เราเหน็ดเหนื่อจากการปีนผาเดินชมถ้ำหินกันที่ ถ้ำหินประตูมังกร (ถ้ำผาหลงเหมิน) กันมาอย่างเหน็ดเหนื่อย ตอนนี้ก็ถึงเวลาไปหาที่พักกันบ้างแล้วหละ
Luoyang :: ตอนที่ 2 – ปีนผาส่องถ้ำเยี่ยมสวรรค์…ที่ถ้ำหินประตูมังกร – ถ้ำผาหลงเหมิน
และตอนที่ 1 Luoyang :: Longmen Grottoes 龙门石窟 ถ้ำผาหลงเหมิน หรือ ถ้ำสวรรค์ประตูมังกร ตอนที่ 1 :: เดินทาง …
ที่พักครั้งนี้เป็นแบบ Hostel ที่อยู่ท่ามกลางสถานที่ที่เราอยากจะไปเดินเล่นต่อ นั่นก็คือ เมืองเก่าลั่วหยางและถนนสายอาหาร
บอลล์ บอลล์ บอกว่าเป็นครั้งแรกเลยที่ได้พัก Hostel มันเป็นยังไงน้อ….
ดูจากแผนที่ก่อน … เราลงรถที่ตำแหน่ง 6 แล้วเดินย้อนลงมาถึงสี่แยก ก็ข้ามถนนแล้วเดินไปทางซ้าย
เดินไปเรื่อยๆก็จะเจอ Luoyang Yi Jia International Youth Hostel ซึ่งจะอยู่ข้างๆโบสถ์คริสตจักร
เรามาดูบรรยากาศด้านในของโฮสเทลแห่งนี้กันเลยนะครับ
เราจองผ่าน Booking.com เป็นแบบ 3 เตียงนอน มีห้องน้ำในตัวด้วย ในสนนราคา 700 บาท สำหรับสามคน ก็ตกคนละ สองร้อยกว่าบาท ก็ถือว่าโอเคแล้วครับ
บริเวณ Lobby ครับ ดูแว๊ปแรกก็คิดว่า ใช่เลย มันต้องแบบนี้ ฮิปๆ
เจ้าหน้าที่ Front สามารถพูดภาษาอังกฤษได้ดีครับ ดูๆแววยังกับว่าเป็นพวกนักศึกษามาทำงานพิเศษ นะครับ
มุมนั่งกิน นั่งอ่าน นั่งเขียน
Tour Information ก็มีนะครับ
หรือจะสั่งอาหารรับประทาน ราคาก็ยังพอรับได้
เดินขึ้นไปดูด้านบนบ้างดีกว่า
บรรยากาศสมกับเป็น Hostel หน่อย
ทางเดินหน้าห้องพักเรา ห้องเราเป็นห้องแรกด้านขวามือ
ส่วนของห้องน้ำรวม มีเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญด้วย
มีกาต้มน้ำร้อน ขนาดใหญ่(มาก) ซึ่งน้ำจะเดือดอยู่ตลอดเวลา เราก็อาศัยน้ำร้อนนี้นี่แหละ จัดการกับมาม่าคัพ โจ๊กคัพ ที่เราเตรียมมา อิอิ
สามเตียงนอน มีแอร์(เครื่องทำความร้อน Heater) เต้าเสียบเป็นแบบ Universal Plug เสียบได้เลย
ห้องน้ำที่อยู่ในห้องนอนเรา
เดี๋ยวเราจะไปเดินเล่น แถวๆเมืองเก่า ที่อยู่ด้านหลังโรงแรมนี้นี่เอง
จากการเดินชมที่นี่ เดาๆได้ว่า เราอาจจะได้เห็นสภาพแบบนี้ได้อีกไม่นาน เพราะว่า มันน่าจะกำลังกลายพันธ์ไปเป็นตึกสูงคอนโดใหญ่ในไม่ช้าแน่นอน
หลายหลัง(เกือบครึ่ง) ถูกทิ้งให้รกร้างว่างปล่าว หลายหลังก็รื้อรังพังทลายไปแล้ว
จากแผนที่ด้านบน เราเริ่มต้นเดินออกจากโรงแรม(หมายเลข 1) ไปตามเส้นปะสีเขียว ผ่านบ้านเก่าๆ(หมายเลข 2) ผ่านหอกลองแห่งลั่วหยาง (หมายเลข 3) (เพิ่งมารู้ตอนเขียนรีวิวนี่แหละครับ ว่านั่นคือหอกลอง เห็นจาก pin point ใน googlemap) ตอนแรกว่าจะเดินไปถึงประตูเมืองเก่าที่หมายเลข 7 แต่พ่อยอดชายบอกว่า “เดินไม่ไหวแล้วป๊า … ” ก็เลยเดินมาหาที่นั่งพักนั่งรอเวลาตลาดถนนอาหารเปิดกันแถวๆหมายเลข 4 ซึ่งก็คือถนนสายอาหารทั้งสาย เราเดินกินชิมเพลินกันอยู่ตรงนั้นจนมืดค่ำ ถึงได้เดินกลับไปพักผ่อนที่โฮสเทล หลับกันสบายคืนนี้ เดินกันมาเยอะทั้งวัน
ออกจากโรงแรม พอเราเลี้ยวขวามา ก็เจอเขาขายเนื้อหลากหลายที่ปรับแต่งเป็นเจลลี่ ถ้าเป็นเนื้อหมูเขาก็จะเรียกว่า คาตั่ง(ตามที่เคยได้ยินผู้หลักผู้ใหญ่เรียกมา) เป็นการเอาเนื้อหมูมาเคี่ยวด้วยสูตรโบราณ ที่มีการคลุกเคล้าใส่เครื่องปรุงอย่างดีแล้วเคี่ยวนานหนึ่งวัน หน้าตาที่ผ่านการเคี่ยวแล้วก็จะเหมือนวุ้นใส มีเนื้อหมูปนอยู่ในวุ้น เมื่อจะรับประทานก็นำออกมาหั่นเป็นชิ้นๆ น่าสนใจดีครับ
เดินกันต่อไป
ดูเมืองเก่าแก่แบบนี้ แต่ก็มีกล้องวงจรปิดเยอะแยะ แถมไม่ต้องใช้กล้องดรัมมี่ด้วย เพราะเมืองจีนทำเองใช้เองถูกมากๆ
เดินชมกันไปเรื่อยๆนะครับ อากาศเย็นๆ
น่าจะเป็นโรงเตี๊ยม หรือว่า โรงแรมหรือปล่าว อิอิ ไอเราก็เก่งภาษาจีนซ๊ะด้วยสิ
เดินไปข้างหน้า เห็นอะไรมาขวางถนนอยู่แว๊บๆ
อ่อ … เดินมาถึงหอกลองแห่งเมืองลั่วหยาง (ใช่หรือปล่าว แต่เห็นใน google map เขียนบอกเอาไว้)
ดีน๊ะ ที่แถวนี้ไม่มีกลิ่นอันไม่พึงประสงค์ แต่ความเก่าแก่แบบที่ไม่ค่อยได้รับการบำรุงรักษาแบบนี้
ยิ่งทำให้เห็นถึงความเก่าอันแท้จริง
อยากเดินเข้าไปถ่ายใกล้ๆนะ แต่กลัวมีคนเปิดประตูออกมา จะวิ่งกันไม่ทัน อิอิ
มีความรู้สึกว่า พอผ่านหอกลองนั้นมาแล้ว บ้านเรือนแถวนี้ ดูดีขึ้นมาอีกนิด ยังมีร้านค้า ยังมีคนอยู่อาศัยเป็นส่วนใหญ่
ร้านค้าย่านนี้เป็นพวกรูปภาพ ป้ายตัวอักษรภาษาจีน โลงศพ ประมาณนั้น
เดินมาถึงสี่แยก เดินตรงไปเรื่อยก็จะไปถึงกำแพงเมืองเก่า ทางขวามือก็จะเป็นถนนสายอาหารแล้ว
กำแพงเมืองอยู่ไกลๆโน่น บอลล์ บอลล์ บอกว่า วันนี้เดินไม่ไหวแล้ว ขอนั่งพักแถวนี้ได้ไหม
พวกเรามากันเอง ไม่ได้มากับทัวร์ ก็เลยเปลี่ยนแผนเลย ว่า เดี๋ยวเราหาที่นั่งพัก รอเวลาที่ถนนสายอาหารเปิดจะได้มาเดินเล่นกัน
เดินเลี้ยวไปทางขวา นี่คือแนวถนนสายอาหารยาวตลอด ตอนนี้เขาเริ่มปิดถนนแล้วหละ …
เดินมาจนสุดถึงหัวถนน เจอร้าน KFC ก็เลยเข้าไปนั่งพักให้หายเมื่อยขาหน่อย
แถมด้วยรองท้องไปอีกหลายรายการ
ฝั่งตรงข้าม เยื่องๆ คือโรงแรมที่เราใช้เป็นจุดสังเกตุตอนนั่งรถเมลล์สาย 53 มาจาก ผาหลงเหมิน
(หมายเลข 5 ในแผนที่)
พอได้เวลา เราก็ลงมาเดินเริ่มจากหัวถนนเลย
หน้าตา …น่ากินน๊ะ … จัดซ๊ะ
แต่ว่า…. ไม่อร่อยหงะ อิอิ
แบบนี้ก็เห็นทุกเมืองเหมือนกัน
หมึกขึงขัง …
สารพัดทอด มีทั้งเต้าหู้ …
น้ำพุทรา อร่อย อิอิ
นี้ก็น่ากินเหมือนกัน แต่ตอนนั้น ของกินเต็มมือไปหมดแล้ว
ต้องทยอยกินให้หมดก่อน..
ปีกไก่ยัดไส้ แถวยาวมาก สงสัยจะอร่อยจริง …
หมึกปิ้งทอด … ของชอบ
คนเยอะนะครับ ประมาณ 98.75% เป็นคนจีน
ร้านนี้สิ เรายืนกินแล้วซื้ออีก กินแล้วซื้ออีก … จนคนขายหัวเราะเลย
ร้านนี้น่าจะเป็นเนื้อแพะนะครับ
พวกต้มๆร้อนๆพวกนี้ก็น่ากินนะครับ
แต่เล่นใส่ถุงก๊อบแก๊บหิ้วกลับบ้านเลย… 🙁
หมดแรง รอบที่เท่าไหร่ไม่รู้แล้ว … พวกเราก็เดินกลับโฮสเทลกัน
ยังไม่วาย เดินแวะห้องโน้นห้องนี้ กันอีก
พรุ่งนี้ยังมีภาระกิจพิชิตเขาฮั้วซานกัน … ไปดูว่า ทำไมเหล่าจอมยุทธในพิภพนี้ ถึงชอบมาท้าประลองกันที่นี่กันจัง