เรื่องเรียนของลูก :: ตอนที่ 1 – ทำไมถึงเลือกให้ลูกสอบเข้า EP สามเสน

EP สามเสน

บทความนี้มีทั้งหมด 8 ตอน

ติดตามหาอ่านกันได้ครับ ในเว็บนี้แหละครับ 9choke.com

และสามารถติดตามข่าวสารได้ที่ facebook.com/myRemainingtime

ปล. กรณีที่มีคำถามในช่วงก่อนสมัครสอบ ก่อนสอบ ปีการศึกษา 2559 นี้ ให้ถามคำถามตรงที่ facebook เลยครับ จะได้รีบตอบให้

ทำไมถึงมาเขียน เรื่องเกี่ยวกับสอบเข้า EP สามเสน

หลายเดือนมานี้ ตั้งแต่ประกาศผลสอบเข้ามัธยมต้น
มีเพื่อนๆทั้งที่รู้จัก เคยคุยบ้าง เคยเห็นหน้า ไม่เคยรู้จัก ที่มีลูกในวัยใกล้เคียงกับ บอลล์ บอลล์
ส่วนใหญ่เป็นเด็กที่กำลังเรียนอยู่ ป.5 ป.6 ในปีนี้ (อนุบาล 3 ก็มี ป.1 ก็มี)
สอบถามมาเกี่ยวกับเรื่องเรียนของลูก

ทำไมถึงเลือกให้ลูกสอบที่ EP สามเสน?
ต้องเรียนพิเศษมั๊ย?
เตรียมตัวอย่างไร?
มีสอบที่อื่นบ้างหรือปล่าว?
ถ้าสอบ EP สามเสนไม่ได้ แล้ววางแผนว่าจะทำอย่างไรต่อ?
pretest กับพวกสอบแข่งขันหละ ไปลุยสอบมาทุกที่ไหม?
วางแผนช่วงก่อนสอบถึงวันสอบอย่างไร แนะนำหน่อยสิ

ประมาณนี้แหละครับ คำถามแต่อาจจะมากมายกว่านี้ เดี๋ยวเขียนๆไปจำได้จะค่อยๆแซมให้
(อาจจะเขียนแถมสักตอน เรื่องความรู้สึกภายหลังจากที่ลูกเข้ามาเรียนไปได้ครึ่งเทอม ….)

เนื่องจากพวกเราเป็นพวกห่างไกลวงการเรื่องเหล่านี้ ซึ่งอาจจะต่างจากผู้ปกครองหลายๆท่านที่กระจ่างชัดมาตั้งแต่ลูกเข้าประถม 1 แล้วว่า จะไปสอบที่ไหน สอบอะไร ไปเรียนเพิ่มเติมที่ไหน ไปสอบแข่งขันอะไร บราๆๆ และก็เหมือนกับผู้ปกครองหลายๆท่านเช่นกันที่ยัง งง งง คลำหาทางไม่ถูก ไม่อยากบอกเลยว่าจนลูก ป.6 แล้วเราถึงค่อยมารู้ว่า สอบรอบโครงการพิเศษต่างๆ กับสอบรอบสามัญ สอบคนละวันกัน แป่ววววววววว…..

ตอนนั้นที่หาข้อมูลเกี่ยวกับการสอบเข้า ม.1 สาย English Program โดยเฉพาะสามเสนนั้น เราสามารถหาได้แบบสะเปะสะปะมาก หลังจากที่รวบรวมแล้ว ก็ยังไม่มั่นใจในข้อมูล จนค่อยๆกระจ่างมากขึ้นก็ตอนที่ใกล้ถึงวันสอบนั่นแหละ

จึงเป็นที่มาของ Post เหล่านี้ ที่จะเล่าเรื่องประสบการณ์ที่ผ่านมาในช่วงปีกว่าๆนี้ที่เตรียมตัวสอบ
ยังไม่รู้นะครับว่า จะเขียนแยกเป็นกี่ตอน แต่พยายามเขียนจากประสบการณ์ ความทรงจำ และ ความรู้สึก เท่าที่จำได้นะครับ

(ปล. กรณีมีคำถาม อยากสอบถามแลกเปลี่ยนความคิดเห็น inbox ที่ facebook.com/myRemainingtime ได้เลยนะครับ เพราะว่า บางเรื่องที่เป็นความคิดเห็นส่วนตัวสำหรับแต่ละโรงเรียน จะไม่สมควรที่จะเขียนใจกลางที่สาธารณะแบบนี้ ขอบคุณครับ)

เมื่อลูกเราไม่ใช่เด็กเรียนเก่งหรือเรียนดี

คือประเด็นมันอยู่ที่ว่า บอลล์ ไม่ได้เป็นเด็กที่เรียนเก่งเรียนดี แบบว่าอยากจะเรียนที่ไหนก็ไปสอบที่นั่นก็จะสอบติดและได้เรียน ไม่ใช่อย่างนั้น

ไม่ได้เป็นประเภทมีเหรียญ มีเกียรติบัตร สรรพคุณเยอะแยะ ไม่ใช่อย่างนั้น เอาเป็นว่า ประมาณกลางๆ เพราะอยู่ที่โรงเรียนก็ไม่เคยได้รับคัดเลือกไปสอบโน่นสอบนี่ อาจจะมีบ้างเล็กๆน้อยๆงานท้องถิ่น เราเองก็พอจะประเมินลูกเราเองได้อยู่บ้างว่า ระดับไหน

ดังนั้น …. ต้องเจียมตัว และจำต้องกังวลบ้าง เพราะถ้าสอบเข้าไม่ได้ …….ที่โรงเรียนเก่าก็ไม่มี ม.1 ให้เรียนต่อด้วย

นอกจากเจียมตัวแล้ว ยังต้องมีการเตรียมตัวอีกด้วย

(อ่านจบครบทุกตอน จะได้ไม่ต้องมาถามคำถามให้คาใจอีกว่า EP สามเสน สอบวิชาอะไรบ้าง ยากมั๊ย ต้องมีค่าแรกเข้าแสนนึงด้วยหรอ ฯลฯ)

ดังนั้น เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา ผมจะมาเขียนเล่าความเอาไว้ ในตอนนี้ขอเริ่มจากเรื่องแรกละกันนะครับว่า “ทำไมถึงเลือกให้ลูกสอบเข้า EP สามเสน”

เริ่มคิด เริ่มวางแผน ถึงจะสายก็ยังดีกว่าไม่ทำเลย

เอาเป็นว่าเริ่มตั้งแต่ตอนอยู่ ป.5 เลยครับ พวกเราเริ่มคิดมากขึ้นว่า จบ ป.6 แล้วจะให้ลูกไปเรียนที่ไหน เพราะที่โรงเรียนที่ลูกเรียนอยู่ มีแค่ ป.6 เท่านั้นที่เป็นชั้นสูงสุด

ดังนั้น … ยังไงก็ต้องไป

แต่ตอนนี้ คิดอย่างเดียวไม่ได้แล้ว … ต้องมี แอคชั่น อะไรบ้างแล้วหละ

เริ่มจาก List รายชื่อโรงเรียนที่อยู่ในอาณาเขตรัศมีใกล้บ้านเราก่อน (บ้านอยู่แถวบางพูน ปทุมธานี) และ จะพยายามรวบรวมข้อมูลที่ใช้ในการประกอบการพิจารณา ดังนี้

ลูกเราเรียน EP หรือ English Program มาตลอดตั้งแต่ ป.1 ดังนั้น เราก็จะมองโรงเรียนที่มีห้องเรียนพิเศษ English Program เป็นหลักก่อน เพราะสอบรอบแรกนี้ก็คือสอบห้องพิเศษ นั่นก็คือ Gifted กับ EP นั่นเอง …. Gifted คงไม่ไหวอยู่แล้ว ถ้าสอบรอบแรกไม่ผ่านอีกหนึ่งเดือนก็จะต้องไปสอบรอบสามัญกัน เท่ากับว่าอย่างน้อยเราได้สอบ 2 รอบ (แต่ขอสอบรอบเดียวพอน๊ะ) การที่จะให้ลูกเลือกสอบโครงการณ์ไหน โรงเรียนอะไรก็ต้องพิจารณากันหนักหน่อยนะครับ
เป็นโรงเรียนรัฐบาล เพราะเรามีความรู้สึกว่า มัธยมแล้ว ก็น่าจะมุ่งไปโรงเรียนรัฐบาลเป็นหลักก่อนหละ ถ้าตกหล่นยังไงก็ค่อยว่ากันอีกที
การเดินทางสะดวก ไม่ไกลมาก
สิ่งแวดล้อม ทั้งในแง่ของสถานที่ นักเรียน ฯลฯ เท่าที่จะสดับรับฟังมาได้
หลักสูตร อาจจะหาข้อมูลที่จับต้องได้ยากสักหน่อย ก็คงต้องหาอ่านจาก website โรงเรียน และที่เขาวิจารณ์กันในโลกอินเตอร์เน็ทนี่แหละครับ

ซึ่งรวมๆแล้ว เราก็ได้โรงเรียนที่อยู่ในเงื่อนไขอยู่ 2-3 ที่ นั่นก็คือ

(กลุ่มโรงเรียนที่ 1)

สวนกุหลาบรังสิต (มีห้อง EP)
สายปัญญารังสิต (มีห้อง MEP หรือ miniEP)
สวนกุหลาบนนท์ (เวลานั้น ไม่ทราบว่ามีห้อง EP ไหม รู้แต่ว่ามีห้อง Gifted)

พอขึ้น ป.6 ทางโรงเรียนโชคชัยรังสิต ที่น้องบอลล์เรียนอยู่ ได้จัดงานแนะแนว โดยเชิญอาจารย์แนะแนวจากโรงเรียนสวนกุหลาบรังสิต และ โรงเรียนสายปัญญารังสิต มาพูดถึงโรงเรียนและห้องเรียนโครงการพิเศษของแต่ละโรงเรียน…. เราก็ไปนั่งฟังเก็บรายละเอียด

หลังจากนั้น 1 สัปดาห์เราก็ไปสำรวจที่โรงเรียนทั้งสองแห่ง ไปในเวลากลางวันประมาณ 10 โมงเช้า ในขณะที่มีการเรียนการสอนอยู่ เพราะอยากจะเห็นสภาพความเป็นจริงของทั้งสองโรงเรียน (ขออภัยที่ไม่ได้แจ้งให้ทางโรงเรียนทราบเลย แบบว่า เข้าไปดุ่มๆเดินชมบรรยากาศ ห้องเรียน โรงอาหาร ห้องน้ำ บราๆๆ )

ได้ผลสรุปออกมาคร่าวๆดังนี้

โรงเรียนสายปัญญารังสิต อยู่ใกล้บ้านที่สุดแล้วระยะทาง 14 กม. เป็นโรงเรียนรัฐบาล บรรยากาศภายในโรงเรียนชอบมาก แต่จะเป็นโครงการ miniEP (จะใช้จำนวนคาบการเรียนการสอนที่เป็นภาษาอังกฤษเป็นตัวกำหนด) ซึ่งค่าเทอมค่าใช้จ่ายก็จะถูกกว่า
โรงเรียนสวนกุหลาบรังสิต อยู่ไกลออกไปหน่อยประมาณ 20 กม. รถติดตลอดเส้นทางทั้งไปและกลับ เป็นโรงเรียนรัฐบาลเช่นกัน บรรยากาศภายในโรงเรียนชอบน้อยกว่าสายปัญญารังสิต แต่มีโครงการ EP ที่เต็มรูปแบบ บอลล์ จะมีรุ่นพี่ที่เรียนอยู่ที่นี่เยอะหน่อย

เมื่อได้ข้อมูลมาแล้ว เราก็มีตัวเลือกคร่าวๆอยู่ในใจ แต่โรงเรียนสวนกุหลาบนนท์ยังไม่ได้ไปหาข้อมูลเลย ก็เลยขอตัดออกไปก่อน

คราวนี้ก็กลับมามองเพิ่มเติมว่า ถ้าไกลออกไปอีกหน่อย แต่อยู่ในวิสัยที่เราสามารถเดินทางไปมาได้สะดวก ก็ได้รายชื่อเพิ่มมาอีก 2 แห่งนั่นก็คือ

(กลุ่มโรงเรียนที่ 2)

โรงเรียนสามเสนวิทยาลัย
โรงเรียนโยธินบูรณะ

ซึ่งทั้งสองโรงเรียนเป็นโรงเรียนรัฐบาลและมีห้องเรียนพิเศษ EP ตอนนั้นไม่รู้หรอกครับว่า ทั้งสองโรงเรียนนี้มีชื่อเสียงด้านห้องเรียนพิเศษ EP และ มีการแข่งขันสูง ทั้งในการสอบเข้าและในเวลาเรียน…ทะเล่อทะล่า เอามาเป็นตัวเลือกกับเขาด้วย

ก็เลยลองหาข้อมูลดู ยิ่งขุดยิ่งลึก ยิ่งลึกก็รู้สึกว่ายิ่งยาก ก็เลยปรึกษากันว่าจะเอายังไงดี จะกล้าเสี่ยงไหม(ตรงนี้คุยกับลูกด้วย) และมาปรึกษาถึงถึงข้อดีข้อเสียถ้าเราจะเลือกมาสอบโรงเรียนในกลุ่มที่สองที่เรา List ออกมา ได้ข้อสรุปคร่าวๆว่า (ความเห็นส่วนตัวนะครับ)

อัตราการแข่งขันสูง เด็กเก่งๆในเมืองจะมาสอบที่นี่กันเยอะ โอกาสที่ลูกเราจะสอบได้…ก็ยิ่งน้อย ถึง …น้อยมาก
โครงสร้างวิชาการ หลักสูตร อาจารย์ผู้สอน ดูแล้วที่นี่ดีกว่าโรงเรียนในกลุ่มที่ 1
สิ่งแวดล้อม เพื่อนๆในห้องเรียน ที่นี่ก็น่าจะพึงพอใจมากกว่า เพราะว่าอย่างน้อยก็คัดเข้ามาตามการแข่งขันที่ค่อนข้างสูงอยู่แล้ว (หวังว่าจะชวนกันเรียนน๊ะ อิอิ)
ไกลมาก ระยะทางจากบ้านมาโรงเรียน 30 กม.(ไกลกว่าสวนกุหลาบรังสิต 10 กม.) แต่ก็จะสะดวกกว่าตรงที่จากบ้านสามารถขึ้นทางด่วนได้เลยและมาลงทางด่วนที่ ถ.พระราม 6 ก็จะถึงโรงเรียนสามเสนเลย แต่ถ้าเป็นโรงเรียนโยธินบูรณะ ก็จะต้องขับต่อไปอีกระยะทางหนึ่ง(รวมทั้งสถานที่ใหม่ที่กำลังจะย้ายไปของโรงเรียนโยธิน ดูแล้วรถก็น่าจะยิ่งติดมากด้วย)
ใช้เวลาเดินทางน้อยกว่าไปโรงเรียนสวนกุหลาบรังสิต แต่ก็ยังมากกว่าโรงเรียนสายปัญญารังสิต ถ้ามาเรียงลำดับจากความสะดวกและใช้เวลาในการเดินทางจากดีสุดไปดีน้อยสุดก็จะเป็นดังนี้ สายปัญญารังสิต – สามเสนวิทยาลัย – สวนกุหลาบรังสิต – โยธินบูรณะ

หลังจากนั้น ก็มาทำการวิเคราะห์ระหว่างสองโรงเรียนในกล่มสองนี้ นั่นคือ สามเสนวิทยาลัย กับ โยธินบูรณะ เพราะเมื่อเทียบเรื่องต่างๆแล้ว ทั้งสองนี้ผมให้คะแนนพอๆกันครับ คือลูกจะไปเรียนที่ไหนก็ได้(ถ้าสอบได้ อิอิ)

ระหว่างโรงเรียนสามเสนกับโรงเรียนโยธินบูรณะ สามเสนจะสะดวกกว่าในแง่การเดินทาง (ข้อนี้จบเลยครับ เลือกสามเสน)
โยธินอัตราการแข่งขันในการสอบเข้าจะน้อยกว่าสามเสนพอสมควร (ดูจากสถิติปีที่ผ่านๆมา 2-3 ปีล่าสุด) และในปีที่ลูกเราสอบนี้ สามเสนก็มีการแข่งขันสูงกว่าพอสมควร
โรงเรียนโยธินบูรณะ มีค่าแรกเข้า 100,000 บาท ส่วนโรงเรียนสามเสนวิทยาลัยไม่มีค่าแรกเข้า 100,000 บาท
(ของโรงเรียนสามเสนวิทยาลัย มาทราบเอาตอนวันรายงานตัวแล้ว ทางโรงเรียนบอกว่า เวบต่างๆเขียนกันไปทำให้เข้าใจว่าต้องจ่าย 100,000 บาท แต่ความเป็นจริง ไม่มี… ตอนนั้นเหมือนถูกหวย หนึ่งแสนบาทเลย เตรียมเงินมาแล้ว เอากลับบ้านได้ อิอิ)
หมายเหตุ ข้อนี้เป็นข้อมูลประกอบการพิจารณาสำหรับท่านผู้ปกครอง ที่จะให้ลูกสอบปีต่อๆไปนะครับ ตอนรุ่นลูกผม ผมยังได้รับข้อมูลว่าต้องจ่าย 100,000 บาทจากเว็บไซด์ทุกที่เลยที่ Search หาเจอ
อีกข้อนึงที่มาเก็บข้อมูลได้ตอนหลังก็คือ ผลคะแนนการสอบเข้าที่ผ่านมาของทั้งสองโรงเรียน สามเสนวิทยาลัยมีให้เห็นชัดเจน ทุกคน ทุกวิชา ส่วนโยธินบูรณะนั้น จะไม่ประกาศในภาพรวม แต่จะให้เด็กทราบคะแนนของตัวเองเท่านั้น ซึ่งตรงนี้สำคัญสำหรับผมมาก เพราะเอามาวิเคราะห์ได้เลยว่า คะแนนสูงสุด ต่ำสุด ของทั้งสองวิชาเท่าไหร่ ลูกเราควรจะต้องทำได้ในแต่ละวิชาเท่าไหร่ เดี๋ยวตอนต่อๆไปจะเอามาให้ดูนะครับ
สามเสนรับ 120 คน 4 ห้อง ห้องละ 30 คน เมื่อเรียนจริงก็มีห้องละ 30 คน ไม่ขาดไม่เกิน ส่วนโยธิน แต่ละห้องมีเกิน 30 คนมาบ้าง บางห้อง 34, 36 คน อะไรประมาณนั้น(ทราบจากผู้ปกครองของเพื่อนลูกที่สอบเข้าไปได้ในปีเดียวกัน)

เราจึงได้ข้อสรุปว่า จะเลือกสอบที่ โรงเรียนสามเสนวิทยาลัย English Program

ทั้งนี้ ต้องทำความเข้าใจก่อนนะครับว่า ทุกโรงเรียนที่ได้กล่าวมาแล้ว ในการสอบคัดเลือกห้องเรียนพิเศษ จะสอบวันและเวลาเดียวกันทั้งหมด ดังนั้น เราจะต้องตัดสินใจเลือกไปสอบที่ใดที่หนึ่งเท่านั้น ในบางโรงเรียนที่มีการแข่งขันน้อย ก็อาจจะเปิดรับรอบสอง และ โรงเรียนสาธิตต่างๆ ก็จะสอบกันคนละวัน

มาเพิ่มเติมข้อมูลของสามเสนวิทยาลัย ในวันที่เราไปสมัครสอบ Pretest และเดินเล่น ได้เห็นบอร์ดแสดงผลการสอบ ONET ของทั้ง ม.3 และ ม.6 ซึ่งเมื่อดูโดยรวมแล้ว ถือได้ว่าอยู่ในระดับที่ดียิ่งนัก อันนี้หมายถึงเฉลี่ยเด็กทั้งโรงเรียนนะครับ ไม่ได้หมายถึงเฉพาะห้อง Gifted หรือห้อง EP