SINGAPORE :: การเดินทางไป V Hotel Lavender Singapore ที่พักสุดสะดวก มีรถไฟใต้ดินอยู่ใต้โรงแรม

singapore


V Hotel Lavender รีวิวนี้เป็นส่วนหนึ่งของการรวบรวมการท่องเที่ยวของครอบครัวเรา มาเก็บไว้ที่นี่

เพื่อเป็น ไดอารี่การท่องเที่ยวของครอบครัวเราไปในตัว

การไปเที่ยวสิงค์โปรครั้งนี้ ตั้งแต่เมื่อปี 2557 นะครับ

ช่วงนี้ ไม่มีโอกาสได้ไปเที่ยวที่ไหนเท่าไหร่ ต้องรอปิดเทอมหละครับ


V Hotel Lavender Singapore

ทริปนี้ เราเดินทางด้วยเจ้าจำปี และไปพักที่ V Hotel Lavender ด้วยความบังเอิญ ความผิดพลาด ความสะเพร่า ของผมเอง เพราะว่าตอนแรกที่หาข้อมูล หลังจากเปรียบเทียบและเลือกอยู่หลายที่ ก็ตกลงปรงใจที่จะพักที่ V Hotel Bencoolen เปรียบเทียบราครา จากเว็ปที่ใช้เป็นประจำซึ่งก็คือ booking และ agoda และเว็ปของโรงแรมเอง

สุดท้ายเราก็ตกลงจองไปกับ booking.com ในราคาที่รับได้ และ ยกเลิกฟรีด้วย อีกสามสี่วันถัดมา มาเจอว่าที่ agoda ราคาถูกกว่าอีก ก็เลยเปลี่ยนใจยกเลิกที่ booking แล้วมาจองที่ agoda

ไม่เท่านั้น อีกหนึ่งสัปดาห์ผ่านมา เราก็เจอว่า ที่ agoda มีราคาและห้องที่ดีกว่าแต่ไม่รวมอาหารเช้า ซึ่งรวมแล้วถูกกว่าเป็นหมื่นบาท ซึ่งอาหารเช้าเราก็ไม่ได้สนใจอยู่แล้ว เพราะเท่าที่ดูมา แถวโรงแรมมีร้านอาหารขายเพียบ  ก็เลย ยกเลิกจองเก่า(ยกเลิกฟรี) มาจองอันใหม่ เสร็จแล้วก็จบ กะว่า ไม่มาดูอีกล๊ะ ขี้เกียจเปลี่ยน

จนกระทั่งคืนก่อนเดินทาง ชักเอะใจ จึงเปิด Confirmation letter ออกมาดู โป๊ะเช๊ะเลย มาได้ที่ V Hotel Lavender แทนที่จะเป็น V Hotel Bencoolen แต่จริงๆก็ไม่มีผลอะไรหรอก เพราะพวกเราเคยชินกับสิงค์โปรพอสมควร ผมเคยมาฝังตัวอยู่ที่นี่เป็นเดือนๆ และช่วงหลายปีมานี้แม่ของบอลล์ บอลล์ ก็มาประชุมที่นี่ทุกๆเดือน


ทริปนี้เราบินด้วยเจ้าจำปี ก็เลยต้องถ่อสังขารมาถึงสุวรรณภูมิ(บ้านเราอยู่แถวดอนเมือง) ไฟท์เราประมาณสี่โมงเย็นแต่ก็ออกจากบ้านมาตั้งแต่เที่ยงครึ่ง เพราะกะว่าคงหาที่จอดรถยากแน่ๆ และก็จริงอย่างที่คิด วนหาที่จอดรถอยู่พอสมควร

aabxIMG_8354

หลังจากนั้นก็ตรงมาหาที่เช็คอินเลย

aabxIMG_8358

แถวเช็คอินก็ยาวไม่มาก เนื่องจากไม่ได้เป็นช่วงเวลาที่ท๊อปฮิต

aabxIMG_8364

เสร็จแล้วก็กรอกใบ ตม.เลย ของใครของมัน กรอกกันอย่างคล่องแคล่ว

aabxIMG_8368

แล้วก็ไปหาอะไรรองท้องกันที่นี่ ปีนี้เราได้ย้ายไปอยู่ premiere lounge แล้วaabxIMG_8395 aabxIMG_8397 aabxIMG_8398

ออกเดินทางไปดินแดนลอดช่องกันนะครับ aabxIMG_8423

เช่นเคย เวลาเดินทางเราจะเข้าไป request อาหารใน website ก่อน และระบุเป็นอาหาร seafood ข้อดีก็คือได้ทานอาหารตามที่เราต้องการ และที่ดีกว่าก็คือ เขาจะยกมาเสริฟให้เราก่อนเลย ก่อนที่จะเริ่มเข็นรถออกมาเดินแจก เป็นสิทธิ์ที่ทางสายการบินมีให้ลูกค้าเลือกอยู่แล้ว

aabxIMG_8428

ประมาณ สองชั่วโมงเราก็มาถึงชางฮีแอร์พอร์ตแล้ว เราก็ไม่ลืมที่จะลองเกาะกระแส Free WiFi
ซึ่งก็สามารถเกาะได้อย่างง่ายดาย ประหยัดค่าเน็ทไป

aabxIMG_8460

เดินตามๆกันไป มาถึงจุด Immigration ตรงนี้ยังถ่ายรูปได้อยู่ แต่ลงไปด้านล่างก็ระมัดระวังกันหน่อย เพราะมีชายอินเดียถ่ายรูปด้านล่างนั้นเลยโดนเล่นเลย เชิญไปห้องเย็น …. ถ้าอยากสบายๆ ก็อดใจรออีกนิด aabxIMG_8461

ตอน Immigration ก็เกรงว่าจะเจอปัญหาบ้างเล็กน้อยจาก Passport ของ บอลล์ บอลล์ เนื่องจากว่าเล่มนี้ทำมาหลายปีที่แล้ว รูปใน passport กับตัวจริงตอนนี้ ต่างกันมากมาย ดูจิ อิ อิ
แต่ด่านนี้ ผ่านได้สบายมาก (เจอปัญหาตอนกลับมาจาก Legoland มาเลเซีย ขากลับเข้ามาสิงค์โปร ก็โดนทักนิดหน่อย)bximg013x

 

เมื่อผ่านมาแล้ว ก็วิ่งฉลุยเลย ตรงไปยัง Belt ที่ระบุทันที

aabxIMG_8463

อย่างรวดเร็ว งานนี้เราให้ บอลล์ บอลล์ เป็นคนนำทางตลอดทั้งทริป ไม่ซื้อเน็ท ไม่หยิบแผนที่ ไปดูตามสถานีรถไฟ
ว่าแล้วก็เดินตามเส้นทางที่ระบุว่าจะไป Terminal 2 (T2) เผื่อไปต่อรถไฟฟ้า MRT เข้าเมืองกัน

aabxIMG_8467

แป๊บเดียว รถก็มา ขึ้นมาบน Free Shuttle Train ระหว่าง Terminal สบายๆไม่กี่วินาทีก็มาถึง Terminal 2

aabxIMG_8468

ตามป้าย Train to City ไปได้เลย

aabxIMG_8470 aabxIMG_8471

มีลงบันไดเลื่อนสูงๆชันๆ 2 ตอน

aabxIMG_8472

ลงบันไดเลื่อนนี้ไป แล้วลงด้านหน้าโน้นซ้ายมืออีกที aabxIMG_8473

จากบันไดเลื่อนที่สอง ลงมาก็จะเจอ Counter ขายบัตร EZ Link สามารถซื้อได้เลย
หรือใครอยากเติมเงินก็เติมได้ ด้านข้างบันไดก็มีตู้สำหรับเติมเงินบัตรได้ด้วย

aabxIMG_8476

ได้มาแล้ว EZ Link

aabxIMG_8507

เสร็จแล้วก็ใช้บัตรเต๊อะเข้ามาด้านในชานชลารอรถเข้าเมืองได้เลย

aabxIMG_8477 aabxIMG_8479

เราเริ่มออกจากสถานี CG2 (Changi Airport) สายสีเขียว แต่เดี๋ยวเราต้องไปเปลี่ยนรถที่สถานี EW4 (Tanah Merah) ปลายทางของเราก็คือ EW11 (Lavender) เออ… มันง่ายดีแฮะ เพราะสถานี EW11 อยู่ใต้โรงแรมที่เราจะพักพอดี

map01

 

aabxIMG_8486

มาถึงสถานี EW11 (Lavender) ก็เดินลากกระเป๋าออกมาได้เลย เดี๋ยวเราจะไปโรงแรมกันล๊ะ

aabxIMG_8488

ขึ้นบันไดมาก็เจอสภาพแบบนี้เลยครับ ที่เห็นสว่างๆนั้นจะเป็นศูนย์อาหารเปิดตลอด 24 ชั่วโมง

จากรูปนี้ทางด้านซ้ายบน จะมีป้ายบอกทางให้เดินตรงไปเพื่อไปยังโรงแรม V Hotel

ก็เดินตรงไปผ่านร้านขายของตรงนั้น 5-6 ร้าน แล้วเลี้ยวขวาก็ถึงโรงแรมเลยครับ

aabxIMG_8490

Lobby โรงแรมก็ประมาณนี้นะครับ (แต่รูปนี้ถ่ายกลางวัน) ตอนเรามาถึงนี่ ประมาณจะ 2 ทุ่ม

aabxIMG_8540

เมื่อได้ Key Card แล้วเราก็ไปที่ห้องกันเลย

aabxIMG_8509

กดลิฟท์ขึ้นไปชั้น 12 ทางเดินหน้าห้อง

aabxIMG_8501

ห้องที่เราจองเป็นแบบ Triple Room คือมีเตียงสำหรับนอนสามคนว่างั้นเหอะ ไม่ต้องขอเตียงเสริม

aabxIMG_8497 aabxIMG_8498

ลองดูวิวจากหน้าต่างห้องเราตอนเช้า นะครับ โดมที่เห็นนั่นเป็นสนามกีฬาในร่มที่หลังคาสามารถเปิดปิดได้ ที่เราเห็นในกีฬาซีเกมส์ไงครับ

โห มันใกล้ขนาดนี้เลยหรอ

aabxIMG_8511 aabxIMG_8514

ด้านหน้าโรงแรมตรงจุดที่เราเดินขึ้นบันไดมาจากสถานีรถไฟใต้ดินนั้น ก็เป็นป้ายรถเมลล์ด้วย โหมีครบเลย ยังขาดท่าเทียบเรือ 5 5 5

aabxIMG_8532

ร้านขายน้ำจับเลี้ยง น้ำเก๊กฮวย ใต้ตึกโรงแรม ร้านนี้เราก็ซื้อดื่มทุกวัน ซื้อจนลูกสาวร้านนี้พูดภาษาไทยได้นิดหน่อยเลย

aabxIMG_8543

ร้าน Kopitiam ที่เราฝากท้องอาหารเช้า ไว้ที่นี่เลย สบายๆ

aabxIMG_8505

เหมือนฟาร์ดฟูดบ้านเราแหละครับ aabxIMG_8521

 

ว่าแล้วก็สำรวจอาหารกันเลย

aabxIMG_8526 aabxIMG_8530 aabxIMG_8524

 

จากโรงแรม ตอนขากลับจะไปสนามบิน ก็ไม่ใช่เรื่องยากแล้วครับ
ใครกลับไฟท์เย็นหรือค่ำ ก็ Check Out ก่อนได้เลยครับแล้วฝากกระเป๋าไว้ หลังจากนั้นจะไปลั้ลลาที่ไหนก็ไปได้เลยครับ

aabxIMG_8542

 

เดี๋ยวตอนต่อๆไป จะพาไปเที่ยวส่วนอื่นๆของสิงค์โปรบ้างนะครับ