คือจะบอกว่า ขับรถผ่านร้านนี้บ่อยมาก ก็เล็งๆไว้เหมือนกัน แต่ด้วยความไม่แน่ใจว่า ร้านยังขายขนมเปี๊ยะอยู่หรือปล่าว หรือว่าปิดไปแล้ว เพราะตอนขับรถผ่าน เห็นป้ายหงะใช่ แต่เห็นหน้าร้านแล้วมันไม่ใช่ …
แต่พอดีมีอยู่วันหนึ่ง อ่านเจอใน Social Media นี่แหละ ณ บัดนั้น ….. เฮ๊ย…ไอร้านเปี๊ยะนั่นนี่นา … ตกลงเปิดขายหรอเนี๊ยะ ก็เลยหาข้อมูลเพิ่มเติม เพราะว่าเดิมทีเป็นคนชอบหม่ำขนมเปี๊ยะอยู่แล้ว แต่มาหลังๆนี่ หาร้านที่กัดแล้วถูกปาก กลืนแล้วถูกใจ ไม่ได้เลย
ที่บอกว่าต้องง้อ…. ไม่ใช่ครัวเจ๊ง้อ นะครับ คือเขาจะทำเท่าที่อยากจะขาย หมดแล้วปิดร้านเลย หลายคนหลายครั้งจึงมักที่จะไปถึงแล้วไม่มีของ … และสัปดาห์นึง ทำแค่สองวันเอง … ดังนั้น จึงไม่มีของตกค้างแน่นอน …
จะว่าไป เด็กรุ่นหลังๆนี้ อาจจะไม่ได้หลงไหลในรสชาติของขนมเปี๊ยะกันแล้ว หรืออาจจะไม่มีโอกาสได้เชยชมเลยก็เป็นได้ แต่กลับนิยมชมชอบความหอมกรุ่นแบบเบเกอร์รี่ หรือขนมแบบแดนอาทิตย์อุทัย … ลองกลับมาชิมขนมกลิ่นอายจีนๆหน่อยครับ อร่อยไม่แพ้กัน …
แน่ละสิ ร้านขนมเปี๊ยะบางกระบือแห่งนี้ เป็นร้านเก่าแก่ที่เปิดมายาวนานมากกว่าครึ่งศตวรรษ แต่ได้ข่าวว่าโยกย้ายหลักแหล่งไปมาอยู่ในย่านบางกระบือนี่แหละหลายครั้ง และในปัจจุบันก็ได้ที่มั่นอยู่ตรงแถวๆสี่แยกบางกระบือ
เราสามารถจอดรถริมถนนตรงหน้าร้านได้ แต่ต้องตามวันและเวลาที่ทางจราจรอนุญาตินะครับ หรือจอดต๊อกๆแล้วให้คนข้างๆวิ่งลงไปซื้อก็ได้ครับ
แต่ที่แนะนำก็คือ ไปจอดที่ศูนย์การค้าสุพรีม แวะกินข้าว จิบกาแฟ ซื้อของ แล้วเดินมานิดเดียวเองครับ (จอดฟรี 3 ชั่วโมง) จากสุพรีมเดินมาที่ร้านขนมเปี๊ยะใช้เวลาประมาณ 1 นาทีกับ 11 วินาที แบบว่าเดินไปใช้มือถือถ่ายรูปไปด้วยน๊ะ 5 5 5
เรามาเริ่มเดินจาก ศูนย์การค้าสุพรีมกันนะครับ … พอดีว่ามานั่งทานกาแฟที่ร้านประจำ Starsbuck แล้วเกิดนึกขึ้นถึงร้านขนมเปี๊ยะ ก็เลยเริ่มเดินไปเลยครับ
ภาพแรกนี่จากหน้าร้าน Starsbuck เลยครับ (starsbuck อยู่ซ้ายมือผม)
เดินตรงไปทางสี่แยกบางกระบือเลยครับ ตรงไฟแดงและมีสะพานลอยคนข้ามนั่นแหละครับ ระยะทางประมาณตะโกนเรียกหากันได้…
เดินมาถึงสี่แยก ใต้สะพานลอยคนข้าม จะเห็นฝั่งตรงข้ามที่ทะแยงมุมนั่นเป็น โรงเรียนราชินีบน นะครับ
แต่เราไม่ได้ไปทางนั้นครับ เราเลี้ยวซ้ายกันง่ายๆตรงสี่แยกนี้แหละ ร้านขนมเปี๊ยะก็จะอยู่เลยร้านเจ็ดสิบเอ็ดนั่นไปประมาณ 4-5 ห้องหละครับ
เริ่มเห็นร้านแว๊บๆแล้วหละ
เอาหละ ใช่เลยร้านนี้เลย …เห็นไกลๆ นึกว่าร้านนวดแผนไทย
ใครจะมาก็ลองโทรถามก่อนนะครับ เพราะว่าถ้าไม่มีของจะได้ไม่เสียเที่ยว …
ตอนเดินเข้าไปในร้าน ก็ยังไม่แน่ใจนะครับว่า…เอ่อ ยังขายของอยู่อ๊ะปล่าว … ไม่มีใครอยู่เลย
พอตะโกนเรียกไป … ก็มีเสียงสะท้อนขานรับกลับมา … โอเคเลย มีคนขายให้ล๊ะ
กล่องใส่เปี๊ยะ ถุงก๊อบแก๊ป พร้อม แต่ยังไม่เห็นขนมเปี๊ยะ อิอิ
อ่อ …. เห็นแว๊บๆแล้วหละ อยู่ในตู้นี้นี่เอง
เห็นตู้แล้วคิดถึงสมัยเด็กๆเลย เป็นลักษณะเดียวกันเลย ตู้ไม้แล้วมีตาข่ายคล้ายๆมุ้งลวดเป็นบานประตู แต่ตู้กับข้าวที่บ้านตาข่ายจะถี่กว่านี้ แต่ก็ไม่ได้ถี่ขนาดมุ้งลวดเหมือนทุกวันนี้
ผมนับว่าโชคดีมาก คนขายที่ออกมาหน้าตายิ้มแย้ม พูดจาดี … ถามมาว่าจะเอาไส้อะไรกี่ลูกดี
เราก็เลยเงยหน้ามอง เมนู ซ๊ะหน่อย …. โอ่…..ลูกละ 50 บาท หรอ ……เมื่อกี้แอบเห็นขนาดล๊ะนึกว่าลูกล๊ะ 15 บาท
เอาไงดี…. เอาไงดี …. เอาไงดี …. มันแพงเหมือนกันน๊ะ …
เอ่อแล้วนั่นมันอะไรน๊ะ … ดำ … ถั่ว ….ฟัก……อั๊ยยย ย๊ะ แถมมี ดำปนฟัก รุกรับได้หมด แล้วสุดท้ายยังมี ถั่วปนฟักอีก …. 5 5 5
ก็เลยบอกไปว่าเอาไส้ละชิ้นล๊ะกัน คนขายก็เลยเปิดตู้ดึงถาดลิ้นชักออกมา …….. โอวววววว
นั่นจะต้องเป็นจอมยุทธท่านใดมาตวัดปลายพู่กันขีดเขียนไปบนกระดาษมันแน่ๆเลย แต่เราก็อ่านไม่ออกหรอกนะครับว่าเขาเขียนว่าอะไร … แต่ถ้าทั้ง 5 ลูกเขียนไม่เหมือนกัน ก็แสดงว่าเขาหยิบให้ถูกหละ…แต่ว่าเอ๊ะ ….. มันลูกขนาดนั้นเองหรอ? !!!
ระหว่างรอ ปากก็พลั้งถามไปว่า อ่าว…แล้วขนมนี่ทำมาจากที่ไหนหรอครับ?
เขาเลยชี้ให้ดูโต๊ะตัวข้างๆนั่นแหละ “ทำตรงนี้แหละคะ แต่จะทำเฉพาะวันจันทร์ กับวันศุกร์ ถ้าอยากเห็นตอนทำลองมาวันจันทร์กับศุกร์ได้นะค๊ะ
เห็นโต๊ะแล้วสัมผัสได้ถึงความเก่าแก่ ยาวนาน เลย …
ยิ่งเห็นโต๊ะตัวนี้ยิ่งไปกันใหญ่ …
เมื่อกี้เห็นแว๊บๆตอนชะเง้อมองเมนู เห็นของในตู้ยังกะแม่พิมพ์ เลยเดินเข้าไปดูใหม่ …
จริงๆด้วย แสดงว่าสมัยก่อน มีลูกขนาดใหญ่ด้วย (ใช่หรือปล่าวไม่รู้ เพราะถามเขา เขาก็บอกว่าไม่รู้ว่าคืออะไร…เด็กรุ่นหลังๆแล้ว)
เอาหละ หยิบใส่กล่องเรียบร้อยแล้ว …
ซื้อเสร็จก็เดินกลับมาขับรถไปรอรับลูกที่โรงเรียนต่อ …
ระหว่างรอลูกที่โรงเรียน ก็ดันนึกถึงขึ้นมา … โอยยยยย แล้วใครจะไปทนไหวหละ เปิดฝากล่องดูสิว่า เขาใส่มาให้กี่ลูก …ก็ครบน๊ะ 5 ลูก แต่ แต่ แต่ แต่ …….. กลิ่นมันหอมยั่วยวนจริงๆ …ใครจะไปทนไหว
ขอเปิดมาเชยชมหน่อยละกันนะครับ … ไม่รู้ว่าไส้อะไร ฟัก-ถั่ว-ดำ
แบบนี้เลย … ตำนานแห่งความอร่อย ต้องแบบนี้ …. ขนมเปี๊ยะแป้งบาง ไส้เยอะ แป้งจะต้องไม่เหนอะติดปากติดคอ
ของเขาจะใหม่สดเสมอ เพราะว่า ทำเสร็จขายหมดแล้วหมดเลยไม่ทำเพิ่ม อยากกินก็รอรอบใหม่โน่นเลยนะครัชชชช…
กลับมาถึงบ้าน ก็เลยจัดให้อีก … อะไรจะปานน้านนนนนนนนนนนน …..
อันนี้เป็นไส้รุกรับ ทั้งฟักทั้งดำ
อร่อยจริงครับ สมกับเป็นของดีของฝากเขตดุสิตมาช้านาน …
ยังไงก็ลองหาโอกาสทานดูนะครับ แต่ราคามันก็สูงเกินไปหน่อยนะครับ ผมดูจากที่หลายๆคนรีวิว ในรอบหลายปีนี้ มีตั้งแต่ราคา 30 40 มาตอนนี้ 50 บาทแล้ว สำหรับเปี๊ยะลูกขนาดประมานสามนิ้วครึ่งได้ครับ แต่ความอร่อยนี่ต้องยอมรับนับถือเลยนะครับ …
ขอให้อร่อยกับการทานขนมเปี๊ยะ นะครับ อิอิ