ชั่งหัวมัน – โครงการตามพระราชดำริ
ก่อนอื่นก็ขออ้างอิงถึงที่มาที่ไปของโครงการนี้ก่อนนะครับ(ขอบคุณข้อมูลจากมูลนิธิมั่นพัฒนา) …….. เมื่อปลายปี พ.ศ. 2551 พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงซื้อที่ดินจากราษฎรบริเวณอ่างเก็บน้า หนองเสือ ประมาณ 120 ไร่ และต่อมาปี พ.ศ. 2552 ทรงซื้อแปลงติดกันเพิ่มอีก 130 ไร่ รวมเนื้อที่ทั้งหมดเป็น 250 ไร่ ซึ่งที่ดินในบริเวณนี้มีความแห้งแล้งเสื่อมโทรมและกันดาร จึงมีพระราชดำริให้ทำเป็นโครงการตัวอย่างด้านการเกษตรรวบรวมพันธุ์พืชเศรษฐกิจในพื้นที่ อำเภอท่ายาง จังหวัดเพชรบุรี และพื้นที่ใกล้เคียงมาปลูกไว้ที่นี่ และได้เริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2552 เป็นต้นมา
ในการดำเนินงานตามพระราชดำริดังกล่าว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ นายดิสธร วัชโรทัย รองเลขาธิการพระราชวัง ในฐานะผู้อำนวยการกองงานส่วนพระองค์ เป็นผู้รับผิดชอบดำเนินงานโครงการ และเริ่มพัฒนาที่ดินโดยมีกองงานส่วนพระองค์สำนักพระราชวัง และโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาเพชรบุรี กรมชลประทาน เป็นหน่วยงานกลางในการประสานงานและปฏิบัติงานร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชน ร่วมกันหลายแห่ง
แล้วชื่อโครงการ “ชั่งหัวมัน” ได้มาอย่างไร?
ชื่อโครงการแรกๆหลายท่านได้ฟังก็คงคิดไม่ีออกนะครับว่า จะมีที่มาที่ไปอย่างไร . . . ตามมาอ่านกันเลยครับ . . . ในระหว่างการดำเนินการนี้ได้พระราชทานหัวมันเทศ ที่ทรงโปรดเกล้าฯ ให้เจ้าพนักงานนำไปวางไว้บนตาชั่งในห้องทรงงาน บนพระตำหนักเปี่ยมสุขวังไกลกังวล ก่อนเสด็จกลับกรุงเทพมหานคร และเมื่อเสด็จกลับมาประทับที่วังไกลกังวล ทรงพบว่า หัวมันที่วางไว้บนตาชั่งนั้นแตกใบอ่อนขึ้นมา จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้นำไปแยกปลูกลงในกระถางไว้ และโปรดเกล้าฯ พระราชทานต้นมันเทศนี้มามาปลูกขยายพันธ์ในพื้นที่ของโครงการฯ ซึ่งเป็นที่มาของชื่อ “ชั่งหัวมัน” ที่ได้พระราชทานให้แก่โครงการนี้
รายละเอียดโครงการ
ชื่อโครงการ :: โครงการชั่งหัวมันตามพระราชดำริ
เวลาเปิด-ปิด :: เปิดให้เข้าชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 09:00-16:30 น.
ค่าผ่านประตู :: ไม่คิดค่าบริการในโครงการฯ มีรถนำชมและมัคคุเทศประจำรถ ให้บริการฟรี หรือหากจะเข้าชมด้วยตนเอง ก็มีรถจักรยานให้บริการฟรี (จะหยุดพักให้บริการงานนำชมทุกวันจันทร์ )
ที่อยู่ :: เลขที่ 1 หมู่ที่ 5 ตำบลเขากระปุก อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี 76130
เบอร์โทรศัพท์ :: 032 472 700 – 3
โทรสาร :: 032 472 702
eMail Address :: chmrpth@gmail.com
การเดินทาง
บังเอิญว่าเราเดินทางจากที่พักที่ชะอำเพื่อมาแวะเที่ยวที่นี่ก่อนมุ่งหน้ากลับปทุมธานี ดังนั้นเราก็ไม่ได้รีบอะไรมากมาย เช้าตื่นขึ้นมาไปเดินเล่นดูพระอาทิตย์ขึ้นที่ชายหาดริมทะเล แล้วค่อยมาอาบน้ำเก็บของขึ้นรถไปหาอาหารเช้ารับประทานที่ตลาดสดชะอำ(มีอร่อยๆหลายร้าน) แล้วจึงมุ่งหน้าไปที่โครงการ … ไม่ได้คิดวางแผนอะไรมากเลยครับ google map นำทาง … ถนนดีเยี่ยมตลอดเส้นทาง ขับไปก็ชมวิววิถีชีวิตชาวบ้าน ทิวทัศน์ที่ราบไร่สบปะรด โดยมีแบลคกราวด์เป็นทิวเขา สวยงาม จริงๆ . . . ไม่นานก็มาถึงที่หมาย
ส่วนขากลับเข้ากรุงเทพนั้น ก็เรียกหา google map เช่นเคย มีหลายเส้นทางให้เลือก เราก็ขับตามเส้นทางที่เขาแนะนำนั่นแหละครับ ถนนดีมาก ขับนิ่มสบาย ยกเว้นช่วงนึง เป็นเส้นทางย่อยหน่อย มีถนนชำรุดเล็กน้อยระยะหนึ่ง แต่เชื่อไหมว่า ตลอดเส้นทางที่ขับรถมา มีแซงรถคันอื่นไม่น่าเกิน 3 คัน มีรถแซงเราไป 2 คัน มีรถที่วิ่งสวนกันไม่เกิน 10 คัน . . . หัวใจเต้น ตุ่ม ๆ ๆ ๆ ….มันวังเวงเสียเหลือเกิน . . . แต่ถนนดี กว้าง ก็ขับไปเรื่อยๆ รถมาเยอะหน่อยก็ตอนเข้าสู่ชุมชน แถวๆใกล้เขาย้อยแล้ว จนมาปีนขึ้นถนนใหญ่(เพชรเกษม)ที่หน้าเขาย้อยพอดี โอ้โห วันไหนเทศกาลไหนรถติดเยอะๆ น่าแอบมาใช้เส้นทางนี้เหมือนกันนะ . . . ไม่ต้องไปผ่านแถวท่ายาง ถนนเลี่ยงเมืองเพชรบุรี ซึ่งถ้าเทศกาลก็ติดเหมือนกัน
วันที่เรามาเยี่ยม “ไร่ของพ่อ”
แน่นอนว่าตามวิถีทางการท่องเที่ยวของครอบครัวเรา เราชอบไปในวันธรรมดาหรือวันที่คนอื่นๆเขาทำงานกัน เพราะจะได้ไม่ต้องไปแย่งชิงหลายๆอย่างตามสถานที่ที่เราไป . . . วันนี้เรามาถึง หน่วยพิทักษ์ป่าหนองเสือ … ที่ที่ซึ่งอยู่ติดกันเลยกับพื้นที่ของโครงการพระราชดำริผมสังเกตุเห็นว่า บริเวณนี้เป็นที่จอดรถขนาดใหญ่ รถท่องเที่ยว รถทัศนศึกษาของนักเรียนและหน่วยงานต่างๆ แต่ก็มีรถยนต์ส่วนบุคคลจอดอยู่บ้างประปราย ซึ่งจากจุดนี้เอง เราก็จะเห็นป้ายทางเข้าโครงการ และเห็นส่วนหนึ่งของโคีรงการอยู่ทางด้านหลังโน่น . . . เดินถ่ายรูปรอบๆอ่างเก็บน้ำ บริเวณสันอ่างเก็บน้ำ ก็เป็นเส้นทางที่เดินเอ้อระเหย ฟรุ้งฟริ้งถ่ายรูปกันสนุกสนาน (เห็นเด็กๆนักเรียนถ่ายกันเยอะแยะ)และข้างๆสันอ่างเก็บน้ำนั่นเอง ก็คือถนนเส้นที่เราวิ่งเข้ามาที่โครงการ ยังสามารถวิ่งต่อไปได้ และสามารถทะลุออกไปอีกด้านหนึ่งของโครงการ ซึ่งตอนที่เราจะกลับ กทม. เราก็จะวิ่งไปทางนั้นแหละครับ . . . แต่ที่นอกเหนือจากนั้นก็คือ จะมีลานจอดรถธรรมชาติ สามารถจอดรถได้จำนวนหนึ่ง และใกล้กับทางเดินเข้าส่วนของพื้นที่ที่จัดให้นักท่องเที่ยวและประชาชนที่สนใจเข้าชมโครงการ . . . มาจอดตรงนี้กันเลยครับเมื่อเดินออกมาจากลานจอด ก็จะเจอบริเวณที่เป็นป้ายโครงการตัวใหญ่ๆหละครับ ทางเดินเข้าส่วนเยี่ยมชมโครงการเลยไปหน่อย ก็จะเป็นปั๊มน้ำมันของภายในโครงการ . . . เดินไปถ่ายรูปก่อนเลย เมื่อกี้เห็นแล้ว อิอิ แต่ที่สำคัญ ห้องน้ำสะอาดอยู่ตรงนี้เลยครับสถานีจ่ายน้ำมัน โครงการชั่งหัวมัน เจอตู้ไปรษณีย์ ก็ถ่ายมา แฮะๆ สังเกตุเห็นใช่ไหมครับ ว่าคล้ายกับสถานีรถไฟหัวหิน เด็กๆในยุคสมัยนี้ อาจจะไม่เคยเห็น ปั๊มสามทหาร แต่ตอนผมเด็กๆยังทันอยู่ รถนำเยี่ยมชมโครงการ มาจอดพักอยู่ตรงนี้ แต่ปั๊มที่ใช้เติมน้ำมันจริงๆอยู่ตรงนี้นะครับ สามทหารมีเอาไว้ให้คิดถึง จากปั๊มมองออกไป วันนี้โชคดีลมเย็นสบายมากๆ ไม่มีฝนด้วย(ตอนมาถึง มีปรอยๆนิดๆ)
ลงชื่อเข้าเยี่ยมชม
หลังจากเข้าห้องน้ำห้องท่าเสร็จเรียบร้อยแล้ว เราก็เดินเข้าประตูตรงรั้วข้างๆปั๊มน้ำมัน มายังบริเวณของพิพิธภัณฑ์ดิน และ ร้าน Golden Place
ลงชื่อเพื่อขึ้นรถเข้าเยี่ยมชมได้ที่เคาน์ทเตอร์ด้านหน้าเลยครับ เพราะจะจำกัดจำนวนคนต่อรอบ
หลังจากนั้นก็เดินชมข้อมูลทางวิชาการอันเกี่ยวกับดิน ด้านตรงข้ามกับพิพิธภัณฑ์ดิน ก็จะมีป้ายบอกเส้นทางท่องเที่ยว ซึ่งเราสามารถขอยืมจักรยานปั่นชมภายในบริเวณได้ ติดๆกันกับพิพิธภัณฑ์ดิน ก็จะเป็นร้าน Golden Place สามารถหาซื้อผลิตภัณฑ์ของโครงการได้จากที่นี่เลยครับ
เข้าชมโครงการ
ผมขออนุญาต นำแผ่นพับของทางโครงการมาให้ชมนะครับ เป็นแผนที่สถานที่ต่างๆภายในโครงการครับ
เราเริ่มจากการเดินมาที่ห้องบรรยายก่อนนะครับ ซึ่งจะอยู่ตรงข้ามกับทุ่งกังหันลมปั่นกระแสไฟฟ้า
นั่งชมวิดิทัศน์เกี่ยวกับพระราชดำริและโครงการชั่งหัวมัน . . .หลังจากนั้น ก็ขึ้นรถที่รออยู่แล้ว เพื่อพาชมรอบๆบริเวณหรือใครชอบปั่น ก็ใช้บัตรประชาชนในการขอยืมรถจักรยานปั่นเข้าชมเองได้ครับ
“ไร่ของพ่อ”
ต่อไปนี้ก็จะเป็นอะไรที่เขียวๆหน่อย . . .
พ่อพันธุ์ . . . นับได้ว่าเป็นวัวเพศผู้เพียงตัวเดียวในโครงการนี้ ต้องคอยทำงานขยายพันธ์ุร่วมกีบวัวเพศเมียหลายสิบตัว ตั้งแต่เกิดมา เคยเห็นแต่การเก็บน้ำยางพาราด้วยวิธีการกรีดยาง แต่ ณ ที่นี่ใช้วิธีการเจาะรูต่อท่อ . . . น่าสนใจ พันธุ์ไม้ใกล้สูญพันธุ์ “ยางนา” ที่ลูกมันจะมีปีกด้วยสองข้างนะครับ . . . ผลิตพลังงานทดแทน ไบโอดีเซลล์
มีนมสดให้ชิมด้วย แต่ถ้าอยากจะซื้อกลับบ้าน ซื้อได้ที่ Golden Place ก่อนขึ้นรถได้เลยครับ เห็นเสากังหันลม มีเยอะๆก็สวยนะ แต่ต้นละเป็นแสน . . .
นั่งอยู่บนรถ เห็น “บ้านของพ่อ” แต่ไกลๆ เดี๋ยวเราจะเดินไปชมที่นี่กัน
บ้านของพ่อ
เมื่อหมดเส้นทางการนั่งรถชมไร่แล้ว คราวนี้เราก็เลยเดินไปชม “บ้านของพ่อ” ที่ใครๆก็เรียกแบบนี้ . . .
และแล้ว . . . เราก็ได้เวลาเดินทางกลับบ้านที่ประทุมธานีแล้วหละ . . . อย่าลืมมาเยี่ยม “บ้านของพ่อ” กันนะครับ
บทสรุป
เป็นแหล่งเรียนรู้ที่สามารถ … บอก…เล่า….สอน….ให้ลูกฟัีงและรับรู้ได้อย่างดี เป็นทริปที่เราโม้…อธิบาย … โน่น นี่ นั่น ให้ลูกตามประสบการณ์ที่มีอยู่ของเราได้เป็นอย่างดี . . . อาศัยที่เป็นเด็กต่างจังหวัดบ้านนอก ก็เลยรู้และเคยผ่านหลายๆเรื่องแบบนี้มามากมาย
เป็นสถานที่ที่น่ามาเที่ยวและมาศึกษาในเรื่องราวต่างๆที่พระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ได้ทรงสร้างไว้ . . . . แนะนำเป็นอย่างยิ่ง
สถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆที่ใกล้ๆกัน
แหลมผักเบี้ย – โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ – ท่องเที่ยวผสมความรอบรู้
แหล่งท่องเที่ยวอื่นๆ บริเวณนี้
HUA HIN :: 1000SOOK FOOD AND FARM CHA-AM
HUA HIN :: BLACK MOUNTAIN WATER PARK 2015 รอบปิดเทอมกับเพื่อน EP สามเสน
รวบรวมปักหมุด ชะอำ – หัวหิน แถวๆนั้นเอสไว้ใน googlemap นะครับ
https://drive.google.com/open?id=1RPAOxhrVeWVjreBFLGM-zlS2jLY&usp=sharing