ปีนี้ถือว่าแพทย์เชียงใหม่มีการเปลี่ยนแปลงในรอบ portfolio เยอะมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งกำหนดการตารางเวลาในรอบนี้ ผิดรูปผิดแบบจากปีที่ผ่านๆมา อันนี้หมายถึงกำหนดการของทางมหาวิทยาลัยนะครับ ซึ่งทางคณะแพทย์ก็คงต้องปฏิบัติตามนั้น
จากที่แพทย์เชียงใหม่เคยได้เปรียบตรงที่ว่า คอยกวาดเด็กที่ตกสัมภาษณ์จากทั้ง จุฬา รามา ศิริราช ในหลายปีก่อน(แต่มาปีที่แล้วจุฬามาประกาศผลท้ายสุดก่อนวันยืนยันสิทธิ์ทำให้เชียงใหม่ไม่สามารถเรียกสำรองจากการสละสิทธิ์ของเด็กที่ติดทั้ง จุฬาและเชียงใหม่ได้ (คือถ้ามีเวลาช่องว่าง ทาง มช. ก็จะสามารถตรวจสอบรายชื่อเด็กที่ซ้ำกันได้ และโทรสอบถามเพื่อที่ว่าเด็กเลือกจุฬาแล้วก็จะรบกวนทำหนังสือขอสละสิทธิ์ที่เชียงใหม่(อาจจะผ่านทาง eMail) และคณะก็จะได้เรียกสำรองลำดับถัดไปมาแทนได้ เหมือนกับกรณีของ รามา และ ศิริราช) แต่ก็เป็นสิทธิ์ของเด็กที่จะไม่สละสิทธิ์ก็ได้ ค่อยไปทิ้งสิทธิ์ตอนยืนยันสิทธิ์กับ ทปอ.)
การเปลี่ยนแปลงช่วงเวลา ทำให้คณะแพทย์ต้องมารับในรอบ portfolio ก่อนมหาวิทยาลัยอื่นๆ ซึ่งสิ่งที่ตามมาก็คือ เมื่อมหาวิทยาลัยใน กทม. เช่น จุฬา รามา ศิริราช ประกาศผลและมีรายชื่อซ้ำกับทางเชียงใหม่ แน่นอนว่าเด็กๆก็คงเลือกมหาวิทยาลัยใน กทม. ก็จะทำให้เกิดที่ว่างในรอบแพทย์ portfolio ของเชียงใหม่เยอะมาก
มาถึงวันนี้ ก็รับฟังข่าวสารข้อมูลมาตลอด เริ่มจากการเปลี่ยนแปลงช่วงเวลาของรอบ Portfolio แล้ว ยังมีการมาของรอบ 1.1 และ 1.2 อีก ซึ่งแต่ละคณะเอาไป apply ใช้กันได้ว่าจะจัดการในเรื่องของรอบ 1.1 และ 1.2 อย่างไร
ตอนแรกทราบมาว่าได้รับคำแนะนำจากทาง ทปอ. ให้เอาคะแนน TPAT-1 และ TGAT มาร่วมพิจารณาในรอบ 1.2 ต่อมาในภายหลังเมื่อทางมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ประกาศกำหนดการออกมา ทำให้ไม่สามารถนำคะแนน TPAT-1 มาร่วมพิจารณาได้ จึงต้องปรับออกและปรับอัตราส่วนน้ำหนักคะแนนในรอบ 1.2 ใหม่ด้วย
อีกผลกระทบจากการประกาศกำหนดการของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ก็คือ สำหรับผู้ที่ยื่นโครงการเรียนดีภาษาอังกฤษ ผลคะแนน BMAT ที่จะทราบผลภายหลังจากที่มีการประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิ์สอบสัมภาษณ์ ซึ่งก็ได้มีการปรับกระบวนการกันใหม่ในการประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิ์สอบสัมภาษณ์ นั่นคือ ผู้ที่ผ่านเกณฑ์ขั้นต่ำตามที่ประกาศ ก็จะมีชื่อสอบสัมภาษณ์ทั้งหมด และเมื่อผลคะแนน BMAT ออกมาถึงจะนำมาประมวลผลเพื่อประกาศผลการคัดเลือกต่อไป….. ยุ่งมั๊ย ปีนี้ 5 5 5
ท้ายสุดวันนี้ ออกมาหน้าตาเป็นอย่างนี้ ก็ถือว่าทางคณะแพทย์ได้พยายามอย่างดีที่สุดแล้วที่จะช่วยเด็กๆ ต้องลุ้นในปีต่อๆไปว่าจะออกมารูปแบบไหน
โอกาสที่ทางคณะจะเรียกสำรองมาเสริมภายหลังจากที่ รามาและศิริราชประกาศผล(ถ้าวันประกาศผลการคัดเลือกเป็นไปตามแผนที่เคยประกาศไว้) ก็มีความเป็นไปได้ ส่วนจุฬาก็อยากจะให้รีบประกาศ เพื่อที่ว่าเด็กๆอีกหลายคนที่รอความหวังจากที่นั่งในรอบนี้จะได้มีโอกาสมากขึ้น
ประกาศรับสมัคร
ก่อนอื่นให้ดู Time Line ของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ก่อน
ประกาศรับสมัครที่ออกมาเป็นทางการเมื่อวาน(3/10/65)
โครงการเรียนดีโอลิมปิก
โครงการปริญญาโทวิทยาการข้อมูล
โครงการเรียนดีภาษาอังกฤษ
แบบฟอร์ม portfolio
ปีนี้แบบฟอร์มมีการเปลี่ยนแปลงไปบ้างเล็กน้อยจากปีที่ผ่านๆมาเช่นในส่วนของคะแนนเฉลี่ยรายวิชา ปีนี้ใช้แบบรวม 4 เทอมเลย ไม่ได้แยกเป็น ม.4 – ม.5 เหมือนปีที่ผ่านๆมา และปีนี้มีเพิ่มให้เขียนเจตคติ Statement of Purpose อีก 1 หน้าด้วย
แบบฟอร์มเรียนดีโอลิมปิก ส่วนที่ 1 | ส่วนที่ 2
แบบฟอร์มวิทยาการข้อมูล ส่วนที่ 1 | ส่วนที่ 2
แบบฟอร์มเรียนดีภาษาอังกฤษ ส่วนที่ 1 | ส่วนที่ 2
ขอยกตัวอย่างจากโครงการเรียนดีภาษาอังกฤษนะครับ
ส่วนที่ 1 เป็นเรื่องของข้อมูลพื้นฐานและผลคะแนนต่างๆ
แผ่นแรก เป็นเรื่องของข้อมูลพื้นฐาน และเกรดเฉลี่ยพร้อมทั้งเกรดเฉลี่ยรายวิชา ถ้าท่านใดไม่สามารถแจกแจงว่าอันไหนเป็นวิชาพื้นฐาน อันไหนเป็นวิชาเพิ่มเติม ให้ไปถามที่ฝ่ายทะเบียนที่โรงเรียนเลยครับ และเมื่อกรอกเสร็จแล้วอย่าลืมให้ทางโรงเรียนหรือครูแนะแนวลงชื่อรับรองด้วยนะครับ(ของลูกชายให้ครูนายทะเบียน)
แผ่นที่ 2 ก็จะเป็นตัวอย่างวิธีการกรอกเกรดจากแผ่นแรก และอีกส่วนก็คือส่วนของนักเรียนโรงเรียนนานาชาติ
แผ่นที่ 3 เรื่องของผลคะแนนสอบ BMAT และ IELTS เนื่องจากคะแนนสอบ BMAT ยังไม่ทราบผลสำหรับผู้ที่สอบในปีนี้(สอบ 18/10/65) ดังนั้นให้เว้นว่างไว้ก่อน หรือถ้าท่านมีคะแนนของปีที่แล้วและปีนี้ไม่ได้สอบ ก็ให้ส่งทาง eMail ในช่วง 25-27/11/65 อยู่ดี เพราะทางคณะจะไปเก็บคะแนนจากที่นั้นมาประมวลผลที่เดียว (กรณีท่านมีคะแนน 2 ปี คือปีที่แล้วและปีนี้ก็ให้เลือกคะแนนที่ดีที่สุดส่งไปทาง eMail) แต่ถ้าใครใช้เป็นคะแนน AP ซึ่งมีผลอยู่แล้วก็สามารถใส่ไปได้เลย
ส่วนคะแนน IELTS ก็ให้เลือกตามช่องคะแนนของท่านเลย เห็นช่องแล้วแอบเดาอยู่เลยว่า แต่ละช่องก็เป็นแต่ละค่าน้ำหนักคะแนนไหม เริ่มจากด้านหลังสุด 30/25/20/15/10 อะไรประมาณนั้น เดาล้วนๆนะครับ(แต่อดคิดไม่ได้)
ส่วนที่ 2 เป็นเรื่องของกิจกรรมต่างๆ
แผ่นที่ 1 Portfolio E1 : กิจกรรมผลงานที่แสดงถึงประสบการณ์ที่เกเี่ยวข้องกับวิชาชีพแพทย์ ระหว่างปี พ.ศ. 2563 – พ.ศ. 2565 ( 3 คะแนน )
อาจจะเป็นส่วนที่มีคำถามกันพอสมควรว่า จะมีอะไรบ้าง ที่เห็นผ่านตามาจาก portfolio ของเด็กๆที่ผ่านเข้าจากหลายๆมหาวิทยาลัย ก็มี เช่น
- Medical Shadowing
- Virtual Medical Shadowing
- ค่ายหมอที่จัดโดยนิสิต/นักศึกษา จากมหาวิทยาลัยต่างๆ
- การออกค่ายอาสาร่วมกับหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ตามชนบท
- ฯลฯ
ที่สำคัญ ต้องเป็นกิจกรรมที่เกิดขึ้นในช่วง พ.ศ.2563-พ.ศ.2565
และทางคณะก็ได้ให้ข้อมูลถึงกิจกรรมที่ไม่เข้าข่ายกิจกรรมทางการแพทย์ก็คือ
- การแข่งขันตอบปัญหาทางการแพทย์ (ซึ่งอันนี้เอาไปใส่กิจกรรมด้านวิชาการได้(มั้ง))
- การบริจาค ให้กับหน่วยงานทางการแพทย์
- การเรียนคอร์สออนไลน์ที่เกี่ยวกับทางการแพทย์
- ผลงานที่ซ้ำกับผลงานอื่น
แผ่นที่ 2 ก็ให้ใส่รูปหลักฐานที่เป็นใบรับรองหรือประกาศนียบัตรที่เราได้เข้าร่วมกิจกรรม
แผ่นที่ 3 ใส่รูปภาย หลักฐานการเข้าร่วมกิจกรรม
แผ่นที่ 4 Portfolio E2 : ให้เขียน Statement of Purpose ( 4 คะแนน )
แนะนำตัวเอง
- ทำไมอยากเข้าเรียนที่แพทย์ มช.
- จุดมุ่งหมายในชีวิต
- ทัศนคติ
- ความถนัดในการเรียน
- กิจกรรม งานอดิเรกที่ชอบทำ
- อื่นๆที่สะท้อนความเป็นตัวตนของเรา
แผ่นที่ 5-10 : ผลงานด้านอื่นๆ 2 ผลงาน ผลงานละ 4 คะแนน ( 8 คะแนน )
เป็นผลงานระหว่างปี พ.ศ.2563 – พ.ศ.2565 เลือกเขียน 2 ผลงาน ไม่ซ้ำด้านกันจากที่มีให้เลือกผลงาน 4 ด้าน
- ด้านนวัตกรรม / วิจัย
- ด้านคุณธรรม/จริยธรรม/จิตอาสา/บำเพ็ญประโยชน์ (ไม่นับการบริจาคทุกชนิด)
- ด้านกีฬา/ศิลปะ/ดนตรี
- ด้านงานทางวิชาการ/การแข่งขันวิชาการ