี้ เพื่อที่จะได้รู้ว่าอารมณ์ในแต่ละช่วงตอนนั้น เป็นอย่างไร ก่อนอื่นก็ต้องขอแยกกลุ่มอารมณ์ออกเป็นกลุ่มๆดังนี้นะครับ
- กลุ่มไม่ต้องคิด(ไม่ใช่สิ้นคิดนะครับ) นั่นก็คือพวก Outclass นั่นเอง อยากจะเรียนอะไรก็เลือกได้
- กลุ่มที่คิดว่าน่าจะได้อยู่แล้ว แต่จะได้แผนการเรียนที่ต้องการหรือปล่าวนั้นยังเป็นที่ต้องคิดต่อ
- กลุ่มที่ลุ่มๆดอนๆ อะไรก็ได้ ขอให้มีที่เรียน
- กลุ่มที่ตกที่นั่งลำบาก ต้องพยายามเพื่อให้ได้มีที่เรียน
ดังนั้น เด็กๆทุกกลุ่ม ก็มีทางเลือกต่างๆในการหาที่เรียนในระดับชั้น ม.4 ประมาณนี้
- เรียนต่อสามเสน โดยการยื่นเกรดเลือกแผนเรียน
- เรียนต่อสามเสน โดยการสมัครสอบห้องเรียนพิเศษภายใน IMP และ EIS
- เรียนต่อสามเสน โดยการไปสอบเข้ามาใหม่ทั้งในรอบห้องเรียนพิเศษ(EP-ESMTE-MSEP) และ ห้องเรียนสามัญ
- เรียนต่อโรงเรียนอื่น โดยการไปสอบเข้าใหม่
ซึ่งแต่ละทางเลือก มันมีเรื่องของเวลาเข้ามาเกี่ยวข้อง เพราะทั้ง 4 ทางเลือกที่แจงไว้ เป็นต่างกรรมต่างวาระกัน บางคน มีชื่อได้ที่เรียนจากทั้ง 4 ทางเลือกเลย เช่น
- ยื่นเกรดเลือกแผนเรียนไปก็ได้รับสิทธิ์ตามเกรด สมมุติได้ห้อง วิทย์
- สมัครสอบห้อง IMP ก็สอบได้อีก
- ไปลองสมัครสอบรอบทั่วไปห้องเรียนพิเศษเข้ามาใหม่ ก็สอบได้ห้อง MSEP อีก
- ไปสมัครสอบรอบทั่วไปห้องเรียนสามัญ ก็สอบได้โรงเรียนเตรียมอุดมอีก
ที่ทำได้ ก็เพราะว่าในแต่ละทางเลือกเกิดในเวลาที่ไม่พร้อมกัน ซึ่งตรงนี้ก็จะเป็นที่มาของการเรียกตัวสำรองกันอย่างมโหฬาร และ กระทบชิ่งด้วย เดี๋ยวมีเวลาจะเล่าเรื่อง “การเรียกตัวสำรอง” ให้ฟังว่า มันวุ่นวายขนาดไหน แต่ตอนนี้เรามาต่อเรื่องของเราต่อดีกว่า
เล่าไปละ เด็กบางคนได้หลายทางเลือก แต่ . … มุมกลับกัน เด็กบางคนก็มีทางเลือกที่ต้องผสมความพยายามเข้าไปด้วยอีกหลายๆคน
ลูกเรา จะเป็นเด็กที่อยู่ในกลุ่มไหน?
TIMELINE
คราวนี้เรามาเดินดูเหมือน reality กันเลยดีกว่านะครับ ว่าอะไรมันเกิเมื่อไหร่? แล้ว(ลูก)เราต้องทำอะไร?
- December 2017 ผ่านเกณฑ์ไม่ผ่านเกณฑ์
ช่วงปลายๆเดือน ทางโรงเรียนก็จะเรียกนักเรียนและผู้ปกครองมาเซนต์ชื่อรับทราบว่า จากเกรดในรายวิชาต่างๆนั้น ลูกเราจะสามารถเลือกแผนการเรียนอะไรได้บ้าง และ ไม่สามารถเลือกแผนการเรียนอะไรบ้าง ! ผู้ปกครองและเด็กไม่ต้องส่งรายละเอียดอะไรไปให้นะครับ เพราะโรงเรียนมีหมดอยู่แล้ว ไปเซนต์ชื่อรับทราบอย่างเดียว - 04-10 January 2018 สมัครสอบ IMP – EIS
นักเรียนที่มีเกรดผ่านตามเกณฑ์ที่กำหนดและสนใจห้องเรียนพิเศษภายในซึ่งมีอย่างละ 1 ห้อง นั่นก็คือ ห้องเรียนพิเศษทางด้าน วิทยาศาสตร์ เร่งลัดคณิตศาสตร์ เสริมคอมพิวเตอร์(IMP – Intensive Mathematics Program) และห้องเรียนพิเศษคีณิตศาสตร์ที่จัดการเรียนการสอนรายวิชาคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และ คอมพิวเตอร์เป็นภาษาอังกฤษโดยครูไทย (EIS – English for Integrated Studied ถือเป็นห้อง ศิลป์คำนวณนั่นเอง)
ซึ่งถ้ามีเด็กสมัครเกินกว่าจำนวนที่รับได้ ก็จะจัดให้มีการสอบคัดเลือก โดยปกติจะสอบกันหลังจากสอบปลายภาควิชาสุดท้าย - 12-18 January 2018 ยื่นเลือกแผนการเรียน
อันนี้แหละครับที่เป็นความหวังของเด็กๆหลายๆคนซึ่งก็มีแผนการเรียนให้เลือกตามนี้
– วิทยาศาสตร์
– คณิตศาสตร์
– ภาษาต่างประเทศ
และของทางนักเรียน EP มีตัวเลือกให้เลือกเพิ่มมากขึ้น นั่นก็คือมีแผนการเรียนต่อไปนี้ที่สามารถเลือกได้(แต่เด็กทางฝั่งสามัญ ESC และ MSEP ไม่สามารถเลือกได้)
– EP วิทยาศาสตร์
– EP คณิตศาสตร์
– EP ภาษาต่างประเทศ - 03-04 February 2018 สอบ O-NET
O-NET ไม่ใช่เรื่องเล่นๆอีกต่อไป เมื่อต้องเอาคะแนน O-NET มาร่วมพิจารณาทั้งการยื่นเกรดเลือกแผนการเรียนและในการสอบเข้าทั่วไปรอบสามัญ
ในระดับชั้น ม.3 O-NET จะสอบกัน 4 วิชา วันละ 2 วิชา - 13-15 February 2018 สอบปลายภาค + สอบคัดเลือก IMP และ EIS
ที่สามเสนนี่เปิดเทอมเร็วและปิดเทอมเร็ว ม.3จะสอบปลายภาคเสร็จกลางเดือนกุมภาพันธ์ และได้กำหนดให้มีการสอบคัดเลือกห้องพิเศษภายใน IMP และ EIS ในช่วงเย็นหลังจากสอบปลายภาควันสุดท้ายเรียบร้อยแล้ว นั่นก็คือวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2561 - 24-28 February 2018 สมัครสอบทั่วไป รอบห้องเรียนพิเศษ EP MSEP และ ESMTE
จะสังเกตุเห็นได้ว่า เรายังไม่รู้ผลสอบ O-NET หรือผลการคัดเลือกขึ้น ม.4 อะไรเลย แต่ช่วงเวลาของการรับสมัครเพื่อสอบเข้าห้องเรียนพิเศษต่างๆมาถึงแล้ว ดังนั้น คนที่อยู่ในกลุ่มที่ไม่แน่ใจว่า จะสามารถผ่านการคัดเลือกและได้ตามแผนการเรียนที่ต้องการหรือไม่ หรือ คนที่ยังรอผลสอบคัดเลือก EIS – IMP อยู่ ซึ่งก็ยังไม่ได้ประกาศผล ดังนั้น เด็กๆจำนวนหนึ่งก็จะมาสมัครสอบในรอบนี้ - 11 March 2018 วันสอบทั่วไปรอบห้องเรียนพิเศษ
วันสอบรอบห้องเรียนพิเศษ ตามที่ได้สมัครสอบไป ในข้อ 6 นั่นเอง - 16 March 2018 ประกาศผลการสอบรอบห้องเรียนพิเศษ
สอบทีหลังแต่ประกาศก่อน ใครที่สอบได้แผนการเรียนที่ต้องการในรอบนี้ก็สบายตัวไปเลย ไม่ต้องงรอลุ้นผลอะไรละ รอรายงานตัว มอบตัว แล้วเปิดเทอมได้เลย - 19 March 2018 ประกาศผล IMP และ EIS
การประกาศผลการสอบคัดเลือกห้องเรียนพิเศษภายใน IMP และ EIS พร้อมรายชื่อตัวสำรอง - 25 March 2018 ประกาศผล O-NET และ 26 March 2018 ประกาศผลการคัดเลือก ม.3 ขึ้น ม.4
แผนการเรียนที่เด็กๆยื่นเลือกไปตั้งแต่เมื่อกลางเดือนมกราคมนั้น ต้องรอผลคะแนน 2 อย่างคือ คะแนนผลสอบ O-NET และ คะแนนผลสอบปลายภาคเรียนที่ 6 หรือ ปลายภาค ม.3 นั่นเอง ในการนำคะแนนทั้งสองหมวดมาแปลงเป็นสกอร์และจัดเรียงลำดับตามแผนการเรียนที่เด็กๆเลือก เพื่อจะได้มาเป็นผลการคัดเลือกทั้งตัวจริง และ ตัวสำรอง ส่วนวิธีการแปลงคะแนนและเรียงลำดับนั้น จะขอยกไปกล่าวในโพสต์ต่อไป เพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อน - 25-28 March 2018 รับสมัครสอบทั่วไปรอบสามัญ รวมทั้งโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา
น่าจะเป็นความจงใจที่ทางการประกาศคะแนน O-NET และทางโรงเรียนประกาศผลการคัดเลือก ก่อน และ/หรือ อยู่ในช่วงที่มีการรับสมัครสอบพอดี เพราะเด็กๆที่ทราบผลแล้ว ถ้ายังไม่มีที่เรียนจะได้รีบมาสมัครสอบ แต่เด็กนักเรียนหลายคนในระดับชั้น ม.3 ก็จะสมัครสอบของโรงเรียนเตรียมอุดม - 01 April 2018 วันสอบรอบสามัญ และ เตรียมอุดมศึกษา
เป็นอีกวันสำคัญสำหรับเด็กๆที่ยังไม่มีที่เรียน หรือ ยังไม่ได้ที่เรียนที่ตรงตามความต้องการ ซึ่งในรอบนี้ก็จะมีการสอบเข้าในแผนการเรียน วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และ ภาษาต่างประเทศ สำหรับโรงเรียนที่มีีระดับมัธยมต้นด้วย จำนวนการรับก็จะน้อยหน่อย แต่สำหรับโรงเรียนที่มีแต่ระดับมัธยมปลาย ก็จะเปิดรับจำนวนค่อนข้างมาก - 05 April 2018 ประกาศผลสอบรอบสามัญ และ เตรียมอุดมศึกษา
ถือว่าเป็นวันที่จะประกาศผลสอบรอบสุดท้ายอย่างเป็นทางการ(ยกเว้นจะมีการเปิดรับรอบสองของบางโรงเรียน ซึ่งผมก็ไม่มีข้อมูล) หลังจากนี้ก็จะเป็นการเล่นเก้าอี้ดนตรีกันอย่างสนุกสนาน นั่นก็คือการเรียกตัวสำรอง ซึ่งการเรียกตัวสำรองนั้น ก็จะเป็นการเรียกแล้วส่งผลกระทบไปหลายด้าน เพราะในบางครั้ง คนที่เรียกมา ได้แผนการเรียนอื่นแล้ว เมื่อมารายงานตัว ก็ต้องไปสละสิทธิ์แผนการเรียนอื่น ในส่วนของแผนการเรียนอื่นนั้นก็ต้องเรียกตัวสำรองต่ออีก . . . . เรื่องมันก็จะวุ่นๆ - 09 April 2018 เริ่มเรียกตัวสำรอง
เรื่องมันยาวนิดหน่อย(ตกลงจะยาวไหม ทั้งยาว ทั้งนิดหน่อย) ก็เลยยกยอดไปเขียนใน Section ถัดไปด้านล่างนี่แหละครับ
การเรียกตัวสำรอง
ช่วงเวลานี้เป็นช่วงเวลาที่ใครๆก็ไม่อยากให้เกิดกับชีวิตตัวเอง ใครๆก็อยากจะได้เป้าหมายที่ตั้งไว้ไปเลย ไม่อยากมา รอ รอ รอๆๆๆ แล้วก็รอ ผมเข้าใจความรู้สึกนั้นดีครับผ่านการสัมผัสบรรยากาศช่วงปลายเดือนมีนาคมถึงต้นเดือนเมษายน ได้คุยกับเพื่อนผู้ปกครองหลายๆท่านในสถานะการณ์นั้นๆ
ความจริงแล้ว การสละสิทธิ์ของเด็กนักเรียนก็จะมีมาให้เห็นเป็นช่วงๆอยู่แล้ว เอาเท่าที่จำได้นะครับ
- 18 March 2018 เด็กที่สอบผ่านการสอบทั่วไปรอบห้องเรียนพิเศษ(EP MSEP และ ESMTE) ถ้าไม่มารายงานตัว ก็ถือว่าสละสิทธิ์
- 23 March 2018 เด็กที่สอบคัดเลือกเป็นการภายในห้อง IMP และ EIS ถ้าไม่มารายงานตัวถือว่าสละสิทธิ์
- 27 March 2018 เด็กที่ยื่นเกรดเลือกแผนการเรียน ให้มารายงานตัว ถ้าไม่มารายงานตัวถือว่าสละสิทธิ์
- 04 April 2018 เด็กที่สอบผ่านการสอบทั่วไปรอบห้องเรียนพิเศษ(EP MSEP และ ESMTE) ให้มามอบตัว ถ้าไม่มามอบตัวก็จะหมดสิทธิ์ทันที
- 05 March 2018 เด็กที่สอบผ่านการสอบทั่วไปรอบสามัญให้มารายงานตัว ถ้าไม่มารายงานตัวถือว่าสละสิทธิ์
- 08 March 2018 การมอบตัวของเด็กนักเรียน IMP – EIS – รอบสามัญทั้งหมด และ เด้กนักเรียนที่ผ่านการคัดเลือกแบบยื่นเกรดเลือกแผนการเรียนทั้งหมด(EP วิทย์ – EP คณิต – EP ภาษา – สามัญทั้งหมด)
ซึ่งตรงนี้ ถามว่า ในเมื่อมีการสละสิทธิ์กันมาตั้งแต่กลางเดือนมีนาคม แล้วทำไมไม่เรียกตัวสำรองกันตั้งแต่ตอนนั้นเลยหละ? – อันนี้ผมคิดเองนะครับ นั่งคิดตีลังกาคิด ก็ขอเดาๆว่า ทางโรงเรียนก็คงไม่อยากเรียกมาแล้ว เดี๋ยวพอได้แผนการเรียนอื่นที่จะประกาศต่อๆกันมา ก็จะมาสละสิทธิ์ ทำให้ต้องเรียกตัวสำรองมาทดแทนตัวสำรองที่เรียกมาก่อนหน้านั้น
ดังนั้น ทางโรงเรียนก็เลยเรียกตัวสำรองทีเดียวเลย ครั้งแรกวันที่ 9 เมษายน 2561 โดยเริ่มเรียกในทุกๆแผนการเรียน เพราะเอาเข้าจริง เด็กๆที่ได้รับคัดเลือกมาก่อนหน้านี้ ก็จะมาสละสิทธิ์กันมากขึ้น เมื่ีอทางโรงเรียนเตรียมอุดมประกาศผลสอบ เพราะเด้กสามเสนเราเก่งๆเยอะ ยกทัพไปกันปีละร่วมร้อยทุกปี ปีนี้ก็เช่นกัน ดังนั้นเทศกาลเรียกตัวสำรองก็จะเกิดขึ้นอย่างโกลาหล เพราะอย่างที่บอก การเรียก 1 ตัวสำรอง ก็ยังอาจจะไปกระทบกับแผนการเรียนอื่นๆทำให้ต้องเรียกตัวสำรองเช่นกัน สนุกเน๊อะ ลองนั่งนึก นั่งคิดดูว่า case ที่เป็นไปได้มีอะไรบ้าง
- ยกตัวอย่างแรกเลยเอาแบบใกล้ตัว ตามลำดับเวลา ด้วยความที่ว่าผลการเรียนประเภทไม่ค่อยสวย ไม่มั่นใจว่าจะได้ในสิ่งที่ต้องการไหม(EP วิทย์) ตอนนั้นผมก็เดาๆจากพื้นฐานข้อมูลเกรดเฉลี่ย 5 เทอม(3.83) เขาว่าผลน่าจะได้ลำดับที่ 40 ปลายๆ หรือ 50 ต้นๆ นี่แหละ
- 12/01/2018 ยื่นเกรดเลือก EP วิทย์ – EP คณิต – EP ภาษา
- 15/01/2018 สอบ IMP เพราะดูจากเกรดแล้วไม่มั่นใจว่าจะได้ EP วิทย์ที่คาดหวังไหม
- 11/03/2018 สอบคัดเลือกทั่วไปรอบห้องเรียนพิเศษ EP วิทย์ – ลองสอบดูเผื่อได้ก็สบายใจไปเลย
- 15/03/2018 สอบได้ – คัดเลือกทั่วไป EP วิทย์ – เอาเลยมอบตัว เพราะตั้งใจไว้แล้ว
- 19/03/2018 สอบได้ – IMP ตัวสำรองอันดับ 18
- 25/03/2018 ได้รับเรียกตัวสำรอง IMP (ทางโรงเรียนก็ยังต้องเรียกตามลำดับอยู่ถึงแม้จะสละสิทธิ์ไปแล้ว)
- 26/03/2018 ได้รับคัดเลือก EP วิทย์ จากการยื่นเกรดอันดับ 45 (รับ 50) ใกล้เคียงกับที่คาดการไว้มาก
- 27/03/2018 มาสละสิทธิ์ EP วิทย์จากการยื่นเกรด และ สละสิทธิ์ IMP จากการเรียกตัวสำรอง
- จากตัวอย่างด้านบน ถ้าซับซ้อนมากขึ้นสำหรับเด็กเก่งๆบางคนที่สอบเข้าเตรียมอุดมศึกษาได้ ก็จะเพิ่มความซับซ้อนขึ้นไปอีก 1 ขั้น
- ตัวสำรองที่เรียกมาในแผนการเรียนนี้อาจจะเป็นตัวจริงไปแล้วในแผนการเรียนอื่น
- ตัวสำรองที่เรียก อาจจะสอบติดที่อื่นไปแล้ว ก็ต้องเรียกตัวสำรองใหม่ในครั้งต่อไป
บทสรุป
Post นี้เป็นการลำดับเหตุการณ์ที่เด็กๆและผู้ปกครองจะต้องเจอ . . . อย่างที่บอกถ้าผลการเรียน เกรดเราดี เราก็ไม่ต้องมาเป็นห่วงเรื่องแบบนี้ ในช่วงแบบนี้ การทำเกรดให้ได้ดีตามเกณฑ์ที่กำหนดและอยู่ในลำดับที่น่าจะพอสบายใจได้ ไม่ได้มาทำกันตอน ม.3 แต่ต้องเริ่มสะสมมากันตั้งแต่ ม.1 เทอม 1 เลยนะครับ . . . ไม่ว่าเป้าหมายเราจะต่อที่นี่ หรือ เตรียมตัวเพื่อที่จะไปสอบที่อื่น แต่การมีที่เรียนไว้ก่อน ก็เป็นเรื่องสำคัญ . . . เริ่มนับ 1 ตอน ม.1 ดีกว่านับ 1 ตอน ม.3
ตอนต่อไป จะมาคุยกันเรื่อง เกณฑ์ในการคัดเลือกแผนการเรียนต่างๆว่า เอาอะไรมาคิดอย่างไรบ้าง?