ติดตามข้อมูลข่าวสารหรือสอบถามได้ที่เพจผมนะครับ
วันนี้แล้วสินะ !!!
28 กุมภาพันธ์ 2558 !!!
วันที่จะได้ปลดปล่อยความเครียดที่สะสมกันมานาน และจะเริ่มสะสมความกังวลกันต่อไป 5 5 5 ชีวิต ก็เป็นเช่นนี้แล…
ในตอนนี้ เราจะเล่าถึงเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นในวันนั้น และ หลังจากนั้น โดยมีรายละเอียดประมาณนี้ นะครับ
- เราจะไปสามเสน !!! วันสอบจริง
- รอลุ้นผลสอบ … Refresh แปลว่าอะไรไม่ต้องบอก แต่กดตลอดหงะ
- คะแนนของปีนี้….เป็นยังไง สูงต่ำ Hi Lo
- วันรายงานตัว วันมอบตัว เอ๊ยยยยย …. มีต้องไปปรับทัศนคติด้วยไหมเนี๊ยะ
- ห้องเรียนพิเศษ EIS อ่าว..เว๊ย…เฮ๊ย มันอะไรกันอีกนี่
เราจะไปสามเสน !!!
ใช่เลย…. วันนี้เราจะไปสามเสน 28 กุมภาพันธ์ 2558
ช่วงสองสามวันนี้ เราปฏิบัติตนตามแผนทุกประการ นอนสองทุ่มตื่นตีห้าสี่ห้า (แต่วันนั้น แอบตั้งนาฬิกาปลุก 05:40 น. อิอิ ไม่มีใครรู้)
อาบน้ำแต่งตัวเสร็จ หยิบกระเป๋าที่เตรียมไว้ตั้งแต่วันสองวันที่แล้ว ในกระเป๋ามีอะไรบ้าง
- เสื้อกันหนาว !!!
- ดินสอ 2B มีไป 4 แท่ง บวกกับดินสอของครูนัทครูมดให้มาเป็นกรณีพิเศษอีกหนึ่งแท่ง(ไม่รู้ว่าได้ปลุกเสกไว้ด้วยไหม 5 5 5 บอลล์ บอกใช้แท่งนี้ตลอด มันอุ่นใจดี)
- ยางลบดินสอ ยางลบปากกา
- ปากกา
- กระติกน้ำประจำตัว
- นม 1 กล่อง
- บัตรเข้าห้องสอบ / บัตรนักเรียน / บัตรประชาชน ให้ไปหมดใส่ไว้ในกระเป๋าตังส์ ไม่มีตกหล่น ใช้ไม่ใช้ไม่เสียหาย
กระเป๋าเอาเข้าห้องสอบไม่ได้นะครับ แต่วางไว้หน้าห้องสอบได้ ตอนเข้าห้องสอบก็ใส่โทรศัพท์มือถือไว้ในกระเป๋านี่แหละ แล้ววางทิ้งไว้หน้าห้อง อุปกรณ์อิเลคโทรนิคทุกชนิดห้ามนำเข้าห้องสอบ
เรามาถึงโรงเรียนประมาณ 06:30 น. ได้จอดรถในที่ที่เราอยากจะจอด เห็นว่ายังเช้าอยู่ ก็เลยเดินไปเดินมา เผื่อหาอาหารเช้าไปในตัวด้วย ยังไม่ได้เดินเข้าไปในโรงเรียนหรอกครับ กะว่าเดินให้สบายๆสมองปลอดโปร่งก่อน เดินผ่านมาหน้าพรรคประชาธิปัตย์ โรงพยาบาลวิชัยยุทธ ก็เลยเดินเข้าไปในโรงพยาบาลเข้าห้องน้ำ เสร็จแล้วเห็นมีศูนย์อาหารด้วย ก็เลยหม่ำอาหารเช้าที่นี่ซ๊ะเลย …อิอิ ผิดโผ
ทานอาหารเช้าเสร็จก็เดินเอ้อระเหยไปเรื่อย อากาศเช้านี้ดีมาก เดินปลดปล่อยจนสบายใจ จนกระทั่งมาด้านหน้าโรงเรียน ก็เดินเข้าไปในโรงเรียน แล้วบอลล์ก็ไปเดินหาเพื่อน เจอทีละคนสองคน คราวนี้ก็เม๊าท์กันสนุกเลย … จนกระทั่งถึงเวลาเข้าห้องสอบ … ความเงียบก็มาเยือน
เด็กๆพร้อม ก่อนเข้าห้องสอบ
เราก็มาเดินเล่นรับแดดอ่อนๆตอนเช้ากัน ….
มุมนี้จากการเดินเข้ามาทางประตูหลักของโรงเรียน หรืออีกนัยหนึ่ง ก็เป็นทางรถวิ่งเข้าโรงเรียนด้วย ถ้าเป็นรถผู้ปกครอง ก็เลี้ยวขวาผ่านหน้าอาคารบัวชมพูไปออกประตูด้านข้างเข้าสู่ลานจอดรถใต้ทางด่วน แต่ถ้าเป็นอาจารย์และบุคคลากรที่ได้รับอนุญาติก็จะสามารถนำรถเข้าจอดด้านในตรงเข้าไปได้เลย วันนั้นได้ข่าวว่าที่จอดรถเต็มจนกระทั่งรถติดไม่สามารถเคลื่อนไปไหนมาไหนได้เลย บางคนต้องปล่อยให้ลูกลงแล้ววิ่งเข้าไปในโรงเรียนเอง ไปทางด้านหลังโรงเรียนก็จอดริมถนนซ้อนสอง แล้วก็ซ้อนสาม จนไม่รู้จะไปทางไหนกันแล้ว … !!!
ขวามือของเรา ตืออาคารบัวชมพู ห้องข้างล่างเป็นห้องที่เด็กๆเข้าไปสมัครสอบด้วยตนเอง
ส่วนซ้ายมือ พระสามเสน ที่เด็กๆและบุคคลากรทุกท่านที่นี่ให้ความเคารพนับถือเป็นอย่างสูง
สังเกตุดูว่าพวงมาลัยเยอะมาก เพราะว่ากันว่าให้นำพวงมาลัยมาถวายและขอพรดีดีขอเป็นลูกสามเสน
บอลล์ บอลล์ ก็ใช่เล่นที่ไหน นำพวงมาลัยมาไหว้เหมือนกัน แต่เป็นพวงมาลัยสีขาวซื้อมาจากแถวบ้าน เพราะตั้งใจจะมาไหว้อยู่แล้วเหมือนๆกับทุกครั้งที่เราไปที่ต่างๆ
เดินไปเรื่อยๆก็เจอบอร์ดประกาศรายชื่อพร้อมห้องสอบ ของบอลล์ บอลล์ สอบห้อง 8201 อาคาร 8 ซึ่งก็คือ อาคาร English Program นั่นเอง ชั้นสอง ห้องหนึ่ง
สรุปจำนวนนักเรียนที่สมัครสอบ
เดินต่อเข้ามาด้านในก็มาถึงหน้าอาคาร 8 English Program อีกครั้ง ส่วนอาคารถัดไปที่มีป้ายผ้าทรงพระเจริญนั้นคืออาคารเอนกประสงค์ที่ชั้นบนเป็นหอประชุม ชั้นล่างเป็นโรงอาหาร
ในการสอบ ถ้าเวลายังไม่หมด จะไม่อนุญาติให้นักเรียนออกนอกห้องสอบ
แต่นักเรียนสามารถขออนุญาติเข้าห้องน้ำได้ จากการสังเกตุเห็น เข้าใจว่า จะมีคุณครูคอยควบคุมดูแลเรื่องเข้าห้องน้ำ อาจจะให้เข้าทีละคนหรืออย่างไรไม่ทราบได้ เพราะเห็นเด็กยืนเข้าแถวรออยู่ตรงระเบียงหน้าห้องกันหลายคนหลายนาน
เมื่อสัญญาณหมดเวลาดังขึ้น มันก็เหมือนนกแตกรังดีดีนี่เอง แต่บางคนก็ออกมาด้วยอาการอิดโรย … เลขยากมาก !!!
บอลล์ บอลล์ วิ่งออกมาด้วยอาการดีใจเล็กน้อย บอกว่า ภาษาอังกฤษออกตรงในหนังสือหลายข้อเลยป้า แต่ไม่ค่อยเอ่ยปากวิชาคณิตศาสตร์เท่าไหร่เลย แฮะๆ
แยกย้ายกันกลับบ้าน เวลาของความเครียดยกแรกผ่านไปแล้ว อีก 4 วันก็รู้ผล
เราก็ไม่ได้รีบไปไหน ก็ยืนคุยๆกันกับเพื่อนๆผู้ปกครองที่มาจากโรงเรียนเดียวกันของบอลล์ บอลล์ จนกระทั่งคนเริ่มซา ออกไปติดกันหน้าโรงเรียนหมดแล้ว เราก็ออกตัวเดินไปขึ้นรถด้านหลังโรงเรียน …. เป้าหมายถัดไป ไปที่ไหนก็ได้ที่ลูกอยากไป เลือกได้เลย … ปรากฏว่าเลือกที่จะไป เซ็นทรัลแจ้งวัฒนะ 5 5 5 ไปที่นั่นก็ไปเจอเด็กนักเรียนเยอะแยะไปหมด เจอเพื่อนที่เรียนบ้านครูมดด้วยกัน แต่ไปสอบที่ EP โยธิน(ซึ่งก็ได้ด้วย…ยินดีด้วยอีกทีนะครับ)
นึกว่าลูกจะมาเซ็นทรัลแจ้งทำอะไร … เข้าร้านซีเอ็ด ไปนั่งอ่านการ์ตูน …. 5 5 5
ตกเย็นถึงได้กลับบ้านกันอย่างสบายใจ … โล่งใจ
ข้อสอบปี 2558
- ภาษาอังกฤษ 50 คะแนน
- 50 ข้อ ข้อละ 1 คะแนน เป็นแบบ 4 ตัวเลือกทั้งหมด
- คณิตศาสตร์ 50 คะแนน
- ตอบคำตอบ 20 ข้อ ข้อละ 2 คะแนน
- แสดงวิธีทำ 2 ข้อ ข้อละ 5 คะแนน
+++ ประกาศผลสอบ +++
ใครว่าสอบเสร็จแล้วสบาย…ผมว่าไม่เลยน๊ะโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ต้องมาลุ้นว่า จะต้องกลับมาอ่านหนังสืออีกรอบไหม?
อ่อ…. มาถึงตรงนี้ นึกได้อีกคำนึงที่ใช้ช่วงก่อนสอบ ที่ทำให้ บอลล์ บอลล์ ฮึกเหิม ขึ้นมาอีกเยอะเลยก็คือ
“ยอมลำบาก ยอมอดทน ขยันตอนนี้ ดีกว่าต้องมานั่งอ่านกันอีกสามสิบวันตอนรอบสามัญน๊ะ”
ซึ่งตรงนี้ บอลล์ เห็นด้วยอย่างยิ่ง โดยเฉพาะต้องมาสอบห้าวิชาด้วยนี่สิ ไม่อยากจะคิดเลย …
จากสอบเสร็จวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2558 จะประกาศผลวันที่ 5 มีนาคม 2558 มันไม่กี่วันจริงๆ
แต่ความจริงก็คือ เขาจะประกาศกันช่วงบ่ายๆเย็นๆผ่านทางหน้าเว็บไซด์ของสามเสน ตั้งแต่วันที่ 4 มีนาคม 2558 แล้ว
ส่วนของโยธิน ได้ข่าวว่าประมาณเกือบเที่ยงคืนของวันที่ 4 มีนาคมเลยมั้งครับ
ช่วงสองสามวันที่ผ่านมาเราอยู่สองคนพ่อลูก (คุณแม่ไปประชุมที่ ฮอลล์แลนด์) ก็ปล่อยให้บอลล์เต็มที่กับชีวิต อยากไปไหนไป แต่ไม่ยอมไปไหนเลยแฮ๊ะ อยู่แต่บ้านดูหนัง เล่นเกมส์ ประมาณนั้น
วันที่ 4 มีนาคม 2558 …. รู้สึกว่าเครียดพอสมควร รวมทั้งตื่นเต้น ก็เลยชวนบอลล์ไปเดินเล่นที่ Future Park รังสิต
ใจก็อยากจะลืมความกังวลเหล่านั้น แต่ก็ไม่วายใช้มือถือ refresh หน้าเว็บไซด์ของโรงเรียนสามเสนอยู่เรื่อยๆ
แต่ก็ยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง
จนบ่ายแก่ๆ เราก็กลับมาที่บ้านกัน
ถ้าจะถามว่า บอลล์ เครียดหรือว่ากังวลกับผลสอบไหม … แน่นอน สัมผัสได้อย่างชัดเจน
เพราะตลอดช่วงระยะเวลา 30 ชั่วโมงนี้ ได้รับข่าวจากเพื่อนๆ มีทั้งสอบได้ที่โน่น ที่นี่ ไม่ได้ก็มี
เจ้าตัวแอบมาถามบ่อยๆ “สามเสนประกาศแล้วยัง” แบบว่าน้ำเสียงเริ่มสั่นๆ
Refresh เรื่อยๆจนกระทั่งเห็นความผิดปกติ บนหน้าจอ ลองกดเข้าไปดู
ด้วยความตื่นเต้นก็ไม่ได้ดูว่าของปีที่แล้วหรือของใหม่ เริ่มแย้มจากหน้าสุดท้ายก่อนเลย
5 5 5 แบบว่ามั่นใจมากว่า ถ้าดูจากด้านหลังมาด้านหน้า น่าจะเจอก่อน แฮะๆ
แต่พวกเด็กเก่งๆเขาจะลุ้นจากด้านหน้ามาด้านหลัง
ไล่มาเลย จากลำดับที่ 120 กวาดสายตาไล่มาเรื่อยๆ ….
จำได้สนิทใจว่า ตอนนั้นจิตใจตื่นเต้นเสียวมาก ยิ่งกว่าสอบเองเสียอีก
ยังไม่เจอชื่อ แต่สายตาก็แว๊บไปมองลูก ที่กำลังนั่งต่อ Lego ของเล่นที่ชอบอยู่ข้างๆ
พอหันกลัยมามองที่จอคอมพิวเตอร์ … แทบไม่น่าเชื่อ ตอนเราละสายตาไปมองลูก เรามองไม่เห็น
แต่ตอนที่กลับมามองอีกครั้ง เห็นชื่อของลูกอยู่ตรงหน้า กลางหน้าจอเลย
ขนงี้ลุกซู่ไปทั้งตัว น้ำตาแอบไหลโดยไม่รู้ตัว … แล้วบอกให้ลูกมาดู
“บอลล์ ลูกสอบได้”
บอลล์รีบปล่อยวางทุกสิ่งทุกอย่างวิ่งมาหาเราที่โต๊ะ
“จริงหรอป๊า”
เราก็ชี้ให้ลูกดูชื่อของตัวเองในใบประกาศ
ถึงได้เห็นพลังของความกดดันและอัดอั้นของลูกที่ปล่อยออกมา
ตะโกนลั่นพร้อมวิ่งไปรอบบ้าน อย่างดีใจสุดขีด
“สอบได้แล้ว มีที่เรียนแล้ว”
เป็นเสียงที่มีอยู่เพียงแค่อย่างเดียว ท่ามกลางความเงียบสงบของบ้านเรา เพราะช่วงเวลานั้น ทั้งหมู่บ้านก็เงียบตามปกติอยู่แล้ว วันหนึ่งๆจะมีรถวิ่งผ่านหน้าบ้านนับคันได้ … แถมเวลานั้น ไม่ได้เปิดไฟที่บ้านเลย บรรยากาศจึงผสมผสานครึ้มๆวังเวง …
สองคนพ่อลูกกอดกันด้วยความดีใจอยู่นานมาก..นานหลายนาที….นานแบบสัมผัสได้ว่า ลูกกอดเราแน่นขนาดไหนไม่ยอมปล่อย
มาครั้งนี้ได้เห็นน้ำตาแห่งความดีใจของลูกซ๊ะที
บอลล์ บอกว่า “โทรไปหาหม่าม้ามั๊ยป๊า”
“ไม่ได้หรอก ตอนนี้เวลาที่ฮอลแลนด์ก็ประมาณ 11 โมง คงประชุมอยู่เป็นแน่”
ตอนนั้น ก็ทำได้แค่ส่ง Line ไปแจ้งข่าว (แต่กว่าจะรู้ ก็ช่วงดึกของเราแล้ว)
“ป๊า เพิร์ท ก็สอบได้นี่ไง ภวรัญชน์ ธนฐิติกร แย้ๆๆๆๆๆๆๆๆ ดีใจจัง มีเพื่อนด้วย “
จากคำพูดที่ลูกตะโกนออกมาคำว่า “มีที่เรียนแล้ว” ทำให้รับรู้ว่า เขาคิดอะไรอยู่ ตลอดเวลาที่ผ่านมาช่วงสองสามวันนี้
ทุกสิ่งทุกอย่าง โล่งไปจากอก เวลานั้นทั้งพ่อทั้งลูกจึงทำได้แต่ส่งข่าวด้วยความยินดีตามช่องทางต่างๆ
บอลล์ บอกว่า ดีอีกอย่างก็คือ ไม่ต้องมานั่งอ่านหนังสืออีกรอบเพื่อเตรียมสอบรอบสามัญ ซึ่งจะยากกว่ารอบนี้อีกเยอะทีเดียว
วันรุ่งขึ้น เราก็ไปที่โรงเรียน แต่ตื่นสายแล้วหละ เพราะเมื่อคืน นอนไม่ค่อยหลับกันทั้งพ่อทั้งลูก
ยังไม่ตื่นจริงๆ …
ขอบคุณ หลวงพ่อสามเสนด้วย
เย้ … มีชื่อด้วย
นัดให้มารายงานตัว
คะแนนสอบ
มาดูเรื่องคะแนนสอบ .. น่าดีใจมากมาย ลูกทำได้ตามที่คุยกันไว้เดี๊ยะเลย ไม่ขาดไม่เกิน
ภาษาอังกฤษ เป้าหมาย 80% = 40 คะแนน ทำได้ 42 คะแนน
คณิตศาสตร์ เป้าหมาย 40% = 20 คะแนน ทำได้ 21 คะแนน
มาดูคะแนนสูงสุด ต่ำสุด คะแนนเฉลี่ยของปี 2558 นะครับ (ถ้าผม Key เข้า Excel ไม่ผิดนะครับ 5 5 5)
เมื่อเปรียบเทียบกับของปี 2557 ที่ก่อนหน้านี้ผมใช้วางเป้าให้กับลูก
ซึ่งดูเหมือนกับว่า ปี 2558 จะปรับตัวขึ้นมาหน่อย ซึ่งก็คาดว่า น่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้นในปีถัดๆไปด้วยทีละนิดทีละหน่อย
ลองเอาไปปรับใช้ดูได้ครับ แต่ถ้าลูกเราเก่งอยู่แล้วก็ไม่ต้องกังวลเลยครับ
รายงานตัว ประชุมผู้ปกครอง และ เด็กนักเรียน
ท้ายประกาศผลสอบนั้น ก็จะมีประกาศให้มารายงานตัว อ่อไม่ใช่ให้เข้าร่วมประชุมเพื่อ….(ไม่ใช่ปรับทัศนคติ นะครับ อิอิ ถ้าอย่างนั้นต้องไป ราบ 11)
ซึ่งก็เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วนะครับว่า วันนั้นตรงกับวันที่ สาธิต มศว.ปทุมวันจัดสอบคัดเลือก ดังนั้นใครจะไปสอบที่โน่นก็ต้องคิดหนัก เพราะถ้ามารายงานตัวก็ไปสอบไม่ทัน หรือถ้าไปสอบ ก็มารายงานตัวไม่ทัน
ผมจำได้คร่าวๆว่า มี ผปค. ถามระหว่างที่มีการประชุมอยู่นั้นว่า สามารถมารายงานตัวได้ถึงกี่โมง ซึ่งทางอาจารย์ก็ได้ตอบว่า ตามเวลาราชการก่อน 16:00 น.
ปรากฏว่า กริ๊งกร๊าง กันใหญ่เลยครับ
“เฮ๊ย แกๆ เอาลูกมารายงานตัวยังทัน สอบเสร็จแล้วตรงมาเลย”
ซึ่งนั่นก็หมายความว่า คนที่ยอมทิ้งที่นี่ไปสอบที่ สาธิต มศว.ปทุมวัน ยังสามารถกลับมารายงานตัวรักษาสิทธิ์ได้ทัน !!!
ทั้งนี้ ทั้งหมดนี้ผมไม่ได้ยืนยันนะครับ เพราะว่าไม่ได้คิดเรื่องให้ลูกไปสอบที่อื่นอยู่แล้ว เลยไม่ได้ตั้งใจฟังเท่าไหร่
ปล. วันที่เรียกประชุมผู้ปกครองและนักเรียนนั้น จะรวมทั้ง EP, ESC(กิฟวิทย์) และ MSEP(กิฟวิทย์คณิต)
จากภาพ ภายในห้องประชุมในวันรายงานตัว ซึ่งจะให้เด็กนักเรียนนั่งฝั่งขวา โดยแบ่งเป็น ESC MSEP และ EP ส่วนผู้ปกครองก็จะนั่งอีกฝั่งหนึ่งทางด้านซ้าย
หลังจากรายงานตัวแล้ว คราวนี้ก็รอยาวไปเลยครับ เดือนเมษายนโน่น เพื่อไปมอบตัว ชำระค่าเสียหายต่างๆ แล้วก็จะมีการเรียนปรับพื้นฐานกัน 1 สัปดาห์ ซึ่งการเรียนปรับพื้นฐานนั้น จะรวมเด็กที่สอบเข้ามารอบสามัญด้วยเลย และช่วงเวลานี้แหละ ที่จะมีการรับสมัครเด็กจากรอบสามัญที่สนใจจะเข้าร่วมเรียนห้องโครงการพิเศษ EIS เพื่อสอบแยกห้องไปเรียนห้อง EIS
มีคำถามตามมาเลยว่า ห้องเรียนพิเศษ EIS คืออะไรหรอ?
คือในการสอบรอบสามัญ จะมีการสอบแบ่งออกเป็นสามกลุ่มตามการรับสมัครเลย
กลุ่มที่ 1 เด็กนักเรียนทั่วไป จำนวน 144 คน
กลุ่มที่ 2 เด็กนักเรียนในเขตพื้นที่ จำนวน 96 คน
กลุ่มที่ 3 เด็กนักเรียนเงื่อนไขพิเศษ จำนวน 60 คน
รวมทั้งหมด 300 คน
ในช่วงระหว่างที่มีการเรียนปรับพื้นฐาน ประมาณกลางเดือนเมษายน ทางโรงเรียนก็จะมีการประกาศให้เด็กที่สนใจจะสอบคัดเลือกเข้าเรียนห้อง EIS ไปลงชื่อ และจะทำการสอบคัดเลือก จำนวน 100 คน เพื่อเรียนห้อง EIS ห้องละ 50 คน
โดยการสอบจะสอบ 2 วิชา วิชาละ 50 คะแนน นั่นก็คือ วิชา ภาษาอังกฤษ และ คณิตศาสตร์ แล้วคัดจากลำดับที่ 1-100 ตามลำดับ
แล้วห้อง EIS มันคืออะไรหละ แตกต่างจากห้องทั่วไปอย่างไร มันคือห้อง King ของสามัญหรอ?
บางคนก็เปรียบเทียบห้อง EIS ว่าเป็นห้องศิลป์คำนวณในสมัยก่อนไง
English for Integrated Studies (EIS) ความจริงโครงการนี้มีมานานแล้ว และ มีในหลายๆโรงเรียนทั่วประเทศ
ใครอยากทราบรายละเอียดลองดูที่นี่ได้เลยครับ https://sites.google.com/site/surapongeisth/
EIS จะสอนวิชา คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และ คอมพิวเตอร์ เป็นภาษาอังกฤษ สอนโดยครูคนไทย
และจะมีการสอนภาษาอังกฤษเพิ่มเติมจากที่เรียนอยู่แล้วอีก 2 วิชา คือ
Writing จะเรียนสัปดาห์ละครั้ง สอนโดยครูคนไทย
Conversation สอนโดยครูต่างชาติ โดยจะแบ่งเด็กออกเป็น 2 กลุ่มต่อห้อง
จะเรียนกันในช่วงเย็น หรือที่เรียกกันว่า คาบ 9 (วันหนึ่งมี 8 คาบ)
ส่วนใหญ่แล้ว ห้องเรียนพิเศษ EIS ก็จะเรียนคล้ายๆกับห้อง MSEP แต่วิชาที่เรียนเสริมของ MSEP จะเข้มข้นมากกว่า และ MSEP ต้องเรียนในวันเสาร์เป็นปกติด้วย
เด็กนักเรียนส่วนใหญ่ที่เรียน EIS ก็จะเป็นเด็กเก่งๆที่พลาดหวังมาจาก ESC, MSEP และ EP ตอนสอบรอบโครงการิเศษนั่นเอง
ส่วนค่าเล่าเรียนของ EIS นั้นก็ถูกแสนถูกจนน่าอิจฉาเลยครับ
ค่าเทอมที่รวมค่าหนังสือหนังหาแล้ว = 3,500 บาท (ผมไม่ได้พิมพ์ 0 ตกไปตัวนึงนะครับ)
ค่าเรียนเสริมตอนเย็น ทั้ง writing และ conversation = 3,900 บาท
(ขอขอบคุณข้อมูลของ EIS บางส่วนจากคุณแม่ Sopida Petchsuwan Chunsermpong คุณแม่ลูก EIS สามเสนด้วยนะครับ)
ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่านนะครับ …. หมดเรื่องเล่าล๊ะ 5 5 5
เดี๋ยวจะพยายามรวบรวมคำถามคำตอบ มาไว้ที่เดียวกันในตอน 7 (แบบสั้นๆ)
ใครมีคำถามอะไรอยากถาม อยากรู้ …ได้เลยนะครับ
ถ้าตอบไม่ได้ … เดี๋ยวจะพยายามไปหาคำตอบมาให้นะครับ
ทั้งนี้ถ้ามีสิ่งใดผิดพลาดก็ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย นะครับ
ตอนที่ 8 จะเป็นความเห็น ความรู้สึก ส่วนตัว เกี่ยวกับ สามเสนวิทยาลัยในสายตาของผม
ขอบคุณครับ ///
สนใจบทความเกี่ยวกับการเรียนการสอบเข้า EP สามเสน ตามไปที่ Link นี้ได้เลยครับ
เรื่องเรียนของลูก :: รวบรวมบทความ “สอบเข้า EP สามเสน“