หุบเขา Owakudani หุบเขานรก !
หุบเขา Owakudani เป็นอีกหนึ่ง Destination ของนักท่องเที่ยวชาวไทย ที่ไปเพราะว่าอยากจะไป และ ไปเพราะว่าทัวร์พาไป สำหรับพวกเรา..ก็แน่นอนว่าไปเพราะว่ามันอยู่ในโปรแกรมทัวร์ อย่างที่บอกว่า เป็นการจ่ายเงินเที่ยวกับทัวร์ครั้งแรกในรอบกว่าสิบปี ดังนั้น โปรแกรมทัวร์เราก็พิจารณาดูมายิกยิกเหมือนกัน ที่นี่ .. หุบเขา Owakudani ก็ได้ทำการบ้านมาบ้าง(มากับทัวร์ยังอุตส่าห์ทำการบ้านอีก) ก็ถือว่าเป็นอะไรที่น่าสนใจในระดับหนึ่ง แต่เมื่อมาถึงแล้วกลับพบว่า เป็นอะไรที่น่าสนใจมาก สมาชิกครอบครัวเราชอบเราก็มีความสุข . . .
ที่นี่มีอะไร?
ภาพแรกที่เราเห็นมาแต่ไกลเลยก็คือ ควันสีขาวที่คุกรุ่นอยู่โดยรอบบริเวณ พร้อมทั้งกลิ่นที่ไม่ปกติ แต่กลิ่นนี้เคยได้กลิ่นมาหลายครั้งแล้วจากหลายๆสถานที่ท่องเที่ยวตามมุมต่างๆของโลก . . . เราไม่แปลกใจเลย มันคือกลิ่นของกำมะถัน นั่นคือสิ่งที่ทิ้งร่องรอยเอาไว้หลังจากที่ภูเขาไฟฮาโกเน่ระเบิดเมื่อกว่า 3000 ปีที่แล้ว จึงทำให้เห็น พบเจอ เถ้าถ่าน กำมะถัน บ่อน้ำพุร้อน อยู่รอบๆภูเขาไฟ และที่เห็นอยู่ด้านหน้าของเราก็คือ เหมืองกำมะถัน(ไม่รู้เขาเรียกว่าเหมืองหรือปล่าว แต่เห็นทำกันเป็นล่ำเป็นสัน)
นอกจากแหล่งกำมะถันที่เห็นนี้แล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่นักท่องเที่ยวนิยมมาแสวงหากันมากก็คือ ไข่ดำ ไอศครีมดำ อะไรทำนองนั้น . . . ถ้าเป็นของดำบ้านเราก็ต้องนึกถึงการไหว้ราหู แต่ที่นี่เขาก็มีความเชื่อที่เล่าสืบต่อกันมานะครับว่า . . .
ในสมัยโบราณโน้น มีชายชราที่ป่วยหนักคนหนึ่ง หมอที่รักษาก็ส่ายหน้าแล้วว่าเกินจะเยียวยา และคงไม่รอดตายในสามวันเจ็ดวัน(เหมือนคำแช่งคำสาบานเลย) แต่ชายหนุ่มลูกสุดกตัญญูของชายชราก็ไม่ย่อท้อ ไม่อยากให้พ่อตาย พอมีคนบอกว่าที่หุบเขาโอวาคุดานิ มียาวิเศษก็เลยอยากจะไปหามาให้พ่อกิน . . ก็ไปสิครับ จะรีรออะไร . . . เมื่อไปถึง ก็เจอชายชราคนหนึ่งนั่งอยู่ที่บ่อกำมะถันก็เลยเดินเข้าไปทัก . . . ชายชราท่านนั้นก็อุ๊ต๊ะตกใจ ทำของที่อยู่ในมือตกลงไปในบ่อน้ำกำมะถันนั้น ชายหนุ่มก็ถามชายชราว่า “ได้ข่าวว่าที่นี่มียาวิเศษ สามารถช่วยให้พ่อของเขาไม่ตายได้ จะไปหาได้จากที่ไหนหรอ?” ชายชราได้ยินเช่นนั้นก็ชี้ไปที่บ่อน้ำกำมะถัน ชายหนุ่มก็ไม่ลีลารีรอ กระโดดลงไปในบ่อเลย งม งม จนหยิบของขึ้นมาได้ชิ้นหนึ่ง เป็นไข่สีดำ(เข้าใจว่าเป็นไข่ที่ชายชราทำตกลงไป พอต้มมันก็กลายเป็นสีดำ) จึงคิดว่า นี่แหละคือยาวิเศษ ไข่วิเศษ ที่จะทำให้พ่อของเขาไม่ตาย ก็เลยรีบเอากลับไปให้พ่อกิน ซึ่งพ่อที่ป่วยหนักกำลังจะตาย ก็ไม่ตาย และมีชีวิตอยู่มาได้อีก 7 ปี จึงเป็นความเชื่อที่เล่าสืบต่อกันมาว่า กินไข่ดำ 1 ฟอง อายุจะยืนยาวเพิ่มขึ้นอีก 7 ปี
ภาพบรรยากาศโดยรอบ
มาถึงตรงนี้ นอกจากกลิ่นกำมะถันแล้ว ที่หนักกว่านั้นก็คือ อากาศที่หนาวเย็นมากๆๆๆๆๆ หน้าชามือชา ลมเย็นยะเยือกพัดมาอย่างแรง 5 5 5 ไม่ไหวๆแล้วหละ ลองชมภาพโดยทั่วไปนะครับ
ร้านค้าโซนนี้มีทั้งขายของกิน ของที่ระลึก น่ากินทุกอย่างเลยครับ . . .ไอศครีมชาเขียว และอีก Signature ไอศครีมดำ . . . อยากกิน หนาวๆต้องกินไอศครีม พิษข่มพิษ . . . แต่ร้านยังไม่เปิด . . เดินมาถึงตรงนี้ ก็ได้ยินเสียงผู้ชาย พูดเสียงดัง เหมือนกับว่าเชิญชวนอะไรสักกะอย่าง . . . เดินตามเสียงเจอละ คุณลุงท่านนี้ ที่เสียงดังเจื้อยแจ้วเมื่อสักครู่นั่นเอง . . . เราก็เลยจัดมาลองดู โอ้โห . . . ถ้ามันจะอร่อยอย่างนี้ คุณลุงอยู่เงียบๆก็น่าจะขายดีนะครับ . . . เสียใจหนักมาก ซื้อน้อยไปหน่อย อยากกลับไปกินอีก
มีมุมให้นักท่องเที่ยวถ่ายรูปเยอะนะครับ ตั้งใจทำขึ้นมาเลยเสียงลือเสียงเล่าอ้างกันมาว่า ต้องมาถ่ายคู่กับ คิตตี้ไข่ดำนะครับ ความรักถึงจะได้สมหวังมาเพิ่มชีวิตอีกสัก 7 ปี . . . แต่ไม่ใช่กินเข้าไปแล้วจะเหลือ 7 ปี นะครับอำลาดินแดนกำมะถันและไข่ดำ . . . หุบเขา Owakudani
บทสรุป
ในวันที่อากาศหนาวเย็นแบบนี้ ได้กินได้ชิมขนมอร่อยๆอุ่นๆหลายๆอย่าง เป็นอะไรที่แค่คิดก็มีความสุขแล้ว อีกหนึ่งสถานที่ที่ควรมาเยี่ยมชม
โพสต์อื่นๆที่เกี่ยวข้องกับทริปนี้
เที่ยวกับทัวร์…คือว่าเที่ยวเองตลอด. . . ครั้งแรกในรอบกว่าสิบปีที่ซื้อทัวร์เที่ยว . . . เจอดีเลย !
เลือกที่นั่ง – WINDOW SEAT : ใครชอบแบบไหนนั่งแบบนั้น แต่สำหรับผม ใจมันอยู่ที่หน้าต่าง . . .ราเมนข้อสอบ ICHIRAN RAMEN สาขา SHINJUKUวัดนาริตะซัน ชินโชจิ – วัดแรกในญี่ปุ่นที่เราไปเยือน