Home / เตรียมตัวเข้ามหาวิทยาลัย / แพทย์เชียงใหม่ / อย่างนี้ก็ได้หรอ? งานวิจัยเพื่อยื่นพอร์ตโฟริโอ คณะแพทย์ ทันตแพทย์ หรืออื่นๆ

อย่างนี้ก็ได้หรอ? งานวิจัยเพื่อยื่นพอร์ตโฟริโอ คณะแพทย์ ทันตแพทย์ หรืออื่นๆ

เรื่องของเรื่องก็คือการยื่น portfolio โดยเฉพาะของคณะแพทยศาสตร์ ทันตแพทย์ หรืออื่นๆที่ส่วนใหญ่มองว่า ต้องมีโครงงาน หรืองานวิจัย . . . . แต่ โรงเรียนทั่วไปที่ไม่ใช่โรงเรียนวิทยาศาสตร์หรือนักเรียนที่ไม่ได้อยู่ห้องเรียนพิเศษที่มีการทำโครงงานหรืองานวิจัยอยู่แล้ว “คงยาก” ที่จะหาสิ่งเหล่านี้เข้ามาประดับไว้ใน Portfolio

วันนี้ไม่ได้มาแนะนำหรอกนะครับว่า เราจะสามารถหาทำงานวิจัยอะไรที่ไหนได้บ้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเด็กๆที่เรียนโรงเรียน/แผนการเรียนที่ไม่ได้มีโครงงาน/งานวิจัย/นวัตกรรม ข้องเกี่ยวอยู่ในหลักสูตร

แล้วทำไมต้องทำ? ทำไมต้องหาทำ? ไม่ทำได้ไหม? หาอย่างอื่นทดแทนได้ไหม? ฯลฯ

ซึ่ง คหสต.แล้ว . . . . ย่อมได้ เพราะที่ผ่านตามา หลายๆคนที่ผ่านการคัดเลือกก็ไม่ได้นำเสนองานวิจัย

แต่..มาถึงทุกวันนี้ หลายๆสถาบันที่เกี่ยวข้องกับเรื่อง “จัดหา” “หาทำ” “หาให้” “จัดให้” …… ฯลฯ ก็มักจะยัดเยียดข้อมูลใส่หัวเด็กและผู้ปกครองว่า “ของมันต้องมี” โดยยกตัวอย่างเด็กที่ผ่านการคัดเลือกที่มีพ่วงดีกรีงานวิจัยเอาไว้หลายๆคน

จริงๆแล้ว เรื่องนี้มี ผปค.มาปรึกษา/สอบถาม ผมว่า มันโอเคไหม? เพราะค่าใช้จ่ายก็มิใช่น้อย! และมีคนลงโปรแกรมนี้เยอะมาก ทั้งเพื่อนๆลูก และเด็กโรงเรียนอื่นๆ

แต่พอมี ผปค. รายที่ 2 รายที่ 3 มาปรึกษาขอความเห็น ก็เลยลองคุยดูสักตั้งนึง ถึงกับอึ้ง !!!

ถามว่า . . . ทำไมผมต้องอึ้ง? ก็จะเล่าตามที่ผู้ปกครองหลายๆท่านมาเล่าให้ฟัง เป็นสถาบันติวเตอร์ที่อยู่ชายขอบกรุงเทพมหานคร ซึ่งผมก็ไม่รู้จักก็เลยบอกว่าไม่ต้องบอกว่าที่ไหน เพราะไม่อยากรู้ และทราบว่าอาจมีหลายสำนักเสียด้วย

เอาเป็นว่า ผมพยายามเรียบเรียงข้อมูลที่คุณพ่อคุณแม่ผู้ปกครองได้เล่าให้ฟังนะครับ

“สวัสดีครับ จะขอเรียนปรึกษาเรื่องการทำโครงงานเพื่อยื่นพอร์ตหมอหน่อยครับ”
บทสนทนาเริ่มต้นก็ดูปกติดี คล้ายๆกับอีกหลายๆ ผปค. ที่เข้ามาขอคำแนะนำ

คือได้ไปลงทะเบียนติวกับสถาบันติวเตอร์เอกชนไว้ มีค่าใช้จ่าย หกหลักพลัส (เฉพาะโครงงาน 1 ผลงาน) พอดีเห็นว่ามีนักเรียนมาลงโครงการนี้จำนวนมาก เป็นลักษณะโครงงานนานาชาติ โดยครอบคลุมเนื้องานประมาณนี้

  • เข้าร่วมประกวดงาน Online 3 งาน และ Onsite 1 งาน (สนามต่างประเทศเน้น อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปิน ประมาณนั้น สังเกตุดูว่าจะไม่ลงสนามในประเทศ)
  • ค่าใช้จ่ายจะรวมถึงค่าสมัคร ค่าเอกสาร paper ที่สถาบันจัดทำให้ การ Traiin ให้ทุกอย่าง รวมทั้งการเตรียม Script ให้เราท่องเพื่อใช้ในการ present โครงงาน
  • ถ้าเป็นการประกวด Onsite ต่างประเทศ จะไม่รวมค่าที่พัก ค่าเดินทาง ค่าอาหารและอื่นๆถ้ามี
  • ในการส่งประกวด นักเรียนจะไม่ได้ใช้ชื่อโรงเรียนของตัวเอง แต่ใช้เป็นชื่อของสถาบันติวเตอร์ เช่นสมมติว่าเราเรียนอยู่ สวนนนท์ สตรีนนท์ สามเสน สวนใหญ่ โยธิน หรืออะไรก็ตาม ก็ต้องมาใช้ชื่อของสถาบันติวเตอร์เช่น สถาบันติวเตอร์พี่กุ๊กกิ๊ก ก็ส่งในนาม โรงเรียนกุ๊กกิ๊ก Kuk Kik School ซึ่งถ้าเป็นสนามแข่งขันต่างประเทศก็คงไม่ค่อยมีประเด็นอะไร เพราะเขาไม่รู้ ไม่รู้จัก แต่ถ้าเป็นสนามในประเทศ Question มาเป็นแถวตั้งแต่เริ่มแล้ว
  • ที่ผ่านมาก็มีเด็กๆได้รับรางวัลจากสนามต่างประเทศเหล่านั้นมากมาย

โอเค ฟังมาถึงตรงนี้ ก็มีคำถามและข้อสังเกตุเกิดขึ้นในหัวมากมาย เช่น

  • ส่งแต่สนามต่างประเทศและเน้น อินโดนีเซีย มาเลเซีย ซึ่งก็ไม่รู้ว่าทุกทีมที่ส่งก็ต้องได้รางวัลอะไรติดไม้ติดมือมาหรือไม่ (เท่าที่สังเกตุมา 2-3 ปี)
  • แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า ทุกผลงานที่ส่งไปประกวดสนามนั้นๆจะเป็นแบบนี้หมด หลายๆผลงานเด็กๆก็ทำด้วยความสามารถตนเอง
  • ทำไมไม่ส่งสนามที่มีความเป็นมาตรฐาน น่าเชื่อถือ และ มีประวัติ ชื่อเสียงมายาวนาน เป็นที่ยอมรับจากวงการการประกวดโครงงานและงานวิจัย
  • สถาบันเตรียมโครงงานให้ เตรียมสคริปให้ ถามว่า แล้วตัวเด็กนักเรียนได้ทำอะไร หรือ ต้องทำอะไรบ้าง

ก็เลยถามไปที่ผู้ปกครองว่า เด็กนักเรียนต้องทำอะไรบ้าง? ถ้าเขาเตรียม Paper เตรียม Script ไว้ให้หมด

คำตอบเป็นเรื่องที่น่าชื่นชม หรือ น่าตกใจกันแน่ !!!

มาถึงตรงนี้ ผมเรียนตามตรงนะครับว่า พูดไม่ออก
ในฐานะครูคุณจะไม่มีคำว่าจริยธรรมของความเป็นครูหลงเหลืออยู่แล้ว และจะมองหน้าเด็ก/ผู้ปกครองได้อย่างไร?
ในฐานะเด็กนักเรียนถ้าเริ่มต้นชีวิตก็เดินแบบนี้แล้ว มันจะเป็นรอยบาปตราตรึงในหัวใจคุณไปตลอดชีวิตที่เหลืออยู่ และ ที่น่ากลัวคือ เมื่อโตขึ้นออกไปประกอบอาชีพการงาน(ไม่ว่าจะอาชีพอะไรก็ตาม) เรื่องนี้เป็นบทเรียนหรือแบบแผนให้คุณประพฤติมิชอบเป็นปกติวิสัยหรือไม่? ก็ยังน่าเป็นห่วง !!!

จึงเป็นที่มาของหัวข้อนี้ว่า “ทำอย่างนี้ก็ได้หรอ?”

เอ๊ะ หรือว่า โครงงานหรืองานวิจัย เขาก็ทำกันอย่างนี้อยู่แล้ว? พอดีผมไม่มีความรู้ด้านนี้เลย !!!

  • ไม่ต้องลงไม้ลงมือเอง
  • รออ่านและท่องตาม script ที่เตรียมเอาไว้ให้
  • อย่างน้อยก็ต้องมีรางวัลบ้างละ ไม่ว่าจะเป็นการประกวดแบบ Online ก็จะยิ่งง่ายใหญ่ ค่าใช้จ่ายน้อยกว่า หรือการประกวด Onsite ที่ต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่มมากขึ้น แต่ก็ไม่ได้แพงมากนักเพราะเป็นอินโดนีเซีย / มาเลเซีย ไม่ได้ไปประกวดที่อเมริกา ยุโรป ญี่ปุ่น เกาหลี หรือที่อื่นๆ ซึ่งอาจจะมีค่าใช้จ่ายมากกว่า
  • อย่างที่บอก ไม่ส่งแข่งในประเทศ เพราะสนามในประเทศจะโดนถามโดนซักและมองออกได้โดยง่ายว่าเป็นโครงงานที่ทำเองหรือไม่ แต่สนามมาเลเซีย อินโดนีเซีย หลายสนามก็ไม่สามารถตรวจสอบเราได้ และให้ความเชื่อใจ หรือไม่ก็ละเลยที่จะทำ
  • ที่น่าแปลกใจสุดๆก็คือ ไม่ได้ใช้ชื่อโรงเรียนของเด็กนักเรียนเอง แต่ใช้ชื่อโรงเรียนของสถาบัน เพราะถ้าใช้ชื่อโรงเรียนของนักเรียนจะทำให้มีข้อสังเกตุมากยิ่งขึ้น อย่างที่เคยเป็นเรื่องมาแล้ว คือ เด็กที่ร่วมโครงงาน มาจากโรงเรียนที่แตกต่างกัน และ มาจาก ต่างจังหวัดกัน ต่างภาคกัน (ในอดีตที่เคยเป็นเรื่องคือ หนึ่งโครงงาน ที่พร่ำบอกว่าใช้เวลาในการทำโครงงานติดต่อกันหลายเดือน แต่เด็กๆมาจากหาดใหญ่ เชียงราย ร้อยเอ็ด ชลปุรี ฯลฯ ซึ่งความเป็นจริงแล้วน่าจะทำได้ยาก และบางโครงงานมีมากถึงเกือบ 20 คน)

ที่กล่าวมาข้างต้น เป็นเพียงแค่เรื่องโครงงาน หรือ Project หรือ งานวิจัย Innovation เป็นชิ้นๆนะครับ ถ้าใครอยากได้บริการเสริมก็มีให้เลือกใช้บริการหลากหลายรูปแบบอีกเช่น

  • แบบ Full Package เลยก็มีนะ ราคาก็น่ารักจุ๋มจิ๋ม 300K-400K++ (แต่ต้องบอกว่า คนไทยรวยจริง การลงทุนกับลูกเหมือนการซื้อประกันชีวิตประกันสุขภาพเอาไว้ใช้ยามแก่เฒ่า) ซึ่งรวมไว้ให้หมดทั้งวิชาที่ต้องใช้ในการสอบ ทั้งการเตรียมสอบ MMI(แบบรวมเลย จะได้สอบ MMI หรือไม่ได้สอบไม่รู้เก็บก่อนละ) แต่ไม่ได้รวมโครงงาน(ที่กล่าวมาข้างต้นอีกหกหลัก)และอื่นๆอีกหลายอย่างหลายเรื่อง เช่น
  • การฝึกประสบการณ์ที่เกี่ยวข้องกับทางการแพทย์ หรือที่เราเรียกกันว่า med shadowing นั่นแหละครับ เขาจะมีดีลกับทาง ร.พ.ที่ ตจว. ค่าใช้จ่ายก็ไม่ใช่น้อย แต่ที่ฮากว่าก็คือ ไปทำกิจกรรม 3 วัน เพื่อถ่ายรูปโน่นนี่นั่น แต่ใบ Certificate ที่ได้จากโรงพยาบาลระบุว่าได้มาร่วมฝึกงานกับทางโรงพยาบาล 200 ชั่วโมง ผมก็นึกไม่ออกว่า 3 วัน ต้องคูณด้วยวันละกี่ชั่วโมงถึงได้ 200 ชั่วโมง !!!
  • มีไปทำ Lab ตามมหาวิทยาลัย ซึ่งอันนี้พอเข้าใจได้ เพราะเห็นเปิดเป็นการทั่วไปอยู่หลายมหาวิทยาลัย แต่ แต่ แต่ ค่าใช้จ่ายทำไมมันต่างกันจัง
  • คอร์สเตรียมสอบคะแนนมาตรฐานภาษาอังกฤษ(ตัวนั้นแหละ..) ก็มีนะครับ แต่ถ้าเป็นแบบตัวๆราคาก็หกหลักต่อคน ไม่รับรองผลนะครับว่าจะได้เท่าไหร่
  • ทราบว่ามีเด็กโรงเรียนดังๆ มาใช้บริการกันเยอะมาก
  • จริงๆ ยังมีอีกหลายเรื่องที่ผู้ปกครองเล่ามาให้ฟัง แต่ผมเลือกที่จะไม่พูดถึงบ้าง และหรือจำไม่ได้อีกหลายเรื่อง

เด็กทุกคนมีที่ที่เหมาะสมกับตัวเองที่จะได้เข้าไปเรียน เพื่อเติบโตไปเป็นกำลังที่สำคัญของครอบครัว ถ้าไม่ใช่ที่ของเราแต่เราได้มาด้วยความมิชอบ ก็พึงระวังว่าอนาคตจะบิดเบี้ยวไปจากที่ควรจะเป็นหรือไม่

Tagged: