มาตามนัด แต่ก็เล่นเอาซะเหนื่อยอกเหนื่อยใจเหมือนกัน กับ Official Requirement ของคณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ในปีนี้ จะเริ่มต้นตรงไหนก่อน ก็ไปไม่ถูกเหมือนกัน
กำหนดการคร่าวๆ
+ เปิดรับสมัคร Online : 31/10/66 – 09/11/66
+ ประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิ์สอบสัมภาษณ์ : 29/11/66
+ สอบสัมภาษณ์ Onsite รูปแบบ MMI : 02/12/66
+ ประกาศรายชื่อผู้ผ่านการคัดเลือกครั้งที่ 1 รอบ 1.1 : 19/12/66
+ ยืนยันสิทธิ์ “ภายใน มช.” : 19-22/12/66
+ ประกาศรายชื่อผู้ผ่านการคัดเลือกครั้งที่ 2 รอบ 1.2 : 16/01/67
+ ยืนยันสิทธิ์ “ภายใน มช.” : 16-19/01/67
+ ผู้ที่ยืนยันสิทธิ์รอบ 1.1 แล้วสามารถสละสิทธิ์ : 16-19/01/67
+ ประกาศรายชื่อผู้ผ่านการคัดเลือกครั้งที่ 3 : 26/01/67
มีข้อสังเกตุเพิ่มเติมก็คือ เพิ่ม process ผู้ที่เคยยืนยันสิทธิ์ไปแล้วในรอบ 1.1 สามารถสละสิทธิ์ได้ช่วงเดียวกันกับผู้ที่กำลังยืนยันสิทธิ์ สละสิทธิ์ของรอบ 1.2 ตรงนี้ต้องขอขอบคุณทางมหาวิทยาลัย ที่ถือได้ว่าพยายามช่วยแก้ปัญหาจากปีที่แล้ว ที่เด็กไม่สามารถสละสิทธิ์ได้ ทางมหาวิทยาลัยจึงไม่สามารถเรียกสำรองได้ / ขอขอบคุณจากใจจริง
จึงต้องย้อนกลับไปดู timeline ของมหาวิทยาลัยอื่นๆอีกครั้งหนึ่ง ถามว่า ช่วงระหว่างวันที่ 16-19/01/67 ที่ให้สามารถสละสิทธิ์ได้นั้น
มีคณะแพทย์มหาวิทยาลัยไหนที่ประกาศผลการคัดเลือกแล้ว
+ แพทย์สงขลา ประกาศผล 27/12/66 (ยังสละสิทธิ์ทันอยู่)
+ แพทย์รามา ประกาศผล 19/01/67 (ยังสละสิทธิ์ทันอยู่)
+ แพทย์ CICM ประกาศผล 19/01/67 (ยังสละสิทธิ์ทันอยู่)
+ แพทย์ขอนแก่น ประกาศผล 18/01/67 (ยังสละสิทธิ์ทันอยู่)
+ แพทย์ศิริราช ประกาศผล 25/01/67 (ไม่ทัน)
+ แพทย์วชิระ ประกาศผล 31/01/67 (ไม่ทัน)
+ แพทย์จุฬา ประกาศผล 06/02/67 (ไม่ทัน)
+ แพทย์บูรพา ประกาศผล 06/02/67 (ไม่ทัน)
ทั้งนี้ทางคณะแพทย์เชียงใหม่จะได้เรียกสำรองจากผู้มีคะแนนในลำดับถัดไปในวันที่ 26/01/67 และให้ไปยืนยันสิทธิ์กับระบบ ทปอ. ในวันที่ 06-07/02/67
ซึ่งถ้าดูแล้ว น่าจะได้รับอาณิสงส์จากแพทย์รามาเป็นหลัก ถ้าเด็กที่เคยยืนยันสิทธิ์แพทย์เชียงใหม่ไปแล้ว ปรากฏว่ามาได้ที่ แพทย์รามาด้วย ก็สามารถสละสิทธิ์ที่แพทย์เชียงใหม่ได้ในวันนั้นเลยวันที่รู้ผลแพทย์รามา 19/01/67 !!! และจะเป็นที่ว่างที่ทางคณะแพทย์เชียงใหม่จะสามารถประกาศรายชื่อในรอบที่ 3 วันที่ 26/01/67 ได้ทันการ
ถ้าเป็นเช่นนั้น กระดานตัวสำรองก็น่าจะมีขยับบ้างในส่วนของแพทย์เชียงใหม่ และ จะส่งผลไปถึงแพทย์ขอนแก่นด้วยถ้ามีการซ้ำซ้อนเช่นกัน
อย่างน้อยก็ได้เห็นความพยายามช่วยเด็กๆ
อนึ่ง จากการประกาศและ roadshow ในปีนี้ เราไม่เห็นข้อความที่ระบุว่า ถ้ามีผู้ไม่ได้ยืนยันสิธิ์ในรอบ 1.1 จะยกยอดไปรอบ 1.2 ดังนั้นเป็นไปได้ว่า ยอดตรงนั้นจะยกมาตอนประกาศครั้งที่ 3 เลยหรือไม่?
สรุปจำนวนรับ และ จำนวนที่จะเรียกสัมภาษณ์
สรุปโครงสร้างน้ำหนักคะแนน
ตารางเปรียบเทียบคะแนนสำหรับโครงการต่างๆ
ในการคัดเลือกเข้าสัมภาษณ์ จะคิดจาก 70% แรก จึงได้นำ 70% มาแปลงเป็น 100% เพื่อดูว่า น้ำหนักคะแนนในเรื่องใดมีค่าน้ำหนักมากน้อยกว่ากันแค่ไหน ในการคัดเลือกเข้าสัมภาษณ์
โครงการเรียนดีภาษาอังกฤษ (ENGLISH)
มีอะไรเปลี่ยนแปลงบ้าง?
+ เปิดรับการสอบเทียบหรือการเทียบวุฒิ GED ซึ่งน่าจะเป็นไม่กี่โรงเรียนแพทย์ในไทยที่เปิดรับ
+ Portfolio สามารถพิมพ์ได้ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ
+ Statement of Purpose พิมพ์เป็นภาษาไทย
+ ผลงานด้านอื่นๆใน Portfolio ปีนี้ลดเหลือแค่ 1 ผลงาน แต่น้ำหนักมากเป็น 15%
+ เรียกสัมภาษณ์จำนวน 60 คน
เกณฑ์หลักๆที่ต้องการ
+ GPAX 4 เทอม 3.00
+ GPA 4 เทอม 3.00 วิชา ชีววิทยา เคมี และ ภาษาอังกฤษ
PORTFOLIO ต้องมีอะไรบ้าง
+ คะแนนมาตรฐานภาษาอังกฤษ ( น้ำหนัก 40% )
+ หลักสูตรไทย IELTS ≥ 6.5 TOEFL iBT ≥ 79
+ หลักสูตรนานาชาติ IELTS ≥ 7.0 TOEFL iBT ≥ 100
+ ผลงานประสบการณ์วิชาชีพแพทย์ 1 ผลงาน ( น้ำหนัก 10% )
+ ผลงานด้านอื่นๆ 1 ผลงาน ( น้ำหนัก 15% ) โดยเลือกหัวข้อใดหัวข้อหนึ่ง
+ ด้านนวัตกรรม / วิจัย
+ ด้านคุณธรรม / จริยธรรม / จิตอาสา / บำเพ็ญประโยชน์ (ไม่นับการบริจาคทุกชนิด)
+ ด้านกีฬา / ศิลปะ / ดนตรี
+ ด้านวิชาการ / การแข่งขันวิชาการ (ไม่นับรวมการลงเรียนคอร์สต่างๆ และ การสอบวัดความรู้
+ บทความแสดงเจตคติ Statement of Purpose ( น้ำหนัก 5% )
จากคะแนน PORTFOLIO ทั้งหมด 70% นั้น จะนำมาประมวลผลเพื่อเรียกเข้าสัมภาษณ์ MMI จำนวน 60 คน
+ การสอบสัมภาษณ์แบบ MMI Multiple Mini-Interview จะมี น้ำหนัก 30%
จากคะแนน PORTFOLIO 70% และคะแนนสอบสัมภาษณ์ MMI 30% นำมาเรียงเพื่อประกาศผลคัดเลือกรอบ 1.1 จำนวน 15 คน
ในการประมวลผลรอบ 1.2 นั้น จะนำคะแนนที่ได้ 100% จากรอบ 1.1 มาลดทอนเหลือ 95% แล้วนำผลคะแนน TGAT(90) คิดเป็น 5% มาร่วมคัดเลือกรอบ 1.2
เอกสารหลักฐานต่างๆที่ต้อง Upload ตอนสมัครก็เป็นเอกสารที่เกี่ยวกับผลการเรียนต่างๆ ในส่วนของตัว Portfolio จะต้อง Download แบบฟอร์มของทางคณะไปกรอกข้อมูล . . . คราวนี้ก็จะมีปัญหาตามมากันในเรื่องของจำนวนหน้า เพราะว่า ที่ Download มา บางคนเปิดออกมาแล้วจำนวนหน้าไม่ได้เท่ากับจำนวนหน้าที่ระบุไว้ในแบบฟอร์ม ส่วนใหญ่จะไหลไปมากกว่าแบบฟอร์มประมาณ 2-3 หน้า
แบบฟอร์ม portfolio ยังคงแบ่งเป็น 2 ส่วนเช่นเดิม ส่วนแรกเป็นข้อมูลพื้นฐานและคะแนนต่างๆที่มี ส่วนที่สองก็จะเป็นเรื่องของผลงาน กิจกรรม และอื่นๆ
แบบฟอร์ม ส่วนที่ 1 (Download)
แบบฟอร์ม ส่วนที่ 2 (Download)
ส่วนที่ 1 ข้อมูลพื้นฐานและคะแนนต่างๆ
ส่วนที่เพิ่มมาของ Portfolio ส่วนที่ 1 หน้าที่ 2 ก็คือ การใช้วุฒิสอบเทียบ GED
ในส่วนของคะแนนมาตรฐานภาษาอังกฤษ แบบฟอร์มก็อุตส่าห์แบ่งเป็นช่องๆให้เราเลือกแล้ว ส่วนตัวก็เดาว่า ใครมีผลประกอบการตกลงตรงช่อง 5 ก็น่าจะได้คะแนน 40% เต็มกรณีของโครงการภาษาอังกฤษ ถ้าเป็นช่องที่ลดหลั่นลงไปคะแนนก็ย่อมลดลงเป็นสัดเป็นส่วน
ส่วนที่ 2 ผลงาน กิจกรรม และ SOP
ปีนี้ สามารถพิมพ์ได้ทั้งภาษาไทยหรือภาษาอังกฤษ แต่คำว่า “ความยาวไม่เกินกำหนด” หมายถึงจำนวนบรรทัดที่กำหนดมา หรือ จำนวนหน้าที่กำหนดไว้ เพราะถ้าดูบรรทัดที่สองของแบบฟอร์ม จะมีคำว่า “แผ่นที่……../…7…” ซึ่งหมายความว่า Portfolio นี้มีได้แค่ 7 หน้า หรือมากกว่านี้ได้ เพราจากแบบฟอร์มที่ download มา เอามาเปิดใน MS.Word ปรากฏว่าเป็น 9 หน้า (แต่ละเครื่องอาจจะไม่เหมือนกัน ไม่ค่อยรู้เรื่องโปรแกรมพวกนี้ด้วย แฮะๆ)
และแผ่นที่ 2 ก็จะเป็น ใบรับรองการเข้าร่วมกิจกรรม ส่วนแผ่นที่ 3 ก็จะเป็นรูปถ่ายระหว่างที่เข้าร่วมกิจกรรม
เคยมีคำถามว่า ถ้าไม่มีใบรับรองทำอย่างไร?
ไม่มีก็คือไม่มี ในเมื่อไม่มีจริงๆ ก็ไม่ต้องสร้างขึ้นมาให้มีนะครับ อาจจะเอารูปที่ทำกิจกรรมมาใส่ไว้ก็ได้ (คหสต.)
แผ่นที่ 4 จะต้องนำเสนอผลงานด้านอื่นๆ ตอนแรกเห็นว่า 15% ก็คิดว่าอาจจะให้นำเสนอ 3 ชิ้นไหม แต่พอวันนี้มาเห็นจริงๆให้นำเสนอแค่ 1 ชิ้น ทำให้จุดประกายความหวังของคนหลายๆคนเลย ที่มีองค์ประกอบแค่
1) คะแนน IELTS ดีๆ สัก 8.0
2) มีผลงานวิชาชีพแพทย์ดี
3) มีผลงานเจ๋งๆอีกแค่ 1 ชิ้น
เท่านั้นก็มีโอกาสมากมายทั้งการเข้ารอบสัมภาษณ์ MMI และโอกาสที่จะได้เข้าเรียน
บางคนมีผลงานนวัตกรรมสวยๆ มีIELTS สัก 8.0 มายื่นโครงการภาษาอังกฤษ อาจจะได้ลุ้นกว่า เพราะ 2 ชิ้นนี้สำหรับโครงการภาษาอังกฤษก็ 55% แล้ว แต่ถ้าไปยื่น Innovative จะได้จากนวัตกรรม 25% และ IELTS 20% รวมเป็น 45%
จำได้ว่ามี ผปค.ท่านหนึ่งในห้อง “ยื่นพอร์ตแพทย์เชียงใหม่” อยู่ใน status นี้เลย อย่างนี้ก็เห็นหนทางละ
แผ่นที่ 7 ก็จะเป็น Statement of Purpose หน้านี้กำหนดให้พิมพ์เป็นภาษาไทย
โครงการเรียนดีโอลิมปิก (OLYMPIC)
จะเน้นเฉพาะส่วนที่แตกต่างจากโครงการเรียนดีภาษาอังกฤษ นะครับ
+ ไม่ต้องมีผลงานอื่นๆแล้ว เอาแค่เหรียญ IELTS และ ผลงานที่เกี่ยวข้องกับวิชาชีพแพทย์ ชีวิตง่ายขึ้นเยอะเลย
+ Portfolio ทั้งส่วนที่ 1 และ ส่วนที่ 2 พิมพ์เป็นภาษาไทย
องค์ประกอบหลักๆของโครงการเรียนดีโอลิมปิกก็คือ
+ การอบรมค่าย สอวน. (น้ำหนัก 35%)
+ คะแนนมาตรฐานภาษาอังกฤษ IELTS / TOEFL (น้ำหนัก 20%)
+ ผลงานที่เกี่ยวข้องกับวิชาชีพแพทย์ (น้ำหนัก 10%)
+ Statement of Purpose (น้ำหนัก 5%)
Portfolio คะแนนรวม 70% นำมาคัดเข้ารอบสัมภาษณ์ MMI จำนวน 80 คน
จากคะแนน PORTFOLIO 70% และคะแนนสอบสัมภาษณ์ MMI 30% นำมาเรียงเพื่อประกาศผลคัดเลือกรอบ 1.1 จำนวน 35 คน
ในการประมวลผลรอบ 1.2 นั้น จะนำคะแนนที่ได้ 100% จากรอบ 1.1 มาลดทอนเหลือ 95% แล้วนำผลคะแนน TGAT(90) คิดเป็น 5% มาร่วมคัดเลือกรอบ 1.2
แบบฟอร์ม ส่วนที่ 1 (Download)
แบบฟอร์ม ส่วนที่ 2 (Download)
สำหรับของ Olympic มีส่วนที่น่าสนใจก็ตารางการแจ้งการเข้าอบรมค่าย สอวน. จะเห็นว่า ตารางจะแบ่งช่องวิชาออกเป็น 2 พวก ซึ่ง คหสต. มองว่า เป็นการแบ่งน้ำหนักของวิชา ชีววิทยาและเคมี ก็จะได้คะแนนมากกว่าวิชาอื่นๆในผลงานระดับค่ายเดียวกัน อะไรประมาณนั้น
เช่นเดียวกันกับในแนวนอนที่ ข้อ 1 เป็นระดับค่าย 1-2 ข้อ 2 เป็นระดับชาติ ฯลฯ ซึ่งก็เพื่อให้ง่ายต่อการให้คะแนนเวลาตรวจพอร์ต (คหสต. นะครับ แฮะๆ)
โครงการวิทยาการข้อมูล (DATA SCIENCE)
+ ต้องมีผลงานทางด้านวิทยาการข้อมูล
+ Portfolio ทั้งส่วนที่ 1 และ ส่วนที่ 2 พิมพ์เป็นภาษาไทย
องค์ประกอบหลักๆของโครงการวิทยาการข้อมูลก็คือ
+ การอบรมค่าย สอวน. (น้ำหนัก 25%)
+ คะแนนมาตรฐานภาษาอังกฤษ IELTS / TOEFL (น้ำหนัก 20%)
+ ผลงานที่เกี่ยวข้องกับวิชาชีพแพทย์ (น้ำหนัก 10%)
+ ผลงานทางด้านวิทยาการข้อมูล 1 ผลงาน (น้ำหนัก 10%)
+ Statement of Purpose (น้ำหนัก 5%)
แบบฟอร์มของวิทยาการข้อมูล ก็เป็นการผสมผสานกันระหว่างแบบฟอร์มภาษาอังกฤษและโอลิมปิก จะมีที่เป็นเฉพาะก็คือ ผลงานทางด้านวิทยาการข้อมูล
โครงการผู้มีอัจฉริยภาพด้านนวัตกรรม (INNOVATIVE)
+ ต้องมีผลงานทางด้านนวัตกรรม
+ Portfolio ทั้งส่วนที่ 1 และ ส่วนที่ 2 พิมพ์เป็นภาษาไทย
องค์ประกอบหลักๆของโครงการผู้มีอัจฉริยภาพทางนวัตกรรมก็คือ
+ ผลงานทางด้านนวัตกรรม 1 ผลงาน (น้ำหนัก 25%)
+ คะแนนมาตรฐานภาษาอังกฤษ IELTS / TOEFL (น้ำหนัก 20%)
+ ผลงานที่เกี่ยวข้องกับวิชาชีพแพทย์ (น้ำหนัก 10%)
+ ผลงานอื่นๆ เลือก 1 ด้านจาก 4 ด้าน (น้ำหนัก 10%)
+ Statement of Purpose (น้ำหนัก 5%)
แบบฟอร์มของนวัตกรรม จะมีส่วนที่สำคัญเข้ามาทดแทนนั่นก็คือ การแสดงหลักฐานผลงานด้านนวัตกรรม
เอาแผ่นที่จะต้องแสดงผลงานทางด้านนวัตกรรมมาดูกัน ก็ ไม่ได้มีอะไรที่เป็นเรื่องยุ่งยาก ตรงที่เขามีให้เราเลือกก็คือการสร้าง Criteria ในการให้คะแนนนั่นเอง
+ ระบุชัดเจนว่าเป็นผลงานในช่วงปี พ.ศ. 2564 – 2566
+ เขียนเป็นภาษาไทย