เป็นอีกสนามที่มีการยื่นพอร์ตในปีที่ผ่านๆมาพอสมควร ก็ขึ้นอยู่กับว่า ชนการสัมภาษณ์สนามอื่นๆมากน้อยขนาดไหน แต่ที่แน่ๆปีนี้ไม่ชน !!!
แพทย์วชิระรอบพอร์ต
คือต้องบอกว่าถ้าเรียกเป็น แพทย์นวมินทร์ ก็อาจจะไม่มีคนรู้จัก แต่พอบอกแพทย์วชิระก็อ๋อทันที ปีนี้ประกาศรับออกมาก็ไม่ได้แตกต่างจากปีที่ผ่านๆมามากนัก แต่ที่ดีดีสำหรับปีนี้ก็คือ มีการแยกประกาศออกเป็นคณะให้ด้วย ทำให้จับใจความได้ง่ายขึ้น แต่ก็ยังจำเป็นที่จะต้องดูประกาศฉบับเต็ม และประกาศอื่นๆประกอบ เช่น เอกสารแนบรายละเอียดการจัดทำแฟ้มสะสมผลงาน
เรามาดูกันว่า ปีนี้มีอะไรน่าสนใจไหม
ซึ่งถ้าดูผิวเผินก็หาได้มีอะไรพิเศษไม่ แต่สิ่งหนึ่งที่น่าจับตามองก็คือ วันที่ประกาศรายชื่อผู้ผ่านการคัดเลือก ที่ไปอยู่เกือบหลังสุดเลย 31/01/2567 ก็คือเกือบจะวันที่ยืนยันสิทธิ์ในระบบ myTCAS แล้วหละ จะมีก็จุฬาที่ประกาศหลังจากวชิระ (ปีที่แล้ววชิระประกาศประมาณวันที่ 18/01/66)
ตรงนี้ก็ต้องมาดูมาวิเคราะห์กันว่า “ทำไม”
เอ๊ะ ! หรือว่าจะไม่มีการประกาศรายชื่อตัวสำรองด้วย หรือไม่มีการเรียกสำรอง !!! ซึ่งก็เป็นไปได้หมด เพราะ ณ วันที่จะประกาศรายชื่อนั้น มหาวิทยาลัยอื่นๆก็ประกาศผลกันเกือบหมดแล้ว CMU KKU RAMA Siriraj และการตรวจสอบว่าเด็กได้ที่เรียนที่อื่นแล้วหรือยัง ก็ไม่ยาก “ถ้าจะทำ” เพราะว่าจำนวนรับไม่ได้เยอะมาก สามารถสำรวจเป็นรายบุคคลได้ ถ้าเป็นเช่นนั้น การประกาศรายชื่อในวันที่ 31 มกราคม 2567 ก็จะเป็นการประกาศรายชื่อที่สะเด็ดน้ำแล้วพอสมควร เพราะอย่าลืมว่า ทางคณะ/มหาวิทยาลัยต้องส่งรายชื่อเข้าระบบ TCAS67 ประมาณไม่เกินวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2567 (อ้างอิงจากการส่งรายชื่อของแพทย์จุฬา ซึ่งอาจจะเป็นวันสุดท้ายแล้วที่ส่งรายชื่อ เพราะ ทปอ. ก็ต้องการเวลาในการไปจัดการข้อมูลผู้ผ่านการคัดเลือกจาก คณะ/มหาวิทยาลัยต่างๆทั้งหมด)
ถ้าเทียบกับปีที่แล้ว ก็จะเห็นความแตกต่างบ้าง
ในส่วนของคุณสมบัติขั้นพื้นฐาน ก็ไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนแปลง นั่นคือ
+ GPAX 5 เทอม ≥ 3.50
+ วิทยาศาสตร์เทคโนโลยี คณิตศาสตร์ ภาษาต่างประเทศ ทุกวิชา GPA ≥ 3.50
หลักฐานประกอบการสมัคร
ก็ไม่มีอะไรน่าตื่นเต้น แต่จะเห็นว่า มีข้อความที่เพิ่มขึ้นมา ซึ่งเข้าใจว่าส่วนใหญ่แล้วใครมีก็จะใส่เข้าไปอยู่แล้ว ไม่ว่า IELTS BMAT(ของปีที่แล้ว ปีนี้ก็น่าจะทันเพราะคะแนนออก 24/11/66 แต่ให้ส่งพอร์ตได้ถึง 30/11/66) แต่การที่ปีนี้เอามาใส่เป็นกิจลักษณะ แสดงว่าน่าจะใช้เป็นส่วนร่วมในการตัดสินใจบ้าง ถึงแม้ว่าในเกณฑ์การพิจารณาจะไม่ได้บอกว่าเอา IELTS ไปร่วมพิจารณาด้วย เราก็เอาใส่ไว้ในแฟ้มสะสมผลงานด้วยเลยละกัน จะได้เกาะๆไปด้วย
ในส่วนของเกณฑ์ในการคัดเลือก ปีนี้การคัดเลือกเพื่อเข้าสัมภาษณ์ก็ชัดเจนขึ้นอีกหน่อยจากปีที่แล้ว กล่าวคือ จะดูจากตัว Portfolio เป็นหลัก และเมื่อผ่านการสัมภาษณ์แล้ว ถึงมาดูองค์ประกอบเพิ่มเติมคือ คะแนน TGAT-1 และ คะแนนจากการสอบสัมภาษณ์ เพื่อคัดเลือกเข้าเรียน (ปีที่ผ่านๆมาเราก็เข้าใจกันว่าเป็นแบบนี้ แต่ปีนี้ประกาศออกมาเป็นทางการ ไม่ต้องคอยเดา คอยคาดการณ์อีก
ในส่วนของ กลุ่มการรับ กวาดสายตามองคร่าวๆก็เข้าใจว่าน่าจะเหมือนเดิม
และอีกเรื่องก็คือ โครงการนี้เป็นโครงการพัฒนาแพทย์สาขาเวชศาสตร์ครองครัวและสาขาเวชศาสตร์ฉุกเฉิน ลองอ่านทำความเข้าใจกันนะครับ
ท้ายสุดก็คือเรื่องเกี่ยวกับตัว Portfolio ที่ใช้คำว่า “รวมทั้งหมด” ไม่เกิน 15 หน้า ดังนั้น ไม่ต้องถามอีกนะครับว่า รวมปกมั๊ย รวมสารบัญมั๊ย รวมคำเยินยอมั๊ย อะไรประมาณนั้น
และอีกคำถามที่เจอบ่อยคือ ย้อนหลังได้กี่ปี ซึ่งในประกาศก็ชัดเจนนะครับว่า ขณะอยู่ในระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย
และถ้าเป็นเด็กที่จบแล้ว ก็คือย้อนหลังได้ไม่เกิน 3 ปี