ซีอาน อดีตเมืองหลวงที่ยิ่งใหญ่ของจีน มาหลายยุคหลายสมัย
ทริปนี้ เราจะไปเที่ยวตามสถานที่สำคัญต่างๆของเมือง ซีอาน ลั่วหยาง และไปที่เขาฮั้วซาน
สวัสดีครับ เนื้อหานี้ นับเป็นเนื้อหาแรกที่เปิดเวบท่องเที่ยวแบบครอบครัวของพวกเรา ในชื่อของ myRemainingTime ซึ่งหมายความถึง …จะเล่าเรื่องท่องเที่ยวตราบเท่าเวลาที่เหลืออยู่ นั่นเอง …
“เที่ยวเมืองจีน” หลายๆคนถามคำถามเดียวกันกับเราก็คือ “ไปกับทัวร์ไหนหรอ?” “ดีมั๊ย ต้อนไปซื้อหยกซื้อยาซื้อโสมกี่ที่หงะ?”
แต่เราไปทัวร์กันสามคน พ่อแม่ลูก ไปกันเอง ไม่ได้คิดถึงทัวร์เลย
อ่าว…..แล้วจะคุย จะสื่อสารกับเขารู้เรื่องหรอ?
แน่นอน … เรื่องนี้ย่อมต้องเป็นเรื่องใหญ่ เพราะที่เมืองจีน โดยเฉพาะที่ซีอานนี้ ภาษาจีนเราก็ไม่ได้ ภาษาอังกฤษเขาก็ไม่เอา ภาษาเราเขาก็ไม่พูด
เอาละสิ แล้วจะทำยังไง …. เดี๋ยววันนี้เรามีคำตอบ …
เพราะว่าพวกเราสามารถ ไป-กลับมาได้อย่างชิลๆ สนุกสนานในราคาที่ประหยัดกระเป๋า
ความจริงแล้วทริปนี้มีต้นเหตุมาจากหนังสือการ์ตูนสามเล่มนี้นั่นเอง เพราะบอลล์ไปนั่งอ่าน นอนอ่าน ที่ร้านซีเอ็ด อ่านจบสามเล่มยังอุตส่าห์ซื้อกลับมาบ้านอ่านอีก เอากลับมาบ้านก็ทั้งอ่านทั้งดูอยู่หลายรอบ แล้วบอกว่า “อยากไปดูของจริงด้วยตาตนเองจริงๆเล๊ยยยย …..” อ่าว … เอากับเขาดิ
หนังสือสามเล่มนี้ ทำให้คนสามคน ต้องระหกระเหินเดินทางไปยังเมืองซีอาน เมืองที่เราเองก็ไม่รู้ว่ามันอยู่ตรงไหนของเมืองจีน เพราะว่าเคยไปแต่คุนหมิง กวางโจว และ เซี่ยงไฮ้
แต่ด้วยสังคมออนไลน์ซึ่งมีทั้ง พันทิบ, tripadvisor, travelchinaguide, etc. ทำให้พวกเราสามารถวางแผน และ เดินทางมาเที่ยวได้อย่างสนุกสนานสมบูรณ์แบบ และนำพาพวกเรามายังสถานที่จริงที่นี่
สำหรับทริบนี้ เราไปหลายสถานที่ในสามเมือง ก็คือเมืองซีอาน เมืองลั่วหยาง และ เมืองฮั้วซาน
ดังนั้นคงต้องมีเรื่องมาเล่ากันหลายเรื่องหลายมุมแน่ๆ อธิเช่น (อาจจะเน้นรูปมากเป็นพิเศษนะครับ เพราะอยากบอกสิ่งที่เราเห็น แต่บางครั้ง มันขีดเขียนออกมาเป็นตัวอักษรได้ไม่ละเอียดเท่ารูปภาพ)
การเตรียมตัว และ การเดินทาง
(อยู่ในโพสต์นี้นะครับ ด้านล่าง)
โรงแรมที่พัก (แนะนำๆ ชอบมาก อิอิ)
หอระฆัง (Bell Tower) 钟楼 – Zhong Lou
หอกลอง (Drum Tower) 鼓楼 – Gu Lou
ถนนมุสลิม (Muslim Square) 回民街 – Hu Min Jie
สุสานทหารจิ๋นซีฮ่องเต้ (Terracotta Warrior) 兵马俑 – Bing Ma Yong
เจดีย์วัดห่านป่าใหญ่ (Giant wild goose pagoda) 大雁塔 – Da Yan Ta
กำแพงเมืองเก่าซีอาน (Xian City Wall) 西安城墙 – Xian Cheng Giang
ผาลั่วหยางหลงเหมิน(Luayang Longmen) 龍門 石窟 – Longmen Shi Ku
เมืองเก่าลั่วหยาง(Luayang Old Town)
เขาฮั้วซาน (Hua Shan Mountain)
การเตรียมตัวและการเดินทาง
สำหรับในโพสต์นี้ เราจะขอเล่าเรื่องเกี่ยวกับการเตรียมตัวและการเดินทางก่อนนะครับ ส่วนเรื่องเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ จะแยกเป็นแต่ละโพสต์สำหรับที่เหล่านั้นนะครับ
XIAN หรือ XI’ AN หรือซีอาน หรือ เซียนหรือ 西安
ซีอาน เป็นเมืองหลวงของมณฑลซานซี จะอยู่ทางด้านตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศจีน ซึ่งคำว่าซีอานนั้นแปลว่า “สันติภาพแห่งตะวันตก”
เมืองซีอานเคยเป็นเมืองหลวงของราชวงศ์ต่างๆถึง 13 ราชวงศ์ อธิเช่น ราชวงศ์โจว ราชวงศ์ชิน ราชวงศ์ฮั่น และ ราชวงศ์ถัง และที่สำคัญก็คือ เมืองนี้เป็นจุดหมายปลายทางของเส้นทางสายไหมที่เลื่องชื่อในสมัยโบราณด้วย
ประวัติศาสตร์ของเมืองนี้มีมายาวนานกว่าสามพันปี มีบุคคลสำคัญๆต่างๆทั้งที่เราคุ้นหูและไม่คุ้นหูอยู่ที่เมืองนี้หลายคนเช่น จิ๋นซีฮ่องเต้, พระนางบูเช็คเทียน จักรพรรดินีพระองค์แรกและพระองค์เดียวแห่งบัลลังก์มังกร, จอมนางหยางกุ้ยฟุย ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในสี่สาวงามแห่งแผ่นดินใหญ่, พระถังซำจั๋ง ที่พวกเรารู้จักกันที่ไปอัญเชิญพระไตรปิฏกจากชมพูทวีปมาสู่ดินแดนแผ่นดินใหญ่
ในปัจจุบัน เมืองซีอานมีรายได้หลักจากอุตสาหกรรมการทอผ้า การกสิกรรม และ การท่องเที่ยว แน่นอนเลย เราเดินทางออกนอกเมืองนิดเดียว จะเห็นแต่ไร่นาแปลงผักสุดลูกหูลูกตา (ลูกตา ก็พอรู้จัก แต่ลูกหู มันคือส่วนไหนของร่างกาย น๊ะเนี๊ยะ)
ดูตำแหน่งแห่งที่ของเมืองซีอานบนแผนที่ประเทศจีนจากภาพนี้นะครับ
จองตั๋วบินตรงสู่ซีอาน
ทุกวันนี้สายการบินที่บินตรงไปสู่เมืองซีอาน (เขาอ่านกันเร็วๆอ่านว่า เซียน นะครับ) ก็มีเพียงแค่สายการบินหางแดงเท่านั้น ดังนั้นถ้าเราอยากจะไปแบบสบายๆ(สบายกระเป๋าด้วย) ก็หาวันจองโปรฯ ได้เลยครับ
เที่ยวบินที่ FD 3842 เส้นทาง กรุงเทพฯ(ดอนเมือง) – ซีอาน เวลา 09.30-14.35 ทุกวัน
เที่ยวบินที่ FD 3843 เส้นทาง ซีอาน – กรุงเทพฯ(ดอนเมือง) เวลา 15.25-18.40 ทุกวัน
สังเกตนะครับว่า เวลาเครื่องทั้งขาไปขากลับ ผมว่ากำลังดีเลยครับ (วันที่เดินทางจริงๆ ก็รู้สึกชอบเวลานี้ ไม่เหนื่อยเกิน) แต่การเดินทางไปเมืองจีนและคนจีนเยอะๆ บางครั้งต้องทำใจนิดนะครับ เรื่องวุ่นๆมันเยอะจริงๆ บางเรื่องเราก็คาดไม่ถึง ไว้เดี๋ยวจะเล่าให้ฟังตอนช่วงการเดินทาง
จองโรงแรมไหนดี
เดี๋ยวผมมีรีวิวโรงแรมและห้องพักให้ชมนะครับว่า เป็นอย่างไรบ้างเสร็จแล้วก็จองโรงแรม หลังจากที่ตระเวนอ่านรีวิวของหลายๆท่าน ก็ฟันธงแล้วหละว่าจะไปที่ Citadines Xian Central ก็ยังไม่มั่นใจว่าห้องจะเป็นอย่างไร แต่ดูแล้วราคาน่าสนใจ และอยู่ในทำเลที่เหมาะสมก็เลยจองไปเลยไปลุ้นกันหน้างานเลย ตอนแรกผมก็จองกับ booking.com แล้วยกเลิกเปลี่ยนเป็น expedia แทน เนื่องจากว่าถูกกว่าแถมมีอาหารเช้าด้วย ราคาห้องแบบ Studio ที่เพียบพร้อม เดี๋ยวเราจะรีวิวให้ดูว่า ห้องมีอะไรบ้าง ในสนนราคาคืนละ 14xx บาท ถ้าจะมีถูกกว่านี้อีก ก็ตามใจล๊ะ ขี้เกียจตามเฝ้าแล้ว 5 5 5
อนึ่ง ขอบอกว่า Melody Hotel ที่เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวแบบพวกเรา(ชาวไทย)นั้น มีอันต้องปิดกิจการลงไปแล้ว ตามการยกเลิก Airport Shuttle Bus สาย 6 สายที่มาจอดหน้าโรงแรมเลย(ไม่รู้ว่าเหตุผลที่ยกเลิก Airport Bus คืออะไร สงสัยรถติดมั้ง เลยไม่ให้เข้ามากลางเมือง) (มีรูปให้ดูตอนเดินเที่ยวเมืองซีอานนะครับ)
ส่วน Hostel ที่เราไปพักที่เมืองลั่วหยาง เราก็จองผ่าน booking.com นั่นแหละครับ เป็นห้องแบบสามเตียงนอน มีห้องน้ำในตัว ราคาตกคืนละประมาณ7xx บาท ต่อห้อง(สามคน)
ต้องขอวีซ่าด้วยนะ
เรียบร้อยแล้ว ก็อย่าลืมยื่นขอ VISA ด้วยหละ แต่มานึกขึ้นได้ว่า passport ของบอลล์ บอลล์ รูปในนั้น มันไม่เหมือนตัวจริงมากแล้ว ครั้งที่แล้ว immigration ที่สิงค์โปรกับมาเลเซีย ทักแล้วทักอีก เพราะใน passport ยังผมยาวปะบ่า แต่ตอนนี้ตัวจริงผมสั้นรองทรงแล้ว และอีกอย่าง scan นิ้วที่เครื่องตรวจหนังสือเดินทางก็ผ่านมั่งไม่ผ่านมั่ง (แต่ที่ดอนเมือง ยังไม่เห็นเครื่องนี้นะ) ก็เลยตัดสินใจไปทำใหม่กัน เช้าวันจันทร์ไปทำก่อนไปโรงเรียน ทำเสร็จไปโรงเรียนยังทันเรียนคาบแรกเลย เร็วจริงๆ แถมทำวันจันทร์วันพุธได้ล๊ะ โอววววววว ส่งถึงบ้านเลย
รับเล่มมา เปรียบเทียบสามคนพ่อแม่ลูก สีไม่เหมือนอย่างที่เคยมีคนตั้งกระทู้ในพันทิปแล้วเป็นข่าวทางทีวีนั่นแหละ อิอิ
ดีน๊ะ ที่สีไม่เหมือนกันทั้งสามเล่มเลย ถ้าเหมือนสองอีกหนึ่งไม่เหมือน จะมีปัญหา
แต่พอไม่เหมือนกันเลยสามเล่ม เขาคงนึกว่า ประเทศนี้มันแบบ มัลติคัลเลอร์ มั้ง
รับเล่มมา ก็ไปยื่นเรื่องขอทำวีซ่าเลย รายละเอียดการยื่นขอวีซ่า ตามไปที่กระทู้นี้ในพันทิปเลยครับ อธิบายไว้ดีแล้ว ขอบคุณ คุณ KiMaLdInHo ด้วยนะครับ
วีซ่าจีน… ยื่นอย่างไรให้ผ่าน (09/2014)
http://pantip.com/topic/32629735
วันที่ผมไปยื่นวีซ่า ผมไปจอดรถที่ตึกฟอร์จูน แล้วขึ้นมอไซด์ บอกไปสถานทูตจีน เขาก็ขับมาจอดหน้าตึกๆหนึ่ง ผมก็งง อ่าว ไม่ได้เข้าไปในรั้วกำแพงใหญ่ๆนั่นหรอ นี่ถ้าเดินมาเอง ก็คงเดินเลยแน่ๆ จ่ายไป 15 บาท
เดินเข้าไปรับบัตรคิว ยื่นเรื่อง ใช้เวลาไม่นาน เดินกลับมาที่อาคารฟอร์จูนขับรถกลับบ้าน ใช้เวลาไม่ถึงชั่วโมง ไม่ต้องจ่ายค่าที่จอดรถด้วย สะดวกสบายดีเหมือนกัน วันที่ไปรับเล่มก็เช่นเดียวกัน
สภาพอากาศ
เราก็ศึกษาสภาพอากาศล่วงหน้าว่าช่วงเวลานั้นจะร้อนเย็นหนาวเหน็บขนาดไหน แย้มออกมาแล้วว่าเป็นเลขตัวเดียว แถมมีเลขตัวเดียวติดลบด้วย สอบถามท่านที่เคยเดินทางไปช่วงเวลานั้น ก็บอกว่าเย็นมากลมแรงแต่ไม่มีหิมะ ยกเว้นบนยอดเขาในเมืองอื่นๆที่ออกมานอกๆเมือง
ด้วยที่ก๊วนเราเป็นพวกสูงวัยสองคนกับเยาว์วัยอีกคน จึงต้องแสวงหาเครื่องทำร่างกายให้อบอุ่น ของเราเองก็ไปปัดฝุ่นของเก่าๆที่ยังใช้ได้อยู่ แต่บางชิ้นก็หมดสภาพใช้ไม่ได้แล้ว ส่วนของบอลล์ บอลล์ ต้องจัดหาใหม่เพราะของเก่าใส่ไม่ได้แล้ว เด็กกำลังโต
หลังจากนั้นก็มาหาข้อมูลในพันทิบอีกนี่แหละ จึงได้สูตรออกมาเป็น
ชั้นในสุด เป็น Heattech แบบบางแนบเนื้อ ความเย็นไม่ให้เข้า ความร้อนไม่ให้ออก
ชั้นที่สองเป็น Heattech Fleece เสื้อคอเต่า
ชั้นที่สามเป็นเสื้อกันหนาวขนเป็ด
บางวันมีแถมเสื้อกันหนาวแทรกระหว่างชั้นสองกับชั้นสามด้วย ปรากฏว่า เอาอยู่ สบายมาก
++++ แต่ส่วนล่างนี่สิ ++++
ชั้นในสุดเป็น heattech แบบบางแนบเนื้อ
ชั้นนอกเป็นกางเกงยีนส์
ปรากฏว่า สำหรับเจ้าหนู บอกว่าปวดขาในวันที่หนาวจริงๆ บางวันจึงมีอีกชั้นด้วย
คืนแรกก็เลยเดินไปซื้อเจ้าถุงร้อนมาใช้ ปรากฏว่า ใช้ได้ผลดีมาก เราเองก็เอามาใช้ด้วย แต่ละชิ้นใช้ได้นานหลายชั่วโมง ซึ่งก็สบายๆสำหรับพวกเรา เราเดินไปซื้อที่ซุปเปอร์มาเก็ตที่อยู่ใต้ Bell Tower เลย
อีกอย่างนึงที่ค่อนข้างจำเป็นก็คือ Mask ไม่ได้เอาไปใส่เท่ห์ หรือ กันหนาวอะไรหรอกครับ แต่ว่า ควันและกลิ่นบุหรี่ ที่นี่ไม่ธรรมดาจริงๆ มีทั่วทุกแห่งหน นอกจากจะต้องเดินหลบน้ำลายแล้ว ยังต้องเดินหลบกลิ่นบุหรี่อีกด้วย อย่ากระนั้นเลย บุหรี่หลบยากจึงเตรียม mask ไปจากบ้านเลย แต่เอาไม่อยู่ ปรากฏว่าที่โน่นมี mask วางขายเยอะมากทั้งตามข้างถนนและในห้างเล็กห้างใหญ่ มีทั้งแบบธรรมดา มีลายฉูดฉาด ถูกๆไปจนถึงแพงๆ
แบบว่า คนจีนเองที่ไม่สูบบุหรี่ก็ใช้กันเกือบทุกคน ทนพวกเดียวกันไม่ได้เหมือนกัน ดังนั้นอย่าได้แปลกใจนะครับว่า ทำไมทริปนี้ ไกด์เราใส่ mask เกือบตลอดเวลาเลย คุณแม่ไม่ได้ใส่ ปรากฏว่า วันที่สามไม่สบายเลย
ของที่เราซื้อมาเป็นแบบนี้ ใส่สบายกันกลิ่นกันควันบุหรี่ได้อย่างเด็ดขาดจริงๆ บอลล์ บอลล์ ชอบมาก
ออกเดินทางกันครับ
ถึงวันออกเดินทาง อุปสรรค์มาเยือนอีกแล้ว จะพิมพ์แผนการเดินทาง พิมพ์รูปภาพออกมาในคืนก่อนวันที่จะออกเดินทาง ปรากฏว่า printer มาเสียในวันสุกดิบแบบนี้พอดี ก็เลยต้องใช้ save รูปไว้ในโทรศัพท์ แล้วไปว่ากันข้างหน้า
โชคดีที่ Airasia อยุ่ที่ดอนเมือง ทำให้เราไม่ต้องเดินทางไกล จากบ้านไปดอนเมืองไม่ถึงครึ่งชั่วโมงก็มาเดินเฉิดฉายกันแล้ว มองหาเคาท์เตอร์เพื่อเช็คอินเลย เนื่องจากเราเผื่อเวลามาค่อนข้างเยอะ เลยไม่ต้องรีบ สบายๆ
ถึงคิวของเรา น้ำหนักซื้อมาล่วงหน้า ชั่งกระเป๋ามาล่วงหน้า ก็เลยสะดวกรวดเร็ว
เสร็จแล้วก็ต้องเขียนใบ immigration
ได้เวลาออกเดินทาง
ขึ้นมาบนเครื่องกว่าจะได้ออก เสียเวลาไปกว่าครึ่งชั่วโมง ผู้โดยสารชาวจีนมักมีอะไรแปลกๆทำให้เสียเวลาโดยใช่เหตุจริงๆ ทั้งมาสาย มีปัญหาเรื่องการวางกระเป๋า บราๆๆๆ เรื่องแย่งที่นั่งก็อีกเรื่อง ตรงที่นั่งข้างหน้าเราเลย คือแบบว่ามากันเป็นกรุ๊ปทัวร์ คนขึ้นมาก่อนก็มานั่งที่ด้านหน้า นั่งข้างหน้าต่าง พอเจ้าของที่มา(กรุ๊ปทัวร์เดียวกัน) ก็ไม่ยอม จะนั่งตามบอร์ดดิงของตัวเอง คนที่มาก่อนก็ไม่ยอมลุก … โอ้โห เถียงกันยังกับตลาดสด ดังลั่น แอร์มาห้ามศึกบอกให้นั่งตามบอร์ดดิงก็ไม่ยอม ไกด์มาหย่าศึกให้คนมาทีหลังไปนั่งด้านหลังก็ไม่ได้ นั่งดูนั่งฟังก็เพลียแล้ว สงสารแอร์โฮสเตท รูทมาทางเมืองจีนจริงๆ ต้องมีความอดทนสูงมาก ที่สำคัญผมเห็นว่า ต้องเข้าไปเช็ดทำความสะอาดห้องน้ำ บ่อยมากด้วย
ได้เวลาไปกันแล้วครับ อาหารบนเครื่องเราก็สั่งล่วงหน้ามาก่อนเลย เพราะกะว่ามื้อนี้หม่ำบนเครื่อง ไปถึงปลายทางยังไม่รู้จะไปกินอะไรที่ไหน ก็เลยจัดการให้เสร็จๆไปก่อนซ๊ะเลย
อิ่มแล้ว ก็นั่งชมวิวย่อยอาหารกันต่อ
ชมคลิปการเดินทางได้ครับ
เครื่องมาถึงที่สนามบินเมืองซีอาน Xi’an Xianyang International Airport ปรากฏว่า มาเร็วกว่ากำหนด 20 นาที … โอ้โห ออกสายมาถึงก่อน
ตอนแรกวางแผนว่าจะขึ้นรถบัสสาย 6 ไปลงที่หน้าโรงแรมเมโลดี้ ตามรอยหลายๆท่านที่ไปมาแล้ว ปรากฏว่า รถเมล์สายนั้นเขายกเลิกไปแล้ว ตั้งแต่วันที่ 10 ตุลาคม 2014 และ โรงแรมเมโลดี้ ก็เจ๊งไปแล้วด้วย เดี๋ยวจะโชว์รูปให้ดูนะครับ
เราก็เลยเดินมาที่เคาท์เตอร์ passenger service center ซึ่งก็ดีที่พูดภาษาอังกฤษได้ สอบถามว่าจะเดินทางเข้าเมืองไปจงโหลวหรือbell tower ได้อย่างไร เขาก็บอกว่า ให้นั่งรถเมล์สายอะไรจำไม่ได้แล้วไปลงแถวๆกำแพงเมืองเก่า แล้วขึ้น taxi ไปโรงแรม
… สรุปเราก็เลยจ้าง taxi ไปโรงแรมเอาฤกษ์เอาชัยก่อน 5 5 5
คนขับแทกซี่ ก็พยายามชวนคุย พยายามชักชวนให้ใช้ taxi เขาเที่ยวเหมาเป็นวันได้น๊ะ จะไปสุสาน ไปโน่นนี่นั่น ตามสะดวก เราก็บอกว่าขอบใจ แต่เรามีแผนในการนั่งรถเมล์เที่ยวอยู่แล้ว (ตอบแบบมั่นใจมาก เหอะๆ)
ตรงนี้เป็นด่านเก็บเงินค่าทางด่วน ด่านแรกนี่จีนจ๋าเลย แต่ด่านสองนี่ยังกะจานบิน
Post ต่อไป เราจะไปดูโรงแรมที่เราพักกันครับ
Xian