(จริงๆแล้ว จะเอารูปภาพมาเก็บไว้เป็นไดอารี่ที่นี่ด้วยนะครับ แฮะ ๆ )
ตามหัวข้อที่จั่วเอาไว้ … ถ้าผู้ปกครองที่ไม่ได้รับข่าวสารว่าเด็กๆเขาทำอะไรกัน ทำไมต้องลดเวลาเรียน ทำไมต้องหยุดเรียนตั้ง 2 วัน คงนึกภาพไม่ออก และ อาจจะมีเป็นห่วงว่า กลัวจะเรียนไม่ทันโรงเรียนอื่นเขา …. บลาๆๆๆ…. เอาเข้าจริงๆ วันพบผู้ปกครองที่ผ่านมา ผู้อำนวยการโรงเรียนก็บอกว่า มีผู้ปกครองโทรไปบ่นเรื่องลดเวลาเรียนมาทำกิจกรรมกีฬาสีจริงๆซ๊ะด้วย …
ในฐานะที่ผมคนนึง ที่ไปขลุกอยู่กับเด็กๆตลอดวันที่ 20 พฤศจิกายน 2558(ตั้งแต่หกโมงเช้าจนสี่โมงเย็น) รวมทั้งช่วงเย็นของทุกๆวันที่เด็กต้องซ้อมเชียร์ ซ้อมกีฬาตั้งแต่ช่วงบ่ายโมง บ่ายสอง จนถึงห้าโมงเย็น หรือ หกโมงเย็น ในช่วงสองอาทิตย์ที่ผ่านมา ….. แต่ก็ไม่ได้ไปรบกวนสมาธิของลูกชาย น้องบอลล์ เพราะอยากให้เขาได้ใช้เวลากับหน้าที่และกับเพื่อนอย่างเต็มที่ (วันกีฬาสี ตลอดทั้งวัน ป๊ะหน้าคุยกัน 2 ครั้งไม่รวมตอนที่ถ่ายรูปนะครับเพราะยังไงก็เจอหน้าแต่ไม่ได้คุย….. คือตอนพักทานอาหารกลางวัน เราเดินเข้าไปบอกว่า แว่นตาป๊าหล่นหาย ถ้ามีใครเจอ บอลล์ช่วยดูให้ด้วยนะครับว่าของป๊าหรือปล่าว ปรากฏว่า บอลล์ไปเดินหาจนเจอ…)(แว่นตาหายก็เป็นเหตุให้การถ่ายรูปถ่ายวิดีโอมาแบบไม่รู้ว่าชัดไม่ชัดอย่างไร เพราะมองไม่เห็นจริงๆ ใช้กะๆเอาว่าน่าจะโอเคน๊ะ)
ผมขอ…มโนเอง ตอบเองเลยนะครับว่า เป็นประสบการณ์ของเด็กๆ ที่เกินไปจากความคาดคิดของผมมาก … ชีวิตวัยนี้ไม่ได้มีแค่การเรียน … เกินไปจากที่ผมคิดอย่างไรหรอ? ผมก็มโนไปเองเหมือนกันว่า จากเท่าที่ดูมาตลอดระยะเวลาหนึ่งเดือนที่เด็กๆเตรียมตัวเพื่องานนี้(รุ่นพี่เตรียมตัวมานานกว่า 1 เดือน เพราะเตรียมกันมาตั้งแต่ช่วงปิดเทอม) มีครบทุกรสชาติ ทุกข์ เศร้า เหนื่อย ขัดแย้ง ปลุกรวมพลัง ให้กำลังใจกันและกัน สามัคคี ….. (จากการอ่าน FB ของเด็กๆหลายๆคน และ ที่เขาคุยกันไปคุยกันมา เราก็จับมานั่งมโนเขียนเอาเอง …) (แว่นตาหายก็เป็นเหตุให้การถ่ายรูปถ่ายวิดีโอมาแบบไม่รู้ว่าชัดไม่ชัดอย่างไร เพราะมองไม่เห็นจริงๆ ใช้กะๆเอาว่าน่าจะโอเคน๊ะ)
แต่ที่ผมมีความรู้สึกว่า มันดีมากไปกว่านั้นก็คือการจัดการ การบริหาร การแบ่งงาน ในแต่ละคณะสีที่เด็กๆสามารถทำกันได้อย่างดีเยี่ยม โดยมีคุณครูเป็นที่ปรึกษา และที่สำคัญ เป็นสิ่งที่ทำกันมาเป็น traditional จากรุ่นพี่สู่รุ่นน้อง จากปีที่แล้วมาปีนี้ จากปีนี้ไปปีหน้า และ จากปีหน้าไปปีต่อๆไป …. ที่เด็กๆทำกันมาต่อเนื่องหลายสิบปีแล้ว มานั่งนึกดู สมัยเราเองยังไม่ Strong แบบนี้เลย(เอ๊ะ หรือว่าเราไม่สนใจเองหรือปล่าว)
ยกตัวอย่างเช่น ถามบอลล์ บอลล์ ว่า คนนี้เป็นใครหงะลูก?
บอลล์ ก็บอกว่า “พี่แถว”
เราก็ … เออแฮ๊ะ แปลกดี พี่ชื่อแถว ชื่อแปลกดี
…พี่ไม่ได้ชื่อแถว เป็นพี่ประจำแถว “แถวห้า” ที่บอลล์ บอลล์ นั่งบนแสตนด์ไงป๊า
จึงถึงบางอ้อว่า จะมีพี่เลี้ยง ที่คอยดูแลน้องๆในแถว Column จากชั้นล่างสุดของแสตนด์ ขึ้นไปถึงชั้นบนสุดของสแตนด์
นั่นเป็นแค่ตัวอย่างนะครับ แต่พวกเขามีการแบ่งหน้าที่ความรับผิดชอบต่างๆกันชัดเจน เช่น ขึ้นแสตนด์น้อง ม.1 – ม.2 เท่านั้น รุ่นพี่ชั้นอื่นๆ จะมาอยากขึ้นสแตนด์ไม่ได้นะครับ อิอิ การเดินขบวนพาเลซก็เช่นกัน จะมีพี่ชั้น ม. อะไรก็ไม่ทราบรับผิดชอบ การแสดงกลางแจ้ง การแสดงของเชียร์ลีดเดอร์หน้าแสตนด์ การจัดทำ cutout หลังสแตนด์ ฝ่ายสวัสดิการ ฯลฯ ซึ่งผมเดินๆดูแล้ว ไม่ใช่เรื่องเล็กๆที่เด็กๆจะทำกันได้อย่างลงตัวทุกอย่างได้
(จริงๆ มีหลายอย่างที่ยังไม่รู้ ถ้าเด็กๆหรือผู้อ่านท่านใดรู้ช่วยบอกด้วยนะครับว่า แล้วปีหน้า ปีถัดๆไป เด็กๆจะอยู่คณะเดิมสีเดิมหรือปล่าว? แล้วเด็กบางคนที่ถูกสลับสับเปลี่ยนไปอยู่ห้องอื่นจะต้องปรับตัวให้เข้ากับสีใหม่หรือไม่อย่างไร? อันนี้ผมไม่รู้จริงๆ แต่ลูกสามเสนทุกคนคงทราบดี)
แต่พวกเขาก็สามารถทำได้ ถึงแม้ว่าจะไม่ได้สุดยอดสวยงามทุกสิ่งทุกอย่าง แต่ สำหรับผมแล้ว ต้องยืนขึ้นปรบมือให้กับพวกเขาทุกๆคนเลยครับ … ประสบการณ์แบบนี้ ไม่สามารถไปหาซื้อได้ที่ไหน แต่สามารถใช้เวลาซื้อได้ในช่วงเวลานี้แหละครับ…เข้าร่วมกิจกรรมอย่างเต็มที่และมีสติ
จำได้ว่า ก่อนวันจริง บอลล์ กลับมาบ้านด้วยสภาพเสียงแทบไม่มี ทุกวันก็กลับมาสภาพนี้ และก็ต้องบันเทากันด้วย น้ำมะนาวผสมน้ำผึ้ง ก่อนวันจริง รีบตั้งนาฬิกาปลุก ตีห้า เพื่อไปให้ทันที่โรงเรียนก่อน หกโมงเช้า และคืนนั้นเป็นคืนที่เข้านอนเองเร็วกว่าทุกๆวัน นัยว่าเก็บพลังไว้ใช้ในวันรุ่งขึ้น และก็จำได้ว่า คืนนั้นเราได้บอกกับลูกไปว่า “ในวันพรุ่งนี้ ไม่มีเด็กเด็กคนไหนแพ้หรอกน๊ะ ทุกคนชนะหมด กับสิ่งที่ทุกได้ร่วมมือร่วมใจกระทำกันอยู่ ไม่ว่าคณะไหนสีไหน ดังนั้น ไม่ว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไร ลูกต้องภูมิใจกับสิ่งที่ได้ทำลงไป”
ผมสังเกตุได้เลยครับว่า เด็กๆรักกันมากขึ้น เด็กๆรู้จักเพื่อนต่างห้องมากขึ้น เด็กๆพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันมากขึ้น เด็กๆจับมือกอดคอกันอย่างสนิทสนมและจริงใจ ฯลฯ
และที่น่าทึ่งไปกว่านั้นก็คือ ผมไป Search ดูกีฬาสีของโรงเรียนอื่นๆ ในระดับเดียวกันหรือใกล้เคียงกัน ก็มีความเข้มข้น ความสามารถไม่ได้ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน …. เป็นการแสดงให้เห็นว่า ยุคสมัยมันต่างไปแล้ว กาลเวลาเปลี่ยน สิ่งแวดล้อมเปลี่ยน วิทยาการเปลี่ยน …. หลายๆอย่างเปลี่ยน …เปลี่ยนไปในทางที่ดี …พวกเราก็จะยิ่งยินดีเป็นอย่างยิ่ง …
เวลาของกิจกรรม เราก็ควรส่งเสริมให้เขาทำกิจกรรมอย่างเต็มที่
เวลาของการเรียน เราก็ควรส่งเสริมให้เขาเรียนอย่างเต็มที่
เอาหละ ที่เหลือก็มาดูกันว่า เด็กๆทำอะไรกันบ้าง … ผลงานเป็นอย่างไร … ผมได้เก็บรวบรวมรูปภาพที่เดินถ่ายมาให้ชมกันครับ
เด็กๆมากันแต่เช้าตรู่ นัดกันที่โรงเรียน 06:00 น. ก็ต้องมีการปรับตัวกันนิดหน่อยครับ เพราะว่าปกติ บอลล์ตื่น 05:30 น. แต่วันนี้เขาตั้งปลุก 05:00 น. ปกติไปทานข้าวเช้าที่โรงเรียน แต่วันนี้เตรียมอาหารเช้าทานกันในรถเลย เพื่อที่ว่าไปถึงปุ๊บได้ลุยเลย …
เชิญธงเคารพธงชาติ …
เด็กๆมาเตรียมตัวขึ้นสแตนด์เชียร์กัน
นั่งเข้าแถวตามตำแหน่งที่นั่งบนสแตนด์ …
เห็นบอลล์บอกว่า พี่ๆบอกว่าจะมีถุงใส่ของให้ทุกคน มาเห็นวันนี้จึงถึงบางอ้อ … เป็นถุงก๊อบแก๊ปขนาดใหญ่ แขวนไว้อย่างเป็นระเบียบดูสวยงาม ด้านในก็จะใส่อุปกรณ์ในการเชียร์ของแต่ละคน และใส่ของส่วนตัวเช่นขนมน้ำดื่ม เหมือนกันทุกสีทุกคณะ ดูสวยงามดีครับ
ที่ขาดไม่ได้สำหรับงานแบบนี้ก็คือ กล้อง DSLR นับรวมๆได้หลายพันตัวมั้งครับ
รอเวลา …
พี่ๆ ก็ให้กำลังใจ
ทะยอยขึ้นสแตนด์ตามลำดับ ตามที่ได้ซ้อมกันมา
ขบวนพาเหรดสีต่างๆ เริ่มเข้ามาจัดขบวนกลางสนามหญ้า …
อย่าได้แปลกใจว่าทำไมถ่ายแต่คณะอู่ทอง สีฟ้า … ก็เพราะว่าน้องบอลล์อยู่คณะนี้นั่นเอง …
ใครหา บอลล์ เจอบ้าง?
ประธานกล่าวเปิดงาน
นักกีฬาดีเด่นของโรงเรียน…วิ่งคบเพลิง …
กล่าวคำปฏิญาณตน
ขบวนพาเหรดเริ่มเดินผ่านเคารพประธาน
การแสดงของแต่ละคณะสี
เด็กนักเรียนสมัยนี้ ใช้แต่กล้อง DSLR ทั้งนั้น … ยอมเลย … เจอน้องคนนึงแบก Canon 5D Mark III + 70-200 f2.8L แล้วยังมีห้อยอยู่อีกตัวเป็น 6D + 24-70 f2.8L ….. โอยยยย …เวลาเดินผ่านเราต้องทำตัวลีบบบบบบ เลย ไอที่ติดตัวน้องอยู่นั่นก็ 2-3 แสนแล้วน๊ะ …..
พร้อมที่จะชิงชัยกันแล้วยัง
เพื่อน บอลล์ บอลล์ วิ่ง 100 เมตรหญิง น้องปิ๊งปิ๊ง
กองเชียร์ก็เตรียมพร้อมทำหน้าที่ของตัวเองอย่างเต็มที่ …(แต่แดดมันร้อนมาก ด้านหลังสแตนด์ มีปฐมพยาบาลกองเชียร์เป็นลมอยู่เป็นระยะๆ)
แดดร้อนมากจริงๆ …. ส่งเสบียงกันก่อนล๊ะ …
นู๋พร้อม ค่ะ …
เสียงหัวเราะท่ามกลางความร้อนระอุ …
ลูกใคร หลานใคร ตามดูเอาเองล๊ะกันนะครับ …
สแตนด์เชียร์ของคณะสีต่างๆ
การแสดงเชียร์ของคณะอู่ทอง … สีฟ้า …
การแสดงเชียร์ของคณะอยุธยา … สีแดง (ช่วงนาทีที่ 14 ใกล้จบ น้องปาล์มนั่งอยู่แถวบนสุดตางกลางเลย หน้ามืดโอนไปเอนมา แต่ก็ฝืนสู้จนจบเพลง…แล้วก็ร่วง ผมไม่ได้สังเกตุหรอกครับ พอดีคุณแม่น้องซึ่งรู้จักกันมาบอกทีหลัง เลยมาย้อนดูคลิปอีกครั้งถึงได้เห็น)
คณะรัตนโกสินทร์ … สีเขียว
คณะสุโขทัย … สีเหลือง
ส่วนคณะเชียงแสน…สีม่วงนั้น ไม่สามารถถ่ายคลิปวิดีโอมาได้ เนื่องจากจุดที่ผมนั่งอยู่นั้นเป็นมุมอับ ต้นไม้บังสแตนด์สีม่วงพอดี
เรานั่งจับภาพกันตรงนี้แหละครับ ไม่กล้าลุกเดินไปมา เพราะทางอาจารย์ก็ได้ประกาศไว้ล่วงหน้าแล้วว่าห้ามเดินผ่านไปมาหน้าคณะกรรมการตัดสิน
เอาเบื้องล่างความยากลำบากของเด็กๆมาให้ดู …
มีการแข่งขันชักเย่อ โดยรุ่นพี่และพี่ๆที่จบไปแล้วของแต่ละคณะสีมาร่วมกันออกแรง
เก็บภาพเด็กๆ ช่วงก่อนประกาศผลรางวัล และมอบถ้วย
ช่วงเวลาการประกาศรางวัลต่างๆ
ช่วงวินาทีที่ประกาศผลรางวัลกองเชียร์ชนะเลิศ
น้ำตาแห่งชัยชนะและความยินดี
ด้วยความยินดี …. หลังเลิกกองแล้ว
ทำไมเด็กๆต้องทำตาเหมือนพี่แถวด้วย…
ฝนกระหน่ำลงมาตอนจบพอดี
จบลงเพียงเท่านี้นะครับ SAMSEN SPORTSDAY 2015
อย่างที่บอกลูกเลยว่า ไม่มีใครเป็นผู้แพ้ในวันนี้ ทุกคนเป็นผู้ชนะทั้งหมดในสิ่งที่ได้ทำลงไปในวันนี้ …
#UTH #Sportday2015 #SS #UTHcheer2015 #samsensportsday
ปล. หมดกีฬาสี ตอนนี้กลับมาเรียนเพิ่มคาบเก้าคาบสิบกันเหมือนเดิมแล้วนะครับ 5 5 5