เกาะเกร็ด ปั่นจักรยานเที่ยวห้าวัดบนเกาะเกร็ด แถม สามวัดร้าง

เกาะเกร็ด

เกาะเกร็ด เมื่อนึกถึงทีไร ก็จะนึกถึงภาพเครื่องปั้นดินเผา ชาวมอญ ขนมหวาน อะไรประมาณนั้น เคยไปเกาะเกร็ดมาแล้วสี่ห้าครั้ง ทุกครั้งก็ไปแค่ที่วัดปรมัยยิกาวาส แล้วเดินเล่นตรงแถวหมู่บ้าน ก็หมดเวลาหมดแรงแล้ว เมื่อสองสามวันก่อนไม่รู้นึกยังไงเปิดภาพมาเห็นแผนผังแผนที่ของเกาะเกร็ด จึงนึกว่าจะลองไปปั่นจักรยานชมวัดอื่นๆบนเกาะเกร็ดดูบ้าง ว่าสภาพโดยรอบของเกาะเกร็ดนั้นเป็นอย่างไร

วันนี้พอมีเวลาหน่อย และเป็นวันธรรมดา(ที่ไม่ธรรมดา)ด้วย เข้าใจว่าบนเกาะคนจะน้อยมาก แต่ร้านค้าก็ไม่ได้เปิด ในใจไม่ได้คิดจะไปจับจ่ายซื้อของอยู่แล้ว อยากจะไปปั่นจักรยานรอบเกาะแวะไหว้พระตามวัดต่างๆ(ตอนแรกก็ไม่นึกว่าเกาะจะใหญ่และวัดจะเยอะขนาดนี้) ก็เลยตัดสินใจหลังจากส่งลูกที่โรงเรียนแล้วก็ม่งหน้าไปห้าแยกปากเกร็ดทันที

aaIMG_1652


การเดินทาง

ความจริงเรื่องการเดินทางมีคนพูดถึงและรีวิวมาแล้วเยอะแยะมากมายทั้งทางรถสาธารณะ ทางเรือ ฯลฯ ดังนั้นวันนี้ก็จะพูดถึงเฉพาะที่เราเดินทางกันวันนั้นเลยว่าไปยังไงมายังไง … แต่จะขอกล่าวสั้นๆก่อนว่า เกาเกร็ดมันอยู่ตรงไหนของกรุงเทพ

พอจะเห็นเป็นเกาะนะครับ อยู่ประมาณตำแหน่ง 11 นาฬิกาของกรุงเทพ ดูๆแล้วเกาะก็ไม่เล็กไม่ใหญ่
map01แน่นอนว่าขับรถไป เพราะเพิ่งส่งลูกที่โรงเรียนสามเสนวิทยาลัยเสร็จก็หันหัวรถมาทางนี้เลย ลงทางด่วนตรงแจ้งวัฒนะ มุ่งหน้าไปห้าแยกปากเกร็ด เมื่อถึงแยกไฟแดงก็ตรงเลยครับ(รอสัญญาณไฟเขียนก่อนนะครับ) จะเห็นถนนกว้างๆก่อนถึงโรงภาพยนต์เมเจอร์หรือถนนแจ้งวัฒนะ-ปากเกร็ด 16 ก็สามารถเข้าทางเส้นทางนี้ได้เลยครับ(ตามเส้นสีเขียวในรูป)  หรือใครอยากจะไปเส้นเก่าแก่ก็ตรงไปอีกจะเลี้ยวเข้าทางถนนแจ้งวัฒนะ-ปากเกร็ด 4 (ตามเส้นสีแดงในรูป) ซึ่งก็จะนำไปสู่วัดสนามเหนือ เพื่อจอดรถลงเรือข้ามไปเกาะเกร็ด ความจริงแล้วเราก็สามารถจอดและลงเรือที่วัดอื่นๆได้อีกเช่นวัดกลางเกร็ด หรือข้าวเจ้าพระยาไปจอดฝั่งตรงข้ามที่วัดบางจากก็ได้ครับ วันหยุดฝั่งวัดบางจากคนจะน้อยกว่า

routemap


ภาระกิจไหว้พระบนเกาะ

แน่นอนมาวันธรรมดา มาแต่เช้า ไม่ได้มาช๊อป ไม่ได้มาชิม แน่ๆ เรามาจอดรถที่วัดสนามเหนือ ซึ่งก็จอดแบบสบายๆ
aaIMG_1623 aaIMG_1624 aaIMG_1626

มาในช่วงก่อนเทศกาลวันพระใหญ่หยุดยาวaaIMG_1630aaIMG_1831

เดินอ้อมไปทางด้านหลัง ก็เจอคุณพี่นั่งขยันทำงานแต่เช้าaaIMG_1647

มาถูกทางแล้วครับ …aaIMG_1649

ถึงท่าเรือข้ามฟาก ริมตลิ่งก็ยังกงมีการก่อสร้างแนวกำแพงกั้นอยู่บ้าง แต่โป๊ะท่าเรือก็พอดูดี น่าจะปลอดภัย
aaIMG_1827มองไปยังฝั่งเกาะ ก็เห็นเจดีย์เอียงซึ่งเป็น Landmark ของเกาะเกร็ดอยู่แล้ว
aaIMG_1652ยังไม่ได้จ่ายตังส์เลย ลงเรือไปก่อน แป๊บเดียวก็มาถึงฝั่งวัดปรมัยยิกาวาส แล้ว
aaIMG_1659ถึงท่าเรือฝั่งเกาะเกร็ดแล้ว
aaIMG_1665เดินขึ้นท่าไปจ่ายตังส์ที่ศาลาด้านบนโน่น
aaIMG_1667 aaIMG_1669

ขึ้นมาจากเรือก็จ่ายสองบาท ขากลับจะลงเรือก็จ่ายสองบาท
aaIMG_1670

จ่ายเสร็จแล้วผมก็เดินไปทางด้านซ้ายมือเลยครับ เพื่อที่จะเช่าจักรยาน ในราคาคันละ 40 บาท ไม่จำกัดชั่วโมง
aaIMG_1674
ถ้าหิวก็หาอะไรรองท้องแถวๆนั้นก่อนได้เลยครับ เพราะวันนี้หาของกินยากหน่อย ร้านจะปิดเสียเป็นส่วนใหญ่
aaIMG_1675


ได้เวลาไหว้พระ

วันนี้เราจะไปไหว้พระตามวัดต่างๆตามแผนที่นี้เลยครับ
map02


วัดปรมัยยิกาวาส 

เดิมชื่อวัดปากอ่าว มีชื่อเรียกในภาษามอญว่า “เภี่ยมุเกี๊ยะเติ้ง” 

เป็นวัดตั้งแต่สมัยอยุธยาตอนปลาย เป็นถิ่นฐานของชาวมอญ วัดนี้จึงเป็นศูนย์รวมจิตใจและวัฒนธรรมของชาวมอญมาช้านาน

aaIMG_1685 aaIMG_1695

พระเจดีย์มุเตา เป็นเจดีย์ที่สร้างแบบชาวมอญ จะมีผ้าแดงคลุมไว้ตามวัฒนธรรมของชาวรามัญ พระเจดีย์มุเตาสร้างโดยชาวมอญที่อพยพมาพึ่งพระบรมโพธิสมภาร เมื่อครั้งปลายสมัยกรุงศรีอยุธยา ภายในบรรจุพระธาตุเป็นที่เคารพสักการะของชาวไทยเชื้อสายมอญ แต่เดิมเป็นเจดีย์ที่สร้างตั้งตรงดั่งเช่นปกติ แต่ต่อมาน้ำเซาะตลิ่งพัง จึงทำให้เจดีย์ทรุดตัวและเอียงลงaaIMG_1691 aaIMG_1686

มองไปทางแม่น้ำเจ้าพระยา ก็จะเห็นหลวงพ่อโตองค์ใหญ่ของวัดบางจากอยู่ฝั่งตรงกันข้ามโน้น
aaIMG_3556 aaIMG_3553aaIMG_1680aaIMG_3549


วัดไผ่ล้อม

เราปั่นจักรยานผ่านหมู่บ้านไปตามเส้นทางที่สร้างขึ้นเพื่อการสัญจรรอบเกาะ จึงเป็นที่สะดวกยิ่ง ไม่นานนักก็มาถึงวัดไผ่ล้อม

เข้าใจว่าเป็นวัดที่เก่าแก่ที่สุดบนเกาะเกร็ดสร้างในสมัยกรุงศรีอยุธยา แต่ต้องกลายเป็นวัดร้างในสมัยนั้นเนื่องจากพม่ายกทัพเข้ามายึดเมืองนนทบุรีก่อจะเข้าตีกรุงศรีอยุธยาในปี พ.ศ. 2310 ในปัจจุบันวัดไผ่ล้อมมีชื่อเรียกตามภาษามอญว่า “เภี่ยะโต้” ซึ่งแปลว่าวัดกลาง  เนื่องจากวัดไผ่ล้อมอยู่ระหว่างกลางของวัดมอญอีกสองวัดนั่นคือ วัดปรมัยยิกาวาส และ วัดเสาธงทอง

aaIMG_1719 aaIMG_1720 aaIMG_1724

พระปางแหงนหน้ามองฟ้า ผมก็ไม่ทราบว่าเรียกว่าปางอะไร aaIMG_1725

อาคารไม้เก่าแก่ทรุดโทรมมาก ไม่แน่ใจว่าในอดีตเป็นอะไร? แต่ดูแล้วอยากให้บูรณะขึ้นมาใหม่จริงๆaaIMG_1727aaIMG_3569 aaIMG_1729

พักเหนื่อยกับกาแฟโอ่งกันหน่อยนะครับ หน้าวัดไผ่ล้อมเลย
aaIMG_1730

นั่งพักให้หายเหนื่อยหน่อย อากาศร้อนแบบไม่ธรรมดาจริงๆ
aaIMG_3573

ฝั่งตรงข้ามโน้นก็วัดบางจาก ที่บอกว่าเราสามารถไปจอดรถแล้วลงเรือข้ามมาที่เกาะได้เช่นกันaaIMG_1734aaIMG_3575


วัดเสาธงทอง

มากันต่อที่วัดเสาธงทอง เป็นอีกวัดมอญเก่าแก่ขนาดใหญ่บนเกาะเกร็ด โดยเดิมทีที่สร้างในตอนปลายสมัยอยุธยาตอนต้นสมัยกรุงธนบุรีนั้นย่านนี้เป็นสวนหมากมากมาย จึงได้ชื่อว่า “วัดสวนหมาก” แต่ก็ได้มีการตัดโค่นต้นหมากไปเสียหมดสิ้น ต่อมาในสมัยรัตนโกสินทร์เมื่อได้มีการบูรณะใหม่ก็เลยเปลี่ยนชื่อมาเป็นวัดเสาธงทอง ชาวมอญท้องถิ่นเรียกวัดนี้ว่า “เพ๊ยะอาล๊าต” \

มาเริ่มจากท่าเรือหน้าวัดกันเลย แฮะๆๆ

aaIMG_1735

ฝั่งตรงข้ามก็คือวัดบางจากที่เห็นหลวงพ่อโตโดดเด่นเป็นสง่าอยู่ริมน้ำเจ้าพระยา ถ้าเรามาจอดรถที่วัดบางจาก ลงเรือข้ามฟาก 5 บาท เรือจะมาส่งที่ท่าวัดเสาธงทองนะครับ เราก็สามารถเที่ยวรอบเกาะเกร็ดได้เช่นกัน … อ่อ ..เห็นแว๊บๆ แถวๆนี้ก็มีจักรยานให้เช่าด้วยเช่นกันนะครับ
aaIMG_3577
aaIMG_1767

เดินเข้าไปด้านใน สิ่งที่เห็นโดดเด่นแปลกตาก็คือเจดีย์องค์นี้ เลยต้องกลับมาหาข้อมูลเพิ่มเติม เรียกกันว่าเป็นเจดีย์ทรงกลีบมะเฟืองอวบ เป็นเจดีย์ศิลปะแบบอยุธยามีลักษณะเป็นทรงระฆังกลมฐานสูงตัวองค์ระฆังเป็นกลีบมะเฟือง 9 กลีบสันนิษฐานว่ารับอิทธิพลจากปรางค์แบบเขมร ซึ่งเหลืออยู่องค์สุดท้ายแล้วเท่าที่พบเจอกัน และเพิ่งจะได้รับการบูรณะจากกรมศิลปากรเมื่อไม่นานมานี้เอง
aaIMG_1736

เจดีย์อีกองค์เป็นทรงระฆังกลม

aaIMG_1757เดินเข้ามาด้านในโบสถ์ซึ่งมีลายเพดานสวยงามมากเขียนลายทองกรวยเชิงอย่างงดงาม  พระประธานเป็นพระปางมารวิชัยปูนปั้นขนาดใหญ่ แต่ช่วงนี้อาจจะมีพิธีอะไรเลยมีผ้าคลุมไว้อยู่

aaIMG_1740

ข้างๆโบสถ์หลัก ยังมีโบสถ์หลังเล็กอยู่อีกหลังหนึ่ง ลายปูนปั้นบริเวณประตูแตกหักไปเยอะแล้วaaIMG_1750ด้านในประดิษฐานหลวงพ่อทันใจ
aaIMG_1753

ต้นยางอายุกว่า 200 ปี ในบริเวณนี้มีต้นยางสูงใหญ่มากมายหลายต้น บางต้นที่อายุเยอะหน่อยก็มีอย่างน้อย 200 กว่าปีแล้ว aaIMG_1746

aaIMG_1765

เดินออกมาทางด้านหลังวัด ก็ยังคงมีเจดีย์ที่สำคัญอีกองค์หนึ่งเป็นเจดีย์ทรงย่อมุมยี่สิบระฆังคว่ำองค์กลางซึ่งถือได้ว่าเป็นเจดีย์ที่สูงที่สุดบนเกาะเกร็ดด้วย และยังรายล้อมไปด้วย เจดีย์ย่อมุมสิบสอง ขนาดเล็กอีกสิบสององค์
aaIMG_1759เดินเลยจากเจดีย์ตรงนี้มาหน่อย ก็สังเกตุเห็นสิ่งก่อสร้างรกร้าง ประจวบเหมาะกับมีคุณลุงท่านหนึ่งเดินฝ่าป่ารกออกมา ก็เลยถามลุงว่า ตรงนี้เมื่อก่อนเป็นอะไรหรอครับ? ลุงบอกว่า เมื่อก่อนเป็นโรงเรียน แต่เดี๋ยวนี้ร้างละ เด็กมาเรียนน้อย ก็เลยกลับมาค้นคว้าข้อมูลเพิ่มเติม ได้ความว่า ที่นี่ก็คือโรงเรียนวัดเสาธงทอง เป็นโรงเรียนแห่งแรกของเกาะเกร็ดเลย ก็เลยสงสัยว่าเด็กๆคงไปเรียนที่โรงเรียนวัดปรมัยยิกาวาส หรือไม่ก็มีอีกโรงเรียนก็คือโรงเรียนวัดศาลากุล อีกอย่างก็คือข้ามไปเรียนบนฝั่งโน่นเลย ….. น่าเสียดายจริงๆ ดูสภาพแล้วมีหลายอาคาร น่าจะนำมาปรับปรุงทำอะไรได้อีกเยอะนะ
aaIMG_1761

 


วัดร้าง

วัดมะขามทอง

จะเรียกว่าวัดก็อาจจะดูไม่เหมือนวัดแล้ว เพราะที่นี่เป็นวัดร้าง คงเหลือแต่พระพุทธรูปและลูกนิมิต 4 ลูก ปัจจุบันเป็นศาลาเอนกประสงค์ขนาดที่เห็นตามภาพเลยครับ

aaIMG_1769 aaIMG_1770

วัดจันทร์ (เก่า)

aaIMG_1777


วัดศาลากุล

จากวัดเสาธงทอง ปั่นจักรยานผ่านวัดร้างสองวัด ก็คือวัดมะขามทองและวัดจันทร์ หลังจากนั้นปั่นไปอีกไกลพอควรกว่าจะมาถึงวัดศาลากุล แถม บรรยากาศแอบเปลี่ยวๆด้วย ปั่นไปมีเหลียวหลังอยู่บ่อยๆ

ว่ากันว่าเดิมทีวัดนี้ก็อยู่ริมน้ำ แต่ผ่านมานานวันเข้า แผ่นดินก็งอกเพิ่มมาเรื่อยๆ จนทำกลายเป็นว่าปัจจุบันให้วัดอยู่กลางเกาะ ในปัจจุบันถาวรวัตถุ อาคารสถานที่ ล้วนแต่สร้างขึ้นมาใหม่หมด แต่ก็ยังคงมีของเก่าแก่เก็บรักษาไว้ เช่น เครื่องมุก เครื่องแก้ว ฯลฯ บริเวณวัดยังมีโรงเรียนในสภาพดีอยู่ด้วย

aaIMG_1783 aaIMG_1784 aaIMG_1785 aaIMG_1782


ออกจากวัดศาลากุลเราก็ปั่นจักรยานไปตามทาง สองข้างทางก็เป็นสวนผัก สวนผลไม้
aaIMG_1786

จนกระทั่งมาถึงบริเวณท่าเรือป่าฝ้าย ก็จะมีส่วนที่เป็นสะพานไม้ ที่เข้าใจว่ารอการปรับปรุงซ่อมบำรุงอย่เป็นแน่ เพราะเป็นช่วงเดียวเท่าที่ปั่นมา ที่ไม่ได้เป็นทางคอนกรีต จะเห็นว่าบริเวณสะพาน ก็มีสิ่งปลูกสร้างที่เป็นวัดเช่นกัน เราก็เลยลงไปดูกัน
aaIMG_1793

วัดร้าง (วัดป่าเลไลย์)

สันนิษฐานว่าเป็นวัดที่สร้างในช่วงกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย ปัจจุบันเลยอยู่ในความดูแลของวัดฉิมพลี เนื่องจากว่าอยู่ใกล้ๆกัน

aaIMG_1795 aaIMG_1796

ลายปูนปั้นเก่าแก่เหลือให้เห็นน้อยเหลือเกินaaIMG_3586 aaIMG_1799


วัดฉิมพลีสุทธาวาส 

จากวัดร้างวัดป่าเลไลย์ เราก็ไปกันต่อ … อีกนิดเดียว …… ปั่นกันต่อ …. ปั่น ๆ ๆ ….. อ่าว ยังไม่ทันปั่นเลย ถึงล๊ะ ข้างหน้านี่เอง วัดฉิมพลี

aaIMG_1802

วัดนี้ดูใหญ่โตไม่แพ้วัดปรมัยยิกาวาสเลยน๊ะ

aaIMG_1803aaIMG_3589

เดิมทีวัดนี้ชื่อว่าวัดป่าฝ้าย สร้างขึ้นในสมัยอยุธยา ต่อมามีการบูรณะในสมัยรัชกาลที่ ๒ และทรงพระราชทานนามใหม่ว่า  วัดฉิมพลีสุทธาวาส และวัดนี้ยังมีชื่อเรียกตามภาษาถิ่นภาษามอญว่า คนมอญมักจะเรียกวัดนี้ว่า “เพี๊ยะโต้” aaIMG_1806 aaIMG_1808

ท่าเรือที่หน้าวัดฉิมพลีaaIMG_1813


บทสรุป

ใช้เวลาอยู่บนเกาะประมาณเกือบ 4 ชั่วโมง บรรลุวัตถุประสงค์ แต่ยังไม่ตกสะเก็ด เพราะว่าไม่ได้ทำการบ้านไปก่อน ตั้งใจว่า จะหาเวลาไปปั่นในวันธรรมดาอีกสักรอบหนึ่ง แล้วจึงค่อยไปวันหยุด เดี๋ยวคราวหน้าจะลองไปจอดรถทางฝั่งวัดบางจากดูบ้าง

วันธรรมดา อาจจะเริ่มมีร้านค้าเปิดมากขึ้นในช่วงบ่ายๆนะครับ