จบ ม.3 แล้ว . . . เมื่อเด็กต้องเลือกว่าจะเดินไป Silicon Valley หรือว่าจะไป Hollywood
จบ ม.3 แล้ว . . . เมื่อเด็กต้องเลือกว่าจะเดินไป Silicon Valley หรือว่าจะไป Hollywood เร็วจังแพล็บเดียวก็สามปีผ่านไป . . . ก็มาถึงอีกทางแยกแล้วหละ แฮะๆ
ตามนั้นเลย . . . ตอนเรียนมอต้นก็ยังไม่ชัดเจนเลยว่าจะเป็นสายวิทย์หรือสายศิลป์ เพราะอยู่ในช่วงที่เด็กสามารถลองเรียนโน่นเรียนนี่ บางคนพ่อแม่ก็คอยป้อนข้อมูลให้ว่า อาชีพอะไรเป็นอย่างไร แต่ยังไม่ใช่ช่วงที่จะฟันธงตัดสินใจไปเลยว่าจะเดินไปเส้นทางไหน เพราะเด็กยังมีเวลาในการค้นหาตัวเอง …
แต่ … บางคนก็ฉายแววออกมาอย่างชัดเจน
แต่ … หลายคน พ่อแม่ก็กำหนดให้ชัดเจน
แต่ … ส่วนใหญ่ยังไม่รู้อะไรเลย . . .
เมื่อมาถึงช่วงเวลาหนึ่ง ที่เด็กจำต้องเลือกแผนการเรียน . . . ซึ่งจะว่าไปแล้ว เหมือนเป็นทางแยกที่ต้องเลือกเดิน . . . แต่เอาเข้าจริง ก็ยังพอมีเส้นทางที่มาบรรจบกันได้อยู่บ้างก่อนที่จะเลือกเดินในเส้นทางต่อไป ถึงแม้ว่าการเปลี่ยนเส้นทางก็ไม่ง่ายนัก แต่ก็สามารถกระทำได้ และหลายๆคนก็ทำมาแล้ว . . . ถ้าเรารู้…เราจะไม่ฝืนเดินบนเส้นทางที่ไม่ใช่ไปตลอดชีวิต
แต่ถึงเวลา เดินมาถึงทางแยก . . . มันก็ต้องเลือกแล้วหละ เพราะชีวิตยังต้องดำเนินต่อไป . . .
เมื่อลูกไม่รู้ว่าชอบอะไร
จริงๆเรื่องที่จะเล่าเกิดขึ้นตอนประมาณต้นเดือนมกราคมที่ผ่านมา . . ……. +++ ทั้งหมดนี้ เป็นความเห็นส่วนตัว และสิ่งที่ปฏิบัติจริงในครอบครัวของเรา +++
วันหนึ่ง . . . เมื่อลูกเดินเข้ามาหา ด้วยสีหน้าวิตกกังวลปนเศร้าสร้อย พร้อมกับพรึมพรำว่า “ยังค้นหาตัวเองไม่พบเลยว่า ชอบอะไร จะเรียนไปทางไหน อยากจะประกอบอาชีพอะไร…” สิ่งแรกที่ทำได้ก็คือ เดินเข้าไปกอดลูก ลูบหัว . . . ที่เกิดคำถามนี้ขึ้นมาเพราะว่า ถึงเวลาต้องเลือกแล้วว่า ตอนมอปลายจะเลือกเรียนทางสายไหน ถ้าเอาง่ายๆชัดๆเหมือนสมัยก่อนที่เราเรียน ม.ศ.4 และ ม.ศ.5 ก็จะมีการเลือกสาย วิทย์คณิต, ศิลป์คำนวณ และ ศิลป์ภาษา ซึ่งลองนึกย้อนกลับไปน่าจะปี 19 หรือ 20 … ยังไม่รู้เหมือนกันว่าตอนนั้นทำไมถึงเลือกวิทย์คณิต รู้แค่ว่าไปสายวิทย์ และ ไม่เคยรู้เหมือนกันว่า ตัวเองอยากจะประกอบอาชีพอะไรในอนาคต ตอบได้คำเดียวเลยว่า . . . . ตามๆกันไป (จนมาถึงปัีจจุบันถึงได้รู้ว่า ที่ผ่านมาทั้งชีวิต ไม่ใช่สิ่งที่เราชอบเลย เพิ่งจะมารู้สองสามปีนี้เองว่า เราชอบและอยากจะมีส่วนอยู่ในสังคมด้วยอาชีพอะไร !!!)
เมื่อลูกหันหน้าเข้ามาปรึกษา จริงๆแล้ว…ก็เป็นสิ่งที่เรารอคอยมานานหลายเดือนเลย เพราะเคยกระตุ้นไปหลายครั้ง แต่ยังไม่ตื่นตัว มาครั้งนี้…ก็เลยมีโอกาสได้เล่าอธิบายอย่างคร่าวๆ+ลึกหน่อย ในแต่ละสาขาวิชาอาชีพ พร้อมลักษณะชีวิตการทำงานของอาชีพนั้นๆ เป็นช่วงเวลาที่ดีที่ลูกตั้งใจฟัง เราจึงได้มีโอกาสตั้งใจพูด โดยเล่าตั้งแต่อาชีพที่เป็นที่นิยมในระดับต้นๆ เท่าที่จะนึกออก ยาวไปจนถึงเปิดกิจการค้าขายเองเลย
เราบอกลูกเสมอว่า ลูกไม่จำเป็นต้องเป็นคนเก่งที่สุด ไม่จำเป็นต้องไปเรียนโรงเรียนที่ดีที่สุด ไม่จำเป็นต้องประกอบอาชีพที่คนนิยมสูงสุด แต่ลูกควรจะเป็นในสิ่งที่ตัวเองชอบ และ มีความสุขกับสิ่งนั้น ลองหาตัวเองดูว่า ชอบอะไร อยากใช้ชีวิตแบบไหน
หลังจากนั้น . . . ก็คุยกันต่อ . . .
เท่าที่เรียนมา ชอบหรือไม่ชอบวิชาอะไรบ้าง . . . ไล่ทีละวิชาเลย แต่ไม่ได้จดรายละเอียดไว้นะ ใช้จำและคิดวิเคราะห์ต่อเลย
- ภาษาไทย
- ภูมิศาสตร์
- ประวัติศาสตร์
- หน้าที่พลเมือง
- พุทธศาสนา
- ภาษาอังกฤษ
- คณิตศาสตร์
- ฟิสิกส์
- เคมี
- ชีวะ
- ดาราศาสตร์
เวลาตอบมาก็มีถามบ้างชอบไม่ชอบตรงไหน บางวิชาไม่ต้องถามเลย บอกมาเองว่าทำไมชอบทำไมไม่ชอบ . ..
ท้ายสุด ก็มาคิดวิเคราะห์กันว่า แต่ละอาชีพ ชอบไม่ชอบ อะไรอย่างไร พร้อมทั้งบอกลูกว่า ต้องกำหนดออกมาแล้วว่าจะไปทางไหน ถ้ายังไม่สามารถปักธงได้ว่าอยากหรือชอบอะไรอย่างไร ป๊าให้ธงไป 3-4 ต้น แล้วลองปักออกมาก่อน เอาเท่าที่คิดว่าโอเคที่สุด เพราะชีวิตจริงอาจจะเจออะไรที่ดีกว่านี้
พอลองปักออกมา 3-4 ธง ทุกธงที่เลือกมา…อย่างน้อยก็ซื้อเวลาได้แล้วว่า ลูกจะต้องเลือกเรียนเส้นทางวิทย์คณิตในระดับชั้นมอปลาย เพราะธงที่ปักนั้นจะต้องเดินเส้นทางนั้นทั้งสิ้น ในช่วงเวลามอปลาย ลูกอาจจะตัดสินใจเลือกธงใดธงหนึ่งใน 3-4 ธงนี้ หรือ อาจจะเลือกธงใหม่เลยก็ได้ . . . ทุกอย่างขึ้นอยู่กับประสบการณ์ชีวิตที่จะพบเจอในช่วงใกล้ๆนี้
ดังนั้น ในการยื่นเกรดเพื่อเลือกแผนการเรียนก็ต้องยื่นตามที่ลูกชอบไป จะได้หรือไม่ได้อย่างไรค่อยว่ากัน ถ้าจะต้องไปหาที่เรียนใหม่ก็ต้องไป
++++ ใช้เวลาคุยกันระดับครอบครัว ….. เกือบ 3 ชั่วโมง ++++
เมื่อลูกเลือกทาง Silicon Valley
ไม่ใช่ว่าคิดตามน้ำว่า นึกอะไรไม่ออก เลือกวิทย์คณิตก่อนเพราะไปแตกยอดได้หลายทาง อย่าได้คิดเช่นนั้นเด็ดขาด ใช้เวลาใคร่ครวญพูดคุยกันสักหน่อยก็ยังดี . . .แต่อย่างที่บอกว่า ได้ทำการ Research ในระดับครอบครัวมาแล้วรอบหนึ่ง และผลของการ Brainstorm ก็ออกมาว่าไม่ไป Hollywood แต่จะไป Silicon Valley ตามการเก็บข้อมูลจากการสัมภาษณ์และพูดคุยกับลูก . . .
ดังนั้น ทางเลือกของลูกก็คือ อยากเรียน EP วิทย์-คณิต ที่สามเสนวิทยาลัยต่อ . . . แต่. . . ชีวิตไม่ได้ง่ายขนาดนั้น เพราะเลือกไป ไม่ใช่ว่าได้เลย และโอกาสก็ไม่ได้ง่ายด้วย เพราะเด็กส่วนใหญ่ก็จะเลือก EP วิทย์-คณิต ยิ่งถ้าหันมามองเกรดที่สะสมมาแล้ว . . . .เอิ่มมมมมม คงได้เป็นแค่ตัวสำรอง ต้องรอเด็กเก่งๆสอบเข้าเตรียมอุดมได้เยอะๆก่อน . . . . ยืมจมูกคนอื่นหายใจไปก่อน ว่างั้นเฮอะ . . . (มาถึงเวลานี้ เลือกไปแล้ว ก็ต้องรอผลบุญผลกรรมที่ทำมาตลอด 3 ปีนี้แหละครับ)
อีกทางเลือกหนึ่งก็คือ ไปสอบคัดเลือกเข้ามาใหม่ เพราะจะมีการรับสมัครผ่านการสอบคัดเลือกทั่วไปในรอบห้องเรียนพิเศษ 10 ที่นั่งสำหรับ EP วิทย์-คณิต ซึ่งก็ไม่ได้ง่ายอีก เพราะว่ามีเด็กมาสมัครและสอบมากมาย แต่รับเพียงแค่ 10 คน
หนทางสุดท้ายคือ สอบเข้าโรงเรียนไหนก็ได้ ที่เป็นวิทย์-คณิต ในการสอบคัดเลือกทั่วไปรอบห้องเรียนปกติ ซึ่งก็คงต้องต่อสู้กันถึงขั้นฏีกานี่แหละครับ . . .
เห็นไหมว่า….ชีวิตมีรสชาติจริงๆ . . . มีให้ตื่นเต้นได้ทุกช่วงเวลา
ปล. ถ้าเกรดดีกว่านี้อีกสักนิด ก็ไม่ต้องดิ้นรนกันละ แฮะๆ
บทความอื่นๆ
เมื่อต้องเลือก . . . จะเลือกให้ลูกสอบที่ไหน . . . โรงเรียน และ โอกาส เป็นสิ่งที่ต้องคิดให้รอบคอบ
สอบเข้า ปีการศึกษา 2561 – รวบรวมประกาศรับสมัครสอบเข้าเรียนระดับชั้น ม.1 และ ม.4
เรื่องเรียนของลูก :: รวบรวมบทความ “สอบเข้า EP สามเสน”
12 ห้องเรียน ม.1 โรงเรียนสามเสนวิทยาลัย ปีการศึกษา 2561
สรุปข้อสอบเข้า ม.1 ห้องเรียนพิเศษ ปีการศึกษา 2560
เรื่องเรียนของลูก :: สรุปแนวข้อสอบเข้า ม.1 ห้องเรียนพิเศษ ปีการศึกษา 2559 ของโรงเรียนต่างๆ