เชื่อว่าหลายท่านก็กำลังรอการประกาศอย่างเป็นทางการของแพทย์รามา เพราะอยากจะรู้รายละเอียดว่ามีเงื่อนไข Requirement อย่างไรบ้าง มีอะไรผิดแปลกไปจากที่คิดกันหรือไม่ . . . ซึ่งเราก็เห็นการโปรยข้อมูลของทางแพทย์รามาออกมาเป็นระยะแล้ว ทำให้สามารถปรับตัวได้ทัน แต่พอประกาศออกมาจริงๆ ก็มีข้อมูลที่น่าสนใจมากกว่าที่เคยรับรู้กันมาก่อน
เช่นเคย . . . เรามาไล่ดูรายละเอียดทีละบรรทัดกันเลยดีกว่า
แพทย์รามา รอบ PORTFOLIO
ที่ยังคงเหมือนเดิมก็คือการเปิดรับ 3 โครงการเหมือนเดิม จำนวนรับแต่ละโครงการก็ยังคงเท่าเดิม
และสามารถเลือกสมัครได้เพียง 1 โครงการเท่านั้น ตรงนี้จะมีข้อความที่เพิ่มเติมมาจากปีที่แล้วก็คือ “(รวมถึงทุกคณะของมหาวิทยาลัยมหิดล)”
เรื่องของคุณสมบัติทั่วไปและคุณสมบัติด้านผลการศึกษาก็ไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนแปลง นั่นคือหลักๆ GPAX ≥ 3.50 จนถึงวันที่รับสมัคร(ให้ส่งผลการเรียนได้ถึงวันที่ 30 พฤศจิกายน 2566 กรณีที่เกรดเทอม 5 ออกช้า แต่ถ้าออกไม่ทันก็ต้องให้ทางโรงเรียนออกหนังสือรับรองว่าออกเกรดให้ไม่ทัน และนักเรียนต้องส่ง GPAX ของ 4 เทอม เดี๋ยวมีรายละเอียดด้านล่างอีกครั้งหนึ่ง)
ในเอกสารแนบท้าย ระบุว่า เป็นเกรด 5 เทอม “จำนวน ๕ ภาคการศึกษา” แต่ก็มีข้ออนุโลมให้กรณีที่โรงเรียนไม่สามารถออกเกรดให้ได้ทันภายในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2566 โดยโรงเรียนจะต้องออกหนังสือรับรองให้ว่า “ไม่สามารถออกผลการศึกษาได้ตามกำหนด”
ในส่วนของ Portfolio นั้น ใจความสำคัญหนึ่งก็คือ “Portfolio เป็นส่วนที่ใช้พิจารณาคัดเลือกผู้มีสิทธิ์สอบสัมภาษณ์” ส่วนหลักการก็ยังคงเหมือนเดิม ทุกประการ นั่นก็คือ คุณจะต้องมี
+ Personal Statement ไม่เกิด 5300 ตัวอักษร
+ กิจกรรม/ผลงาน ที่มีความหมายมากที่สุดจำนวน 3 ผลงาน แต่ละผลงานไม่เกิด 1400 ตัวอักษร
+ กิจกรรม/ผลงาน ไม่เกิน 12 กิจกรรม/ผลงาน แต่ละผลงานไม่เกิน 700 ตัวอักษร
+ ชื่ออาจารย์และ email เพื่อทางคณะติดต่อไปเพื่อให้เขียนแนะนำตัวนักเรียนว่ามีความเหมาะสมขนาดไหน
หัวข้อต่อไปก็จะเป็นหัวข้อที่มีส่วนสำคัญที่มีการเปลี่ยนแปลงในปีนี้ อันเนื่องมาจากการจากไปอย่างไม่มีวันกลับของ BMAT และทางคณะแพทย์รามาได้ให้แนวทางในเรื่องนี้มาแต่เนิ่นๆเมื่อหลายเดือนก่อนโน้น(ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2566) ซึ่งเป็นเรื่องดี เพราะนักเรียนจะได้ปรับตัวเตรียมตัวทัน
ในข้อ 2.2 เรื่องของคะแนนมาตรฐานภาษาอังกฤษนั้น ก็ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลง และดูแล้วหลักการก็น่าจะเป็นอย่างเดิม นั่นก็คือ “เอาแค่ผ่าน” เมื่อผ่านตามเกณฑ์ขั้นต่ำเขาแล้ว ก็ไม่ได้นำมาใช้ในการพิจารณาต่ออีก
ในหัวข้อ 2.3 นี่แหละคือต้นเรื่องของการเปลี่ยนแปลงในปีนี้ จากที่ทางคณะได้ออก teser มาประมาณนี้
ตอนประกาศออกมาครั้งแรก ตรงข้อ 1 นั้น กำหนดว่าเป็นเกรด ” 4 ภาคการศึกษา “ และต่อมาได้มีการเปลี่ยนเป็น ” จนถึงวันสมัคร “
ทำให้นักเรียนมีทางเลือกเพิ่มมากขึ้น เพื่อให้ผ่านเงื่อนไข “หลักฐานแสดงผลการสอบ” หรือ “คุณสมบัติทางวิชาการ” นั่นคือท่านจะมีทางเลือก 2 ทางก็คือ
+ ถ้าใช้คะแนน BMAT จะต้องได้คะแนน BMAT ≥12C
+ ใช้เกรดเฉลี่ยสะสม ซึ่งก็จะแยกตามระบบการเรียนของท่าน ท่านสามารถเลือกได้อย่างใดอย่างหนึ่งตามนี้
+ GPA วิชา ชีววิทยา เคมี (คณิตศาสตร์ หรือ ฟิสิกส์)≥ 3.50
+ A Level (ไม่ใช่ A-Level ที่จัดสอบโดย ทปอ.) Biology, Chemistry, (Mathematics หรือ Physics) ≥ A
+ IB Higher Level Biology, Chemistry ≥ 6 และ (Mathematics ≥ 5 หรือ Physics ≥ 6)
+ AP Subject Test Biology, Chemistry, ZCalculus AB หรือ Physics 1 – Algebra Based ≥ 4
ซึ่งตัวเลือกทั้งหมดนี้ในข้อ 2.3 ท่านต้องการเพียงข้อใดข้อหนึ่ง
หลายคนมีคำถามว่า ตอนที่สมัคร คะแนน BMAT ยังไม่มี ยังไม่ได้สอบด้วยซ้ำ แล้วจะทำอย่างไร ซึ่งทางคณะก็ได้ให้แนวทางเอาไว้ให้ปล้วว่า ท่านสามารถสมัครในเบื้องต้นได้ก่อน แล้วส่งผลคะแนนภายในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2566 (คะแนน BMAT ออก 24 พฤศจิกายน 2566)
แต่ถ้าท่านมีคะแนนของปีที่แล้วอยู่แล้วและผ่านเกณฑ์ ก็ส่งได้เลย
ในส่วนของสำเนาหลักฐานคุณวุฒิการศึกษา นั้น อย่าลืมว่า จะต้องมีลายเซ็นนายทะเบียนพร้อมประทับตราโรงเรียนด้วย
และที่สอบถามกันเป็นประจำทุกปีเลยก็คือ ใช้วุฒิ GED / IGCSE ได้ไหม คำตอบคือไม่ได้ รวมทั้งการสอบเทียบอื่นๆด้วย
สำหรับเด็กซิ่ว
การรับสมัคร ก็ตามที่ได้เคยเกริ่นไว้เมื่อหลายเดือนก่อน อย่างที่บอก เอกสารหลักฐานการศึกษา ผลคะแนนยังไม่ได้ สมัครก่อนเลยครับ ส่งตามทีหลัง (แต่คะแนน IELTS ไม่มน่าจะมีเอี่ยวเนอะ ต้องลองถามดู เพราะบางคนมาสอบ IELTS ลุ้นว่าคะแนนออกมาทันไหม อะไรประมาณนั้น เท่าที่ในประกาศอ้างไว้ ก็ มีพวก BMAT กับ เกรด 5 เทอม
ต่อไปก็เป็นเรื่องใหม่อีกเรื่องหนึ่ง นั่นก็คือการประกาศรายชื่อรอบแรก เพื่อเข้าทวนสอบ Portfolio ก็เหมือนกับการสัมภาษณ์หรือสอบปากปล่าวเกี่ยวกับ portfolio ที่ท่านส่งเข้าไป เพื่อที่จะได้ดูหรือประเมินว่า ท่านได้ทำเองหรือปล่าว ทำจริงหรือปล่าว ท่านมีความรู้ความสามารถในเรื่องเหล่านั้นจริงหรือไม่ ถ้าใครไม่มีชื่อในรอบนี้ ก็แสดงว่าท่านไม่ได้ไปต่อตั้งแต่ต้นละ อาจจะไม่ผ่านคุณสมบัติเบื้องต้นหรืออะไรสักอย่าง
สำหรับในข้อ 6.2 นั้นบ่งบอกว่าอะไร? บ่งบอกว่า เมื่อท่านสมัครแพทย์รามาโดยผ่านระบบของแพทย์รามา ท่านก็จะโดนล๊อคสิทธิ์ในการสมัครคณะอื่นๆในรอบ 1.2 ของมหาวิทยาลัยมหิดลไปด้วยนั่นเอง (ถึงแม้จะคนละระบบ แต่ก็สามารถยันข้อมูลกันได้) นั่นคือแสดงว่าท่านจะไปสมัครแพทย์ศิริราช ที่จะเปิดรับสมัครวันที่ 1-22 ธันวาคม 2566 ไม่ได้ !!!
ดังนั้น ถ้าท่านไม่ผ่านตั้งแต่ขั้นตอนแรก ทางคณะก็ใจดีมาก จะปลดสิทธิ์ในการสมัครรอบ 1.2 ให้ท่านสามารถสมัครได้ โดยคืนสิทธิ์ให้ท่านสามารถเข้าระบบรับสมัครของมหิดลได้ภายในวันที่ 17 ธันวาคม 2566 แสดงว่า ท่านอาจจะไปสมัครแพทย์ศิริราช ที่ยังเปิดรับสมัครถึงวันที่ 22 ธันวาคม 2566 ได้ หรือ คณะอื่นๆก็เช่นเดียวกัน
เช่นเดียวกันกับกรณีที่ท่านเปลี่ยนใจ ถึงแม้จะมีชื่อเข้าทวนสอบ Portfolio แต่เปลี่ยนใจละไม่เข้าทวนสอบ Portfolio แต่จะขอสิทธิ์ในการสมัครรอบ 1.2 คืน ก็สามารถยื่นคำร้องได้ตามวันเวลาที่กำหนด
สำหรับการเข้าทวนสอบข้อมูล Portfolio นั้น ถ้าท่านไม่ได้เข้าร่วม ท่านก็จะไม่มีสิทธิ์หรือไม่มีโอกาสเข้าสอบสัมภาษณ์ MMI แน่นอน
การประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิ์เข้าสัมภาษณ์ในวันที่ 5 มกราคม 2567 แน่นอนว่าตามที่คณะประกาศไว้โดยการพิจารณาจากตัว Portfolio และผ่านกระบวนการ ทวนสอบข้อมูลใน Portfolio แล้ว ก็จะเรียงคะแนนตามที่ประเมินได้ และเรียกผู้มีสิทธิ์เข้าสัมภาษณ์แบบ MMI ตามลำดับคะแนน
ซึ่งหน้าที่ของเราก็คือ ต้องเข้าไปยืนยันตอบรับการเข้าสัมภาษณ์ในวันที่ 6-8 มกราคม 2567 เพราะอย่างที่รู้ วันที่สอบสัมภาษณ์นั้นจะตรงกันกับของทาง จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยขอนแก่น และรวมไปถึง คณะแพทย์ศิริราชพยาบาลด้วย
หลังจากนั้นก็มาเข้ารับการสอบสัมภาษณ์ในวันที่ 13-14 มกราคม 2567
ขั้นตอนคัดเลือกขั้นตอนสุดท้ายละ นั่นคือการพิจารณาคัดเลือกผู้มีสิทธิ์เข้าศึกษา ซึ่งก็จะเอาคะแนนจากการสอบสัมภาษณ์ MMI มาร่วมพิจารณากับคะแนนที่ได้จากการพิจารณา Portfolio
การประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิ์เข้าศึกษา ปีนี้ก็มีการเพิ่มเติมรายชื่อตัวสำรองไว้ด้วย โดยจะประกาศไม่เกินวันที่ 19 มกราคม 2567
ซึ่งผู้ที่ผ่านการคัดเลือก “จะต้อง” เข้าไปยืนยันสิทธิ์ ในระบบของมหาวิทยาลัยมหิดล เพราะถ้าหากไม่ยืนยันสิทธิ์ก็เท่ากับว่าท่านสละสิทธิ์ และท่านยังต้องไปยืนยันสิทธิ์กับระบบ mytcas อีกครั้งหนึ่งด้วยในวันที่ 6-7 กุมภาพันธ์ 2567
นอกจากนี้ก็จะยังมีเรื่องเอกสารต่างๆที่ต้องเตรียม Upload ในช่วงที่สมัครสอบ ซึ่งส่วนใหญ่ก็ได้กล่าวไปแล้วตอนต้นๆ แต่ก็มีข้อมูลที่น่าสนใจเพิ่มเติมในเรื่องของผลการเรียนที่บางโรงเรียนเกรดเทอมที่ 5 (ม.6 เทอมแรก) ยังไม่ออก ก็ยืดระยะให้นำส่งได้ไม่เกินวันที่ 30 พฤศจิกายน 2566
แต่ถ้าถึงเวลานั้นแล้ว โรงเรียนยังไม่สามารถออกเกรดของเทอมที่ 5 ได้ ก็ต้องใช้เกรด 4 เทอม แต่จะต้องขอใบรับรองจากทางโรงเรียนว่า “ไม่สามารถออกผลการศึกษาได้ตามกำหนด”
บทส่งท้าย
ทั้งหมดนี้เป็นการสรุปโดยความคิดเห็นส่วนตัว หากสงสัยอะไรสามารถสอบถามทางคณะแพทย์รามาได้โดยตรงนะครับ
สรุปแล้ว ปีนี้ แพทย์รามารอบ Portfolio มีการเปลี่ยนแปลงพอสมควร และที่น่าชื่นชมก็คือ มีการประชาสัมพันธ์ล่วงหน้านานมากหลายเดือน เพื่อให้นักเรียนสามารถเตรียมตัวได้ถูกต้องและทันท่วงที
ประกาศฉบับเต็ม (คลิ๊กเลย)