จริงๆแล้ว ในรอบ Portfolio คณะแพทย์ของมหาวิทยาลัยต่างๆ มีการกำหนดให้ใช้คะแนน ผลสอบคะแนนมาตรฐานภาษาอังกฤษ ซึ่งก็มีหลายค่ายยกตัวอย่างเช่น IELTS TOEFL CU-TEP และของมหาวิทยาลัยอื่นๆ ซึ่งบางที่ก็กำหนดเกณฑ์ขั้นต่ำเอาแค่ผ่าน บางที่ก็นำผลคะแนนเอามาพิจาณาในการคัดเลือกด้วยโดยคิดน้ำหนักคะแนนแตกต่างกันไป บางที่ก็ไม่ได้บอกอะไร บอกเพียงว่ามีอะไรก็ใส่มา และอื่นๆ
แต่ที่จั่วหัวเอาไว้ว่า IELTS นั้นก็เพราะว่าเป็นที่รู้จักกันดีและใช้ในการคัดเลือกของหลายๆมหาวิทยาลัย
IELTS มีโอกาส มีจังหวะ เก็บได้เก็บก่อน
เรื่องนี้ ผมจะถาม บอก แนะนำ ทั้งผู้ปกครองและเด็กทุกคนเลย บางครั้งทักจนสัมผัสได้ว่าทางผู้รับออกอาการหงุดหงิดบ้าง ทั้งนี้ไม่ใช่อะไรหรอกครับ เพราะอย่างที่บอกเลยครับว่า IELTS ไม่ต้องรอว่าที่โรงเรียนเรียนถึงตรงนี้แล้วค่อยไปสอบเหมือนพวกอื่นๆ เป็นเรื่องนอกโรงเรียน อยู่ที่การบริหารจัดการ และถ้าเราเก็บไปอยู่ตอน ม.6 ซึ่งเป็นช่วงที่อะไรหลายๆอย่างประดังเข้ามา มีทั้งสอบโน่นสอบนี่อะไรเยอะแยะไปหมด แล้วมันจะไม่ทัน ไม่ได้คะแนนตามที่คาดหวังไว้
อันนี้จากประสบการณ์ตอนเตรียมตัวลูกเลย เพราะสิ่งแรกที่ผมให้เขาเก็บก็คือ IELTS อย่างน้อยก็รู้กันเลยว่า จะพอมีหวังอะไรบ้าง แต่ไม่ใช่จู่ๆก็ไปสอบเลยนะครับ ต้องมีการเตรียมตัวในระดับที่บอกว่า เอาจริง จริงจัง อย่าคิดว่าไปลองสอบดูก่อนครั้งแรกเอง เพราะราคาค่าสอบไม่ธรรมดา
ตอนนั้นก็เตรียมตัวมาตั้งแต่ ม.4 เทอม 2 แล้วให้เขาสอบช่วงปิดเทอมใหญ่ก่อนขึ้น ม.5 ซึ่งคะแนนออกมาเกินความคาดหมาย แต่เจ้าตัวบอกว่า พอแล้วเอาแค่นี้แหละ อย่างน้อยก็ยื่นมหาวิทยาลัยเป้าหมาย(แพทย์ขอนแก่น)ได้แล้ว ด้วยคะแนนนั้น ถ้ามาเป็นปัจจุบันไม่ต้องชูคอขึ้นมาหายใจเลย หายไปหลุดหมดทุกที่แน่ๆ
ที่ผ่านมา 3-4 ปีนี้ ผมก็พยายามบอก ผปค.ที่มาคุยด้วยว่า ให้ไปสอบ IELTS ก่อน บอกตั้งแต่ ม.4 แต่ด้วยความที่ว่า ไม่ว่าง เรียนเยอะ งานที่โรงเรียนเยอะ ฯลฯ ก็เลยเก็บกิจกรรมผลงานไปก่อนเลย เยอะแยะและดูดี เห็นผลงานแต่ละชิ้น รางวัลแต่ละอย่าง ล้วนแล้วแต่อยากขอมาใส่พอร์ตบ้าง แต่สุดท้าย ไม่สามารถยื่นที่ไหนได้เลยสักที่ เพราะคะแนน IELTS ไม่ถึง หรือบางคน เกรดไม่พอ ซึ่งเจอทุกปี ปีละหลายคน ก็ไม่รู้จะบอกว่าอย่างไร ก็ต้องปลอบใจกันไป “รู้งี้เชื่อคุณพ่อก็ดีเนอะ” ด้วยความที่ว่าจะเอามาเก็บตอน ม.6 แต่พอเรียนมาถึง ม.6 มันก็หนักและยุ่งเหมือนตอน ม.4 ม.5 จะมาบอกว่าไม่มีเวลามันก็ไม่มีเวลาทั้งสองสามปีที่เตรียมตัวทั้งหมดนี่แหละ อยู่ที่การวางแผน การบริหารจัดการ
คะแนน IELTS ผู้ผ่านการคัดเลือกแพทย์เชียงใหม่รอบ PORTFOLIO
เป็นตัวเลขจากการตอบแบบสอบถาม ซึ่งก็ต้องยอมรับว่า อาจจะมีข้อมูลที่ไม่ถูกต้องบ้างก็ได้ ได้รวบรวมมาให้หมดทั้งผู้ผ่านการคัดเลือก รอบ 1.1 / รอบ 1.2 / รอบ 1.3(การเรียกครั้งที่ 3 หรือ การเรียกตัวสำรอง) แต่จริงๆแล้วมันสำคัญตั้งแต่รอบเรียกเข้าสัมภาษณ์ MMI แล้ว เพราะถ้าไม่ได้เข้า MMI ก็ไม่มีโอกาสในก้าวต่อไป
ซึ่งจากข้อมูล ทำให้เห็นว่าในแต่ละโครงการ มีแนวโน้มคะแนนอยู่ในช่วงไหน เราจะต้องเตรียมตัวอย่างไร ขนาดไหน
เกณฑ์ของมหาวิทยาลัยต่างๆ
สำหรับเกณฑ์ขั้นต่ำของคณะแพทย์มหาวิทยาลัยต่างๆนั้น ก็สรุปได้ประมาณนี้(ลองตรวจสอบดูด้วยนะครับ แฮะๆ)
อื่นๆ
